account_circleเธอคือผู้หญิงยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจและชีวิตครอบครัว สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองไปพร้อมๆ กับบทบาทการเป็นคุณแม่ลูก 3 นอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของมงกุฎ Mrs. Thailand 2018 เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงก้าวสู่ความสำเร็จในทุกด้าน “คุณอ๋อ–ณัฏฐณิชชา โชตสิริเมธีกุล” เจ้าของแบรนด์โคโคโร่ โตเกียว (Cocoro Tokyo) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อคุณแม่ที่มีผิวแตกลายและเด็กที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
เมื่อพูดถึงผู้หญิงที่อายุเข้าใกล้เลข 4 แล้วยังรับบทเป็นคุณแม่ลูก 3 แบบ “คุณอ๋อ–ณัฏฐณิชชา โชตสิริเมธีกุล” นอกจากการที่ต้องเป็นนักธุรกิจหญิงแกร่งจนปลุกปั้นแบรนด์โคโคโร่โตเกียว (Cocoro Tokyo) กระทั่งขึ้นแท่นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าท้องสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ครองใจคุณแม่ทั่วประเทศ ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่เธอทำได้ดีไม่แพ้กันคือการเป็นภรรยาและแม่ของลูกๆ ไม่นับการเป็นเจ้าของมงกุฎ Mrs. Thailand 2018 เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงก้าวสู่ความสำเร็จในทุกด้านแบบที่เรียกได้ว่าสวยได้…โดยไม่ต้องพึ่งปาฏิหาริย์
คุณอ๋อเล่าว่า การดูแลตัวเองต้องทำสะสมอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ตัวเองโทรมไปกับสถานการณ์ของการเป็นแม่ หรืออื่นๆ เราสามารถดูแลตัวเอง ครอบครัว และหน้าที่การงานให้ดีไปพร้อมๆ กันได้ค่ะ อ๋อจะเล่าประสบการณ์ตรงและปัญหาที่ทำให้พบแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ โคโคโร่ โตเกียว ให้ทุกคนฟังกันค่ะ
“ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว อ๋อตั้งครรภ์ลูกคนแรกแล้วท้องแตกลายเยอะมาก ซึ่งตอนนั้นอ๋อใช้ทุกผลิตภัณฑ์ที่เขาว่าดีหมดแล้ว แต่อาจเพราะผลิตภัณฑ์สมัยก่อนมักมีคุณสมบัติเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่มีแบบที่ครบจบในผลิตภัณฑ์เดียว ตอนนั้นรอยแตกลายจึงไม่ดีขึ้น ซึ่งรอยแตกของคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดจากผิวขยายแล้วฉีกขาด พอคลอดแล้วท้องยุบลง สภาพอาจจะเหมือนกับผิวของคนวัยชรา เดิมอ๋อเคยชอบถ่ายรูปและเคยเป็นนางแบบถ่ายโฆษณา พอเกิดรอยแตกลายแบบนั้นก็จิตตก ไม่มั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์เหมือนเดิม ทั้งใจเสียและเสียใจ ที่สุดเปลี่ยนความรู้สึกนั้นเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ช่วยลดเลือนรอยแตกลาย ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่ออกมาคือ แอนตี้เซลลูไลท์เพื่อตอบโจทย์ความกังวลใจของคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ตามด้วยผลิตสินค้าอื่นๆ ที่ดูแลผิวพรรณของคุณแม่ทั้งช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด รวมถึงสินค้าสำหรับดูแลผิวบอบบางของลูกน้อยซึ่งบอกเลยว่า คุณแม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาโดยเฉพาะค่ะ
โดย คำถามยอดฮิตที่ทางแบรนด์ Cocoro Tokyo ได้รับบ่อยๆจากผู้บริโภคคือ ใช้โคโคโร่แล้วรอยแตกลายของผิวจะหายสนิทไหม ซึ่งเราจะตอบด้วยความจริงใจว่ารอยแตกลายคือรอยแผลเป็นชนิดหนึ่ง เมื่อเป็นแล้วไม่สามารถหาย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผิวจะดีขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป แล้วพอลูกค้าลองใช้ ปรากฏว่าได้รับผลลัพธ์มากกว่าที่คิดไว้ จึงเกิดการบอกต่อที่มีประสิทธิภาพ เราเรียกว่า ขายของด้วยการบอกความจริงกับลูกค้า และสิ่งที่ได้รับระยะยาว คือไม่ว่าจะมีผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กเกิดขึ้นมากแค่ไหน แต่แบรนด์โคโคโร่ โตเกียว ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ในใจของคุณแม่ กระทั่งได้รับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2021 ด้านสินค้าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และได้รับความไว้วางใจจนได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ที่ได้เข้าไปอบรมครรภ์คุณภาพของหลายโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศด้วยค่ะ
“มีอีกหนึ่งปัญหาที่อ๋อเคยได้รับจากลูกค้าคือ ถ้าแพ้ผลิตภัณฑ์ของเราจะทำอย่างไร อ๋อขอบอกเลยว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีคนแพ้เพียงไม่กี่คน ประมาณ 2 ปี อาจจะมีสักคน ส่วนใหญ่คนที่แพ้เขาไม่รู้ว่าตัวเองแพ้สารสกัดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ของเรา เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นอ๋อก็จะดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายตลอดการรักษา รวมถึงเราออกผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก สำหรับคนที่อยากซื้อไปลองใช้ก่อนว่าใช้แล้วเห็นผลดีขึ้นไหม ใช้แล้วแพ้หรือเปล่าด้วยค่ะ
และเมื่อพูดถึง อุปสรรค หรือความท้าทายในการทำแบรนด์ที่มาผ่านมีวิธีจัดการกับสิ่งต่างๆ ยังไง
อ๋อ ต้องขอบคุณสามี “คุณเช นายวราเศรษฐ์ จงประสิทธิผล’’ ผู้ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อตั้งแบรนด์จนประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ เขาเปรียบเสมือนคลังความรู้ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และคอยให้คำปรึกษาทางด้านการบริหาร ตลอดจนวางรากฐานของแบรนด์ให้แข็งแรง ดังนั้นไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรเราก็สามารถผ่านมาได้เสมอที่เห็นได้ชัดเลยคือช่วงสถานการณ์โควิด-19 สินค้าของเราวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและช่องทางออนไลน์เพจหลักของแบรนด์ รวมถึงผ่านตัวแทนจำหน่าย พอเกิดการระบาดหนักรัฐบาลสั่งปิดห้างสรรพสินค้า ตัวแทนจำหน่ายก็หันไปขายสินค้าตามกระแส อย่างหน้ากากอนามัย เจลแอลกอลฮอล์ทำให้ช่วงนั้นยอดขายแทบจะเป็นศูนย์
“โชคดีที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสามีช่วยวางแผนด้านงบประมาณ ทำให้เรามีกระแสเงินสดค่อนข้างดี ขณะที่แบรนด์อื่นๆ ต้องประหยัดงบ แต่โคโคโร่มีงบในการผลักดันเพจหลักของแบรนด์ และปรับแผนใหม่ด้วยการจัดโปรโมชั่นให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทางจำหน่ายสินค้า เช่น หากขายในช่องทางออนไลน์จะจัดโปรโมชั่นในรูปแบบเซ็ต เพราะลูกค้านิยมสั่งสินค้าจำนวนมากเพื่อให้ส่งที่บ้านครั้งเดียวเลย แต่ถ้าขายในห้างจะเป็นชิ้นต่อชิ้น หรือซื้อ 1 แถม 1 เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ
“รวมถึงที่ผ่านมาโคโคโร่ โตเกียว จะสต๊อกสินค้าแต่ละล็อตไว้ไม่มาก เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของออร์เดอร์ได้เร็วรวมถึงลูกค้าได้ใช้ของใหม่ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุด้วยค่ะ
สุดท้ายอ๋ออยาก ฝากถึงผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากจะประสบความสำเร็จทั้งในชีวิต และการทำธุรกิจ ค่ะ
“อ๋อเชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่เคยเจอกับปัญหา ชีวิตของอ๋อผ่านปัญหามานับไม่ถ้วน จนทุกวันนี้อ๋อไม่รู้สึกแล้วว่าปัญหาคืออะไร เพราะเราจะไม่จมอยู่กับคำว่า “ปัญหา” แต่มองให้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดันในให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่คิดว่าดีกับตัวเอง และจงตั้งใจทำทุกอย่างเต็มที่ค่ะ
และนี่คือ “คุณอ๋อ–ณัฏฐณิชชา โชตสิริเมธีกุล” เจ้าของมงกุฎ Mrs. Thailand 2018 เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงก้าวสู่ความสำเร็จในทั้งในชีวิต ธุรกิจ และการดูแลครอบครัว
