ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น มิย่า เข้าวงการบันเทิงตามรอยคุณพ่อ พีท ทองเจือ
พีท ทองเจือ

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น มิย่า เข้าวงการบันเทิงตามรอยคุณพ่อ พีท ทองเจือ

Alternative Textaccount_circle
พีท ทองเจือ
พีท ทองเจือ

พีท ทองเจือ และ เจ็ง วิไลลักษณ์ ทุ่มเงินหลักล้านเปิดค่าย Lil’ Brat Records ไม่พลิกโผลูกสาวคนกลาง มิย่า ทองเจือ ขึ้นแท่นศิลปินเบอร์แรก

พีท ทองเจือ

สมกับที่เป็นสายเลือดคนบันเทิงจริงๆ สำหรับครอบครัว “ทองเจือ” ตั้งแต่รุ่นคุณตา “ภิญโญ ทองเจือ” รุ่นคุณพ่อ พีท ทองเจือ มาถึงล่าสุดรุ่นลูก “มิย่า ทองเจือ” ที่เข้าวงการบันเทิงมาในฐานะศิลปินหน้าใสของค่าย Lil’ Brat Records ที่มาพร้อใมกับซิงเกิลแรก MiniHeart เพลงน่ารัก ฟังสบายๆ สดใสสมวัยสุดๆ ซึ่งว่ากันว่าป๋าดันงานนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นคุณพ่อ-คุณแม่ ของเธอที่ทุ่มเงินหลักล้านเปิดค่ายเพลงนี้ ซึ่ง”พีท”เปิดเผยว่าจุดประสงค์ของการเปิดค่ายเพลงนี้ก็เพราะอยากทำเพลงจริงๆ ส่วนน้อง “มิย่า” นั้นเธออยากจะตามหาความฝันของตัวเองและตนก็อยากให้ลูกสาวพิสูจน์ตัวเองด้วย

จุดประสงค์ของการเปิดค่ายเพลง Lil’ Brat Records?

“ขอบอกตรงนี้เลยว่าค่ายเพลงที่ทำมาจริงๆ แล้วทำมาไม่ได้ต้องการอะไรในวงการเพลง แต่จะทำไว้ให้น้อง เริ่มต้นเอาแค่นี้ก่อน แล้วก็จะพยายามทำให้น้องได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ชอบ ตามหาความฝันของตัวเอง และอยากให้เขาพิสูจน์ตัวเองด้วย”

ลงทุนไปเท่าไหร่?

พีท : “ตัวเลขก็เป็นล้านเหมือนกันครับ

ซิงเกิ้ลแรกเป็นอย่างไรบ้าง?

มิย่า : “ก็ดีค่ะ หนูชอบทุกอย่างมาก ชอบ MV เพลงที่ถ่าย ส่วนแนวเพลงเป็นป็อปที่คนสมัยนี้ชอบฟัง แล้วก็มีแร็พด้วยค่ะ”

ปล่อยทีเซอร์ไปกระแสเป็นอย่างไรบ้าง?

มิย่า: “ก็ดีค่ะ แฟนคลับในไอจีก็ฟังกันเยอะอยู่”

คอนเซ็ปต์มีที่มาที่ไปอย่างไร?

พีท : “คือจริงๆ เราทำโปรเจ็กต์นี้มาเดือนนี้น่าจะเป็นเดือนที่ 8 นะครับ เราก็ลองเทสหลายๆ อย่าง ลองเพลงหลายๆ สไตล์ ลองมาแล้วทุกอย่างเลย แต่หลักๆ ของน้องมาจากสายเต้น ซึ่งต่างจากพี่คนโตที่เป็นสายร้อง เราก็พยายามหาส่วนประกอบที่มันลงตัวที่สุด เบื้องต้นที่ทำเพลงออกมาเพลงก็คิวต์ๆ น่ารัก มีหลายโมทีฟ มีทั้งร้อง กึ่งร้องกึ่งแร็พ มีแร็พด้วย ซึ่งเราก็เลือกหลายๆ อย่างไว้ในเพลง เพราะว่าเราต้องการจะดูว่าสุดท้ายแล้วคนฟังชอบแบบไหน ซึ่งพอเราทำขึ้นมาปรากฎว่าท่อนที่น้องกึ่งแร็พกึ่งร้อง จะเป็นท่อนที่แฟนคลับชอบมากๆ แสดงว่าจริงๆ น้องได้เลย เราไม่อยากทำเพลงตามใจตัวเอง“

พีท ทองเจือ

คาดหวังกับกระแสมากน้อยขนาดไหน?

พีท : “จริงๆ แล้วใช้คำว่า ผมบอกน้องว่าเราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เราจะไม่แข่งกับคนอื่น สำหรับน้องที่อายุแค่นี้ มีซิงเกิลเป็นของตัวเอง เริ่มหัดทำงาน สิ่งที่พ่อกับแม่ต้องการมากที่สุดคืออยากให้เขามีประสบการณ์ชีวิต แล้วก็นำมาปรับใช้ในอนาคตให้ได้ แต่มันก็จะย้อนกลับมาที่ผมพูดบ่อยๆ ว่าเราสนับสนุนให้พ่อแม่ผลักดันให้ลูกค้นหาตัวเองให้เจอให้ได้เร็วที่สุด“

เหตุผลที่เปิดค่ายเพลงเพราะไม่อยากให้ลูกสาวไปต่างประเทศใช่ไหม?

พีท : “คือง่ายๆ ถ้าติดตามครอบครัวผมมาในระดับหนึ่งจะเห็นว่าน้องชาย น้องโรเตอร์เป็นนักแข่ง เขามีที่ยืนของตัวเอง น้องมีความชัดเจนในตัวเอง ส่วนคนโตก็อยู่ในสายร้องเพลง คราวนี้ลองนึกดูว่าถ้ามองเข้ามาแล้วทุกคนเกิดคำถามว่าแล้วน้องคนกลางล่ะ อยู่ตรงไหน ฉะนั้นนี่ก็เลยคือที่มาของโปรเจ็กต์นี้ที่ผมต้องการให้น้องหาที่อยู่ของตัวเองให้ได้ คราวนี้พอเจอที่ยืนของตัวเองได้ ที่เหลือก็จะผลักดันให้ทุกคนไปตามสายที่ตัวเองต้องการและอยากทำ แต่คราวนี้ขอบอกเลยว่าภาระสุดท้ายจะมาตกที่พ่อแม่ เพราะสมมติน้องโรเตอร์ไปแข่งยุโรป มิย่ามีงานอยู่ที่เมืองไทย เซย่า ก็ต้องฝึกร้องเพลง ปรากฏว่าต้องวิ่ง 3 ทาง ก็ค่อนข้างลำบาก แล้วจะขอบอกว่าเม็ดเงินที่ใช้ทุกๆ อย่างก็ค่อนข้างเยอะ“

รู้สึกยังไงบ้างที่พ่อทำเพื่อเราขนาดนี้?

มิย่า : “รู้สึกดีค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ“

แล้วคุณแม่มีความภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้อย่างไรบ้าง?

เจ็ง :“ก็ภูมิใจเนอะ จริงๆ แล้วอย่างที่บอก เรารู้ว่าลูกชอบทำอะไร อยากทำอะไร เราก็เป็นพ่อ แม่ ที่คอยสนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบ และสิ่งที่ลูกอยากจะเป็น วันนี้เราทำซิงเกิลออกมาให้น้อง ตอนแรกเราก็คิดว่าน้องยังเด็ก ก็ทำงานตามประสาเด็กที่พ่อแม่บอก แต่จริงๆ ไม่ใช่เลยน้องตั้งใจมาก ทุกขั้นตอนที่ทำออกมาจนสำเร็จ น้องมีส่วนร่วมทุกๆ ขั้นตอน ไม่ว่าจะการเลือกคนแต่งเพลงหรือว่าเสื้อผ้า หน้าผม ทุกอย่างน้องปรู๊ฟเองหมด สุดท้ายพอมันสำเร็จเป็นก้อนนี้เราสองคนเลยภูมิใจในสิ่งที่ทุ่มเททำให้ลูก ลูกพยายามและตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ“

ตัดสินใจนานไหมเพราะลงทุนค่อนข้างเยอะ?

เจ็ง : “จริงๆ บ้านเรา อย่างลูกคนโตกับ “มิย่า” ก็เรียนร้องเรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งปลายทางที่จะต้องเป็นอันนี้อยู่แล้ว เพราะเขาอยากเป็นในสิ่งที่เขาทำอยู่ ฉะนั้นมันก็เลยไม่ได้คิดเยอะ เจ็งคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว เขาก็พร้อมที่อยากจะทำ “เจ็ง” ก็ว่าความสามารถเขาก็มี จากสิ่งที่เขาเรียนมาตั้งแต่เด็กเขาก็เอามาใช้ในงานที่เขาทำอยู่ตอนนี้ค่ะ“

จากนี้ต้องหาผู้จัดการเพิ่มให้ลูกไหม เพราะลูกมี 3 คน?

เจ็ง : “จริงๆ เราไม่ได้ผูกติดกับใคร แต่ว่าหลักๆ ดูลูกเองมากกว่า คือบ้านเราเลี้ยงลูกเองอยู่แล้ว แต่ว่าคราวนี้ที่ทำงานกันมา ก็จะมีพี่ๆ น้องๆ ในวงการที่รู้จักก็ช่วยหางานให้น้องอันนั้นเราก็ไม่ติด แต่หลักๆ เราดูกันเอง“

เปิดค่ายเองเล็งศิลปินเบอร์ 2 ไว้หรือยัง?

พีท : “เราขอโตไปกับน้องก่อนดีกว่า เพราะมือใหม่มากๆ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ในการเปิดค่าย ซึ่งจริงๆ แล้วเรายังอินดี้มากๆ อยู่นะครับ แล้วน้องก็เพิ่งก้าวออกมาสู่ความเป็นจริงของโลกใบนี้ น้องไม่ได้อยู่ในกรอบของโรงเรียนแล้ว ตอนนี้น้องออกมาทำงาน เจอคน เจอสื่อมวลชน เจอแฟนๆ ตรงนี้ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญ และสิ่งที่เราอยากได้มากคือประสบการณ์ชีวิต ก็จะขอบอกว่าเราจะช่วยกันสร้างให้น้องแข็งแรงที่สุดและโตไปพร้อมๆ กันครับ“

ถามถึงการถ่าย mv วันนี้?

มิย่า “หนูไม่ได้หวังว่ามันจะออกมาดีขนาดนั้น แต่พอหนูมาเห็นหน้าเซ็ตหนูตาค้างเลย เพราะมันสวยจริงๆ ค่ะ รอติดตามกันนะคะ“

วันนี้มีโมเม้นต์หวานๆ กับพระเอกเอ็มวี “โดม เพชรธำรงชัย” ด้วยคุณพ่อว่าอย่างไรบ้าง?

พีท : “คงติดตามดู ต้องขอบคุณทุกคนมากครับ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะให้ทุกๆ ท่านได้เห็น sequence ของเอ็มวีซึ่งผมเชื่อว่าในเมืองไทยปกติค่ายเพลงจะปิดไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในกอง เพราะว่าต้องการเก็บความลับ ไม่ได้มีความลับอะไรมากมาย แต่ไม่อยากให้คู่ต่อสู้เก็บข้อมูลแล้วไปพัฒนาศิลปินแล้วเอาออกมาชนกัน แต่ของเราโลกมันหมุนไปเร็วครับไม่มากก็น้อย ไหนๆ เราขึ้นให้ไปชมเลยดีกว่า


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up