หมาก ปริญ

หมาก ปริญ ทุ่มสุดตัวแอคชั่นเดือดในภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์ 2020

Alternative Textaccount_circle
หมาก ปริญ
หมาก ปริญ

 หมาก ปริญ ทุ่มสุดตัวภาพยนตร์เรื่องแรก จอมขมังเวทย์ 2020 หนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีจากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล 

บทบาทและคาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

เรื่องนี้ผมรับบทเป็น “วิน” ครับ ก็เป็นวัยรุ่นนักกีฬา ชอบต่อยมวย ในเรื่องอยู่ในช่วงวัยรุ่น ใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อ ซึ่งตัววินในตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะเจอเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นต่อไปเกี่ยวกับไสยศาสตร์ เพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเชื่อในเรื่องงมงาย ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดหรอก วินคลุกคลีกับพ่อก็รู้ว่าพ่อเป็นคนที่ชอบเก็บของขลัง แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง จนมาวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นเลยได้รู้ว่าพ่อเขานับถือใครบ้าง มีของขลังอะไรต่างๆ นานาเต็มไปหมด นั่นทำให้ต้องเข้าไปพัวพันกับศาสตร์ลึกลับบางอย่าง ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อและเปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย”

หมาก ปริญ

เหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตวินไปอย่างไร?

“คือพอเกิดเหตุการณ์ที่ช็อกขึ้นมา และคุณพ่อโดนลอบทำร้ายขณะเราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงคิดว่าจะต้องทำยังไง พวกที่มาลอบทำร้ายเค้าต้องการอะไร เราก็เลยต้องไปหาสาเหตุมา แล้วก็ทำให้เราได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างที่อยากให้ทุกอย่างมันคลี่คลายได้ เราเลยเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นคนที่หมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในเรื่องก็จะบอกว่า “บางอย่างของมันต้องมี” จริงๆ แค่มีแรงอย่างเดียวอาจจะสู้เขาไม่ได้ เพราะคนอื่นเขามีอย่างอื่นด้วย ซึ่งตอนนั้นเราก็สู้เขาไม่ได้แหละ จนทำให้เรามีแรงฮึดขึ้นมา”

“จอมขมังเวทย์ 2020” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

“ก็เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่ออกตามสืบหาตัวฆาตกรที่ลอบทำร้ายพ่อของเขา ส่วนเขาที่รอดมาก็ได้รับพลังเวทเหนือธรรมชาติจากสิ่งที่พ่อทิ้งไว้ให้ ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องไปเผชิญหน้ากับทั้งองค์กรลับและพวกจอมขมังเวทย์ทั้งหลาย รวมถึงต้องหนีจากการจับกุมของตำรวจ เพราะเขาดันตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย เรื่องราวมันก็ซับซ้อนนำไปสู่การปะทะกันของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ คาถาอาคม และความเข้มข้นของแอคชั่นเดือดๆ ครับ”

หมาก ปริญ

เคยได้ดู “จอมขมังเวทย์” ภาคแรกมาก่อนไหม?

“ชอบมากครับ เป็นหนังที่ดูแล้วเก็บและจำ ด้วยภาพของ “พี่ต้อม” (ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ – ผู้กำกับ) ภาคก่อนแบบสวยมาก และก็น่ากลัวมากเลย ด้วยการตัดต่อ การใส่เสียง เสียงสวดตอนที่พี่นกเดินทำเอาเราขนลุก”

มีการเตรียมตัวในการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกนี้อย่างไรบ้าง?

“ต้องฟิตร่างกายมากๆ เพราะว่าเรื่องนี้บู๊หนักมาก ทุกคิวคือมีบู๊ เตรียมตัวเตรียมร่างกาย ส่วนเรื่องการแสดง วิธีการถ่ายทำเนี่ย เราชินอยู่แล้ว เพราะเราเคยทำงานกับพี่ต้อม รู้เทคนิคการถ่ายของเค้า รู้ว่าเค้าต้องการอะไรยังไง ค่อนข้างจะง่ายและเร็วมากๆ เลย แต่หนังมันก็จะ Real กว่า เราทำอะไรได้เยอะกว่า ก็สนุกครับ สนุกมากๆ”

หมาก ปริญ

เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนลุคขนาดไหน?

“ต้องสักทั้งตัวครับ รอยสักเนี่ยทุกคิวเหมือนกัน ตอนแรกก็จะมีรอยสักที่เป็นกราฟิกของเราเอง แต่พอเกิดเรื่องปุ๊บ เรามีอาคม ได้เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง เราก็แบบมีรอยสักขึ้นมายันคอ ก็ใช้เวลาเพนต์สองสามชั่วโมงได้ ต้องมากองแบบเช้าๆ แล้วก็มานั่งเพนต์ รู้สึกแปลกดี ผมว่าถ้าใครได้เห็นก็แปลกดี ก็เปลี่ยนลุคไปเลย หายไปเลยครับความเนี้ยบ ความหน้าใส ทรงผม คาแร็คเตอร์ สายตาเปลี่ยนไปหมดเลย ตอนถ่ายทำไปเราก็จะเห็นพี่ต้อมเดินมาบอกหมากเอาตรงนี้นิดหนึ่ง เขาสุดยอดมาก ก็อยากให้ดูการแสดงเรื่องนี้ด้วยครับ”

การร่วมงานกับทีมนักแสดงรุ่นใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?

“เราคุ้นเคยกันมากๆ เลย ทั้ง “พี่นกหญิง, พี่นกชาย, ก๊อต, พี่ต้อม” ก็ทำงานง่ายมาก มีอะไรก็คุยกัน ไหว-ไม่ไหว ตรงโน้นตรงนี้ แต่ว่าทุกคนก็เต็มที่มากๆ เลย เห็นแล้วแบบทุกคนทำการบ้านดีมากๆ พร้อมทุกอย่าง ก็ยิ่งทำให้เราต้องทำการบ้านเยอะขึ้น ยิ่งทำให้เราต้องมีแรงมากขึ้น และกับ “แพร์” นี้เคยเล่นด้วยกันแล้ว ชินกันอยู่แล้ว แต่กับ “คิทตี้” เนี่ยครั้งแรกที่เคยแสดงด้วยกัน มันใหม่มากๆ เลย ดีใจที่ได้ร่วมงานกันกับคิทตี้ครับ เราก็ดูผลงานของเขาอยู่ แล้วพอได้มาร่วมงานกันก็ดีเลยครับ เรียกว่าเป็นคู่ใหม่ที่มาเจอกันแล้วก็ดูน่าสนใจดี”

คิทตี้เมาท์ฉากซ้อนมอเตอร์ไซค์ไว้ เบื้องหลังเป็นอย่างไร?

“ไม่ไว้ใจผมขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) เบื้องหลังฉากนี้มันต้องใช้ความรวดเร็วไง ผมต้องขึ้นไปขี่ คิทตี้ซ้อน แล้วสตาร์ทพุ่งไป จริงๆ กล้องก็ตั้งอยู่อย่างนี้แหละ แล้วช่องมันเหลือเล็กแค่นี้ แล้วผมก็ไม่ได้บอกน้องเขาก่อนว่าผมจะออกตัวไปถึงตรงโน้น เค้าก็คงแบบช็อกเรียก “พี่หมาก…กกก” แล้วก็กอดแน่นเลย”

หมาก ปริญ

โลเคชั่นเรื่องนี้

“โหดมากเลยครับ ไม่มีแอร์ซักที่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตึก ก็ทำให้เห็นถึงความเป็นปัจจุบัน มุมกล้องก็จะเป็นบนตึก ถ่ายทำในตึก เหตุการณ์เกิดขึ้นไปบู๊กันในตึก”

แอคชั่นดุเดือดขนาดไหน

“ดุมากเลย มันเป็นแอคชั่นที่เขาอยากจะให้เรียลมากๆ ไม่ค่อยแบบมีท่าทางอะไรมาก ไอ้นี่มันก็เป็นนักต่อสู้นักมวยอยู่แล้ว เขาก็อยากให้ดูจริง ไม่ค่อยใช้อาวุธเท่าไหร่ ก็จะเป็นมือเปล่าต่อยกันมากกว่า”

เปิดเรื่องมาก็บู๊กันเลย

“ใช่ครับ ฉากไฟต์คลับ เท่มากเลย ชอบมากเลย ด้วยพอมาเห็นภาพในนั้น ทั้งรอยสักเรา ทั้งการแต่งหน้า ทำผม เอฟเฟกต์ แล้วซีนแบบว่าสวยมากเลย แล้วก็เหนื่อยมาก ถ่ายทั้งวันเลยครับฉากนี้ยาวไปจนกลางคืนเลย มันเปิดเรื่องให้เห็นเลยว่าไอ้นี่ต่อยเป็น ดุ บ้าอะไรอย่างนี้”

หมาก ปริญ

เจอจอมขมังเวทย์ในตำนานครั้งแรก

“ฉากนั้นเป็นการเซตฉากบนรถไฟฟ้า มีบู๊กับพี่นก (ฉัตรชัย) แล้วก็เป็นการปล่อยพลัง เราปล่อยใส่เขา เขาก็ปล่อยใส่เรา เป็นการเจอกันครั้งแรก เขาเดินขึ้นมาบนรถไฟฟ้า ฉากนั้นพี่นกเดินออกมาแล้วพลังมาแบบสุดยอด  เท่มากๆ

เรื่องนี้บู๊เยอะมาก ฉากสู้กับก๊อตเป็นยังไงบ้าง

เราต้องไปซ้อมกันมาก่อน ก่อนหน้าที่จะถ่าย เราต้องไปซ้อม ต้องไปคิดท่า มีคนคิดท่าให้แหละ แต่เราก็ต้องปรับกันอีกที ตรงไหนเหมาะกับคาแร็คเตอร์พี่ก๊อตไหม เหมาะกับคาแร็คเตอร์เราไหม แล้วก็มาคุยกัน คุยกันตลอด พี่ก๊อตก็เป็นอีกคนที่ทำการบ้านเยอะมาก ขยัน แล้วก็ช่วยเราได้เยอะเลย เพราะท่าทางแอคชั่นเค้าเก่ง เค้าชอบทางนี้ไง

มีผิดคิวบ้างไหม

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็มีได้บาดแผลจากการล้มลุกคลุกคลาน ไปกระแทกโน่นนี่มากกว่า ก็แมนๆ มันๆ ครับ”

แอคชั่นเรื่องนี้นอกจากจะเดือดแล้วยังต้องจินตนาการเล่นกับซีจีด้วย

“เยอะมากครับ มันต้องมีการปล่อยของ ปล่อยพลังมา ของเราเป็นตัวมอม ของพี่ก๊อตเป็นวัวธนู ผมว่ามันก็เป็นอีกขั้นหนึ่งของการแสดง เราต้องมองเห็นว่าไอ้นี่กำลังวิ่งเข้ามา ไอ้นี่กำลังกระโดดขึ้นไป ไปทางโน้น ไปทางนี้ อันนี้เป็นความยากของซีจีแล้วล่ะ รอดูครับ”

แอคชั่นการปล่อยพลังสัตว์เวทในเรื่องนี้

“มันใหม่นะ เพราะพี่ต้อมผู้กำกับเขาอยากได้แบบนี้ ตัววัวธนูดุๆ ซีจีมันไม่โป๊ะ เนียน สมจริง ด้วยแอคชั่นของเรากับนักแสดงคนอื่นด้วย มันก็ทำให้เข้ากันดี ส่วนวินตัวละครของผมจะมีปล่อยตัวมอม เสกคาถาเรียกออกมา เขาจะกระโดดข้ามหลังออกมา ตัวมอมก็จะมาช่วยเราเวลาวิกฤติขั้นสุดท้ายแล้ว เราไปไม่ไหวแล้ว แล้วเราก็จะเรียกออกเป็นตัวช่วย”

จอมขมังเวทย์ 2020

ฉากใหญ่ในถ้ำถือเป็นฉากไฮไลท์ที่สุดของการแสดงเรื่องนี้เลยมั้ย

 “เหนื่อยมากครับ อันนั้นเหนื่อยมากเลยฉากในถ้ำ เป็นฉากไคลแมกซ์ที่ทุกคนมารวมกันทั้งผม, พี่ก๊อต, พี่นกชาย, พี่นกหญิง, แพร์, คิทตี้ ก็มาอยู่ในนั้นทุกคน มาช่วยกันหมดเลย ตอนอ่านบทนี่ มันเจ๋งตรงที่ไม่คาดฝันว่ามันจะไปถึงขนาดนั้นได้ เป็นการรวมพลังของจอมขมังเวทย์แล้วก็เสกกลายเป็นตัวอะไรออกมา มันมาได้ยังไง มันเท่ดี สำหรับบรรยากาศในฉากนี้ถ่ายที่ถ้ำเขาบิน จ.ราชบุรี ไม่อยากจะนึกเลยอะ นึกแล้วก็เหนื่อยๆ ก็คือในถ้ำมันเป็นถ้ำอับ เข้าออกได้ทางเดียว อากาศก็ไม่มี เค้าก็ชอบจังเลย (หัวเราะ) ไปถ่ายตรงนั้น รวมทุกคนในนั้น มันเหนื่อยมากเลย ทั้งทีมงานจัดไฟ ทั้งทีมตากล้อง เข้าไปอยู่เป็นวันๆ ต้องไปแอคชั่นในนั้นอีก แต่ก็พอผ่านมาได้  แม้จะอึดอัดเพราะเป็นฉากที่ยาก แต่ก็ประทับใจที่สุด เพราะเราได้ลงแรงไปกับที่นั่นเยอะมากเลยครับ”

โดยส่วนตัวมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องศาสตร์คาถาอาคมมากน้อยแค่ไหน?

“ผม 50 เปอร์เซนต์  ไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่เราไม่ได้ลบหลู่ ก็มีหลายเรื่องที่เราเคยเจอแล้วแบบ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันเป็นจังหวะ หรือเป็นอะไรบางอย่างนั่นแหละครับ ”

จอมขมังเวทย์ 2020

ความโดดเด่นและน่าสนใจโดยรวมของเรื่องนี้?

“ความน่าสนใจอยู่ที่นักแสดง บทด้วย น่าสนใจตรงที่มันเป็นภาคต่อ เพราะฉะนั้นมันจะมีความขมังเวทย์รุ่นเก่ากับจอมขมังเวทย์รุ่นใหม่มาเจอกัน แล้วก็ทำให้เห็นถึงความเป็นปัจจุบันว่าคนยังมีอะไรแบบนี้อยู่ อยากให้ดูแล้วก็สะท้อนถึงสังคมนิดหนึ่งด้วยเกี่ยวกับองค์กรอะไรต่างๆ ก็อยากจะให้ลองดูว่าทุกอย่างมันมีสองด้าน เป็นความเมืองสมัยใหม่ แต่ของมันต้องมีไง สมัยนี้มันก็ยังเห็นคนใส่สร้อยข้อมือเต็มไปหมดเลย มีห้อยโน่นนี่ ตะกรุด เบี้ยแก้อะไรอย่างนี้ ก็อยากฝากให้ทุกคนได้ลองไปดูนะครับ หนังเรื่องนี้ “จอมขมังเวทย์ 2020” มันน่าสนใจตรงที่นักแสดงแต่ละคน รวมทั้งโปรดักส์ชั่นอะไรต่างๆ ทุกคนตั้งใจกันมากๆ เลย อยากให้ไปดูความล้ำทันสมัยของเอฟเฟกต์  มุมกล้องว่ามันไปถึงขั้นไหนแล้วของไทย รวมถึงฉากแอคชั่นมันๆ แล้วก็ฝากให้ดูการแสดงของผมด้วย 14 พฤศจิกายนนี้ครับ”


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up