โค้งสุดท้าย Miss International 2019 ‘บิ๊นท์-สิรีธร’ คะแนนเก็บตัวดี ไทยมีลุ้นมงแรก

account_circle

แฟนๆ นางงามตื่นเต้นไม่น้อย เพราะวันนี้แล้วที่จะเป็นวันประกวดรอบไฟนอลของ Miss International 2019 งานนี้ไทยมีลุ้นมงแรก เพราะตัวแทนสาวงามของประเทศไทยอย่าง ‘บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ คะแนนเก็บตัวดี ทำเต็มที่ทุกรอบ

บิ๊นท์-สิรีธร

ทั้งนี้ บิ๊นท์-สิรีธร ได้ออกมาเผยขณะที่เข้าประกวดว่า มองว่า จุดแข็ง 3 อย่างของเธอคือ เธอมีความเป็นธรรมชาติสูง ยิ่งขึ้นเวทียิ่งไม่ตื่นเต้น และอยากจะพูด Speech มาก อีกทั้งเธอเองก็ไม่เคยหยุดที่จะพยายาม เช่น การเดิน เธอรู้ตัวว่ายังเดินได้ไม่ดี ก็ซ้อมเดินหน้าห้องทุกวัน ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ น่าจะทำให้เธอทำได้ดีในการประกวดรอบสุดท้าย เพราะทุกอย่างจะแสดงออกผ่านทางแววตา เธอตั้งใจกับการประกวดครั้งนี้มาก ต้องการที่จะดีที่สุดในเวอร์ชั่นของตัวเอง แต่ไม่ได้ต้องการจะแข่งขันกับใคร

สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด คือ กลัวไม่มีสติ และสมาธิ เพราะการประกวดที่ผ่านมา เวลาเธอมีสติ และสมาธิก็จะทำได้ดี ไม่ตื่นเต้น ซึ่งในการประกวดครั้งนี้ เธอคิดว่า ได้เตรียมความพร้อมมาแล้วทุกวัน เมื่อการประกวดรอบตัดสินมาถึง ก็จะปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่คิดว่าจะต้องทำให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับที่ซ้อมทุกวัน

บิ๊นท์ กล่าวอีกว่า ในการเก็บตัวครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้สึกว่าทุกคนเป็นคู่แข่ง เพราะกิจกรรมต่างๆ เน้นสร้างความสัมพันธ์ ทุกคนทำงานหนักจนไม่ตื่นเต้นแล้วว่าวันจริงหรือวันประกวดรอบตัดสินจะเป็นอย่างไร แต่กลับรู้สึกว่าจะต้องจากเพื่อนแล้วหรอ

บิ๊นท์ พูดถึงการตัดสินการประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการจะลงมาสังเกตพวกเธอระหว่างทำกิจกรรม และเก็บคะแนนความประพฤติ และวินัยของสาวงาม ซึ่งเธอเชื่อว่าในส่วนนี้เธอทำได้ดี บางคนก็ชมว่าเธอเป็น ‘Good Girl’ แต่เธอเองก็ไม่ได้หวังกับการประกวดครั้งนี้มากจนเกินไป กลัวจะผิดหวัง คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุด ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

ส่วนเรื่องตัวเต็งเธอไม่เคยคิดถึงเลย เพราะคิดว่า “เขาก็คือเขา เราก็คือเรา” อีกทั้งในการประกวดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราไม่มีทางรู้เลยว่ากรรมการเขามองอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้มองแค่ความสวย แต่ถ้าพูดตามกระแสของแฟนนางงาม มิสอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นคนที่สวย และเคยเป็นดารามาก่อน

ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์

ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ กล่าวว่า สิ่งที่สาวงามกังวลที่สุดในการประกวดรอบสุดท้าย ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง ‘Speech’ หรือ การพูดในห้วข้อที่ได้รับจากกองประกวดฯ ในรอบ 15 คนสุดท้าย ซึ่งนางงามมักจะกลัวหลงลืมเนื้อหาที่เตรียมมา อารมณ์ และสารที่จะสงไปถึงผู้ฟัง เรื่องต่อมาคือสติ เวลาอยู่บนเวทีมีแสงสีเสียง ธงชาติ และกองเชียร์จำนวนมากมาย เมื่อผู้เข้าประกวดเห็นกองเชียร์มันก็ดูจะมีกำลังใจ แต่ในอีกมุมหนึ่งมันทำให้เขารู้สึกกดดันทันที จิตตก และสติแตก ทำให้อารมณ์ที่มั่นคงไขว่เขวหวั่นไหว บ้างก็เดินไม่ดีพูดไม่ได้

และเรื่องสุดท้ายคือ ความฉุกละหุกหลังเวที ทำให้นางงามต้องดูแลตัวเอง เช่น ทรงคิ้ว ผม ใบหน้า สีปาก มันอาจจะผิดเพี้ยนไปด้วยเวลาที่กระชั้นชิด และอารมณ์ของสาวงาม นอกจากสติไม่ดีแล้ว แต่งหน้าก็จะไม่สวย ทรงผมก็จะบิดเบี้ยว คิ้วก็จะไม่ได้รู้ทรง ซึ่งเสื้อผ้าหน้าผมถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ปัญหาเหล่านี้ ทางกองประกวดประเทศไทย ได้ฝึกสอน และเข้มงวดกับผู้เข้าประกวดมาก จึงทำให้ไม่ต้องกังวลในข้อที่สอง และข้อที่สาม

แต่ปัญหาสำคัญคือข้อแรก เพราะนางงามไทยมักจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ และ Speech ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ ขนาดพูดสุนทรพจน์เป็นภาษาไทยต่อหน้าคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารที่ส่ง สำเนียง และแววตาอารมณ์ มันก็อยากอยู่แล้วที่ทำให้คนรู้สึก เมื่อมาเป็นภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ก็จะยิ่งยากไปอีก นี่คือปัญหาที่นางงามไทยเจอมาตลอด และส่วนใหญ่จะหยุดลงในรอบสุดท้ายคือ Speech เพราะเวลาจะพูดให้ได้ใจได้อารมณ์คน ต้องมีศิลปะในการพูด

แต่ก่อนที่จะได้ศิลปะในการพูด เราต้องคล่องในภาษาก่อน แต่ทีนี้ภาษาก็ไม่คล่อง ศิลปะก็ยาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเสียง การเว้นวรรค แววตา ที่ส่งออกไป มันต้องออกมาจากใจจริงๆ แต่พอเป็นภาษาที่เราไม่คล่อง มันก็ต้องจำ และอารมณ์มันก็จะหายไปส่งไม่ถึงผู้ชม สิ่งที่จะทำได้เพียงอย่างเดียวคือการฝึกและซ้อม

บิ๊นท์-สิรีธร

สำหรับบิ๊นท์มีความสุขด้วยตัวเองอยู่แล้ว และยังใหม่สำหรับการประกวด จึงไม่ได้มีอินเนอร์สูตรสำเร็จของความเป็นนางงาม และสิ่งสำคัญที่ตนจะพูดกับบิ๊นท์เสมอก็คือ อย่าให้ความหวังของแฟนนางงาม หรือของครอบครัว หรือการแบกภาระคำว่า ประเทศไทย ต้องมาทำให้เราหมดความสุข ต้องไม่คิดเรื่องนั้น มีความสุขและเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาเรื่องพวกนั้นมากดดันตัวเอง

ขณะที่เธอมองว่าประเทศฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จบ่อย จึงถือเป็นแรงกดทับตัวนางงาม ส่วนมิสมาเลเซียก็ถือว่าเป็นปีแรกที่ตัวแทนจากประเทศนี้ได้รับความสนใจจากแฟนนางงาม ซึ่งเธอเองก็มีชื่อเสียงในประเทศ ส่งผลให้มิสมาเลเซียกลัวและกดดัน

บิ๊นท์-สิรีธร

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมไม่ต้องห่วง “บอกเลยนางงามไทยเป๊ะตลอด” มีการจัดวางเครื่องประดับ และชุดเป็นเซ็ตไว้อยู่แล้ว ตัวบิ๊นท์เองก็ฝึกแต่งหน้าทำผมเองมาตลอด “นางงามไทยไว้ใจได้ทุกเรื่อง สิ่งที่น่าห่วงอย่างเดียวคือ Speech ภาษาอังกฤษ ไม่ต่างกับรอบตอบคำถาม

สำหรับการประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 รอบตัดสิน จะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย. เวลา 12.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ โตเกียวโดม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Praew Recommend

keyboard_arrow_up