ฉีกแนวจากสายร้องสายเต้นแบบพี่สาวสองคน มามุ่งมั่นกับการเป็นนักแข่งรถเต็มตัวเหมือนคุณพ่อ ถอดแบบออกมาเหมือนเป๊ะจริงๆ สำหรับ น้องโรเตอร์ ลูกชายคนเดียวของพีท ทองเจือ ซึ่งตอนนี้มาร่วมงานกับแพรวในฐานะ The expert ด้านรถยนต์แล้วด้วย
ทั้งนี้ระหว่างการถ่ายรายการ Praew the expert หนุ่มพีทก็อดพูดถึง น้องโรเตอร์ ลูกชายคนเล็กไม่ได้ เพราะเด็กคนนี้เหมือนเขามาก โดยเฉพาะเรื่องไลฟ์สไตล์ การชอบความเร็ว ที่แทบจะถ่ายทอดมาทางดีเอ็นเอเลยทีเดียว
“น้องโรเตอร์” พีท ทองเจือ จูเนียร์
ผมไม่เคยยัดเยียดเรื่องราวเกี่ยวกับความชอบรถยนต์ให้กับลูกๆ นะ โดยเฉพาะ น้องโรเตอร์ ตอนนี้อายุ 11 ขวบ แล้ว คือเขาชอบรถสไตล์เรโทร อย่างโฟล์คเต่า และตอนนี้น้องโรเตอร์เป็นนักแข่งอยู่ ก็ขับรถมาขึ้นปีที่ 3 แล้ว ตระเวณแข่งอยู่ในเอเชียและยุโรป เป็นแชมป์ประเทศไทยสามปีติดกันแล้วครับ ล่าสุดเมื่อปี 2019 เพิ่งไปแข่งที่มาเก๊า เป็นแมทช์ที่ใหญ่ที่สุดของปี มีคนมาแข่งมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก น้องโรเตอร์ก็ไปแข่งติดอยู่ 1 ใน 3 ในทุกเซสชั่นเลย ก็ค่อนข้างมีพรสวรรค์ แต่ที่เหลือเขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยชั่วโมงบินของเขาเองในสนามแข่งด้วย
เป็นทั้งพ่อและโค้ช
น้องโรเตอร์นี่ ผมดูแลเอง เทรนเอง ฝึกเอง อยู่กับรถยนต์และผมตั้งแต่เด็กๆ อย่างเวลามีแข่ง เขาอยู่กับผมตลอดตั้งแต่วันซ้อม วันทำรถ วันแข่ง คือเขาเห็นทุกเหตุการณ์ ก็น่าจะซึมซับ น้องขับรถได้ตั้งแต่ 5 ขวบกว่า มีครั้งนึงช่วงที่น้องอายุได้ 7 ขวบแล้ว ก็ลองให้เขาไปแข่งเป็นรายการที่เขาใหญ่เป็นถนนทางฝุ่น และแข่งกับผู้ใหญ่ด้วยครับ ก็มีรถคว่ำมีอะไรด้วย คุณแม่เขาก็เข้าไปดูบอกให้พอ แต่เขาบอกไม่ได้ต้องแข่งให้จบ และรายการนั้นมีคนแข่งประมาณ 10 กว่าคัน โรเตอร์เขาจบได้ที่อันดับ 5
ช่วงนั้นก็พาเขาไปแข่งวิ่งครบทุกสนาม จนสนามสุดท้ายปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่จากองค์กรที่ดูแลมอเตอร์สปอร์ตเข้ามาบอกว่า น้องต้องหยุดทำการแข่งขัน เพราะอายุน้องยังไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งตามกฏหมายสำหรับคนที่จะทำใบขับขี่แข่งรถได้ต้อง 13 ปีขึ้นไป วิธีแก้ไขก็คือ ต้องให้น้องไปแข่งโกคาร์ท พอพาไปน้องก็ยืนดูและไม่ยอมขับ น้องบอกว่ามันไม่สนุก ไม่ใช่ทางฝุ่นแบบที่เคยแข่ง ก็ใช้เวลาอยู่ 2- 3 เดือนจนน้องยอมขับ พอลงแข่งจริง ปีแรกก็ได้รองแชมป์ พอ 9 ขวบก็เป็นแชมป์ต่อมาเรื่อยๆ กลายเป็นว่าเขาเป็นนักกีฬาเยาวชนกึ่งอาชีพไปแล้ว ปีหนึ่งก็มีสปอนเซอร์เข้ามาดูแลก็ได้หลายล้านอยู่
11 ขวบฝีมือเกินตัว น้องโรเตอร์ โคลนนิ่งพ่อ พีท ทองเจือ อนาคตนักแข่งอาชีพ
อนาคตนักแข่งอาชีพเต็มตัว
ตอนนี้พัฒนาการของน้องไปไกลมากแล้วครับ เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม หลายครั้งที่ผมดูเขาตอนแข่ง น้องขับมาอยู่ที่ 2 ไม่ยอมแซง ก็เห็นว่าเขาพยายามแซงนะ ผมก็ถามเขาทำไมไม่แซง เมื่อกี้แซงได้ตั้งหลายทีนะ เขาก็บอกว่าถ้าแซงไปมันเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้รถเกี่ยวกัน และมันจะหมุนหลุดไปทั้งสองคัน ต้องไปเริ่มต้นใหม่ เขาไม่โอเค เขาขอตามก่อน แล้วฮีทหน้าค่อยหาทางจัดการรถคันหน้า ซึ่งก็ทำให้เห็นว่ากระบวนการเรียบเรียงความคิดของเขาเร็วมาก และมีการวางแผนตลอดเวลา ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักแข่ง พอถึงรอบไฟนอลที่แข่งในรายการนี้ เขาตามจนเขารู้ว่านักแข่งคันหน้ามีจุดอ่อนตรงไหน คือเขาก็จะไม่แซงเดี๋ยวนั้น เขาจะรอประมาณรอบ หรือสองรอบสุดท้ายถึงแซง พอแซงได้ก็ฉีกทิ้งหายไปเลย เขาก็มีเวย์ของเขาอยู่พอสมควร
ความปลอดภัยคือเรื่องสำคัญที่สุด
ทุกครั้งที่น้องแข่งอย่างแรกเลยก็คือต้องอยู่ในความปลอดภัย หมวกกันน็อคก็ต้องได้มาตรฐาน ซึ่งอยากบอกว่าชุดแข่งของน้องตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ใช่ว่าซื้อยี่ห้อไหนมาใช้ก็ได้ มันจะมีสมาพันธ์ที่ชื่อว่า FIA เขาจะบอกเลยว่าอุปกรณ์แบบนี้รุ่นนี้ใช้ได้ในระยะเวลาตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ ถ้าเลยระยะเวลาทีกำหนด เคมีที่ช่วยในเรื่องป้องกันไฟที่ตัวชุดมันเริ่มเสื่อมแล้ว