กว่าจะประสบความสำเร็จก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 คว้ามงกุฎแรกในประวัติศาสตร์ให้กับคนไทยได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ“บิ๊นท์-สิรีธร” นางสาวไทย และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ซึ่งเธอต้องทั้งลดน้ำหนักกว่า 10 กก. ใน 27 วัน ก่อนไปประกวดเวทีอินเตอร์ที่ญี่ปุ่น และต้องเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ เพื่อปรับตัวให้ได้กับทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการประกวดครั้งนี้
หน้าเป๊ะรูปร่างฟิตเปรี๊ยะยิ่งกว่าตอนได้ตำแหน่งเสียอีก สำหรับ “บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์” เจ้าของตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2562 และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2019 ที่เพิ่งคว้ามงฯ มาหมาดๆ จากเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนที่จะเดินทางไป ตลอด 27 วันที่ผ่านมา “บิ๊นท์” ได้เข้าคอร์สติวเข้มเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทั้งด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ด้านเสริมความสวยงามทำผม-แต่งหน้า ฝึกการตอบคำถาม และนำเสนอความสวยความอย่างไทยแบบอินเตอร์ แต่ที่ดูจะฮือฮาในหมู่แฟนนางงามมากที่สุดคือรูปร่างของเธอ มันเปลี่ยนแปลงไปด้วยน้ำหนักที่ลดลงถึง 10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาเพียง 27 กว่าวันเท่านั้น นั่นทำให้เห็นว่าเธอต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจเป็นอย่างมากจริงๆ
โดยเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 ที่ โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน สื่อมวลชนสายนางงามได้มีโอกาสพบกับ “บิ๊นท์” ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น งานนี้ “แพรวดอทคอม” ไม่พลาดที่จะไปที่จะไปสัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัว ความพร้อม และความมั่นใจของเธอก่อนที่จะเดินทางด้วย
สถานที่ถ่ายภาพ :โรงแรมเซ็นทารา วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน
เพราะอะไร บิ๊นท์มั่นใจมากว่าจะคว้ามงกุฎกลับมาได้?
“บิ๊นท์เชื่อว่าความมั่นใจของเราจะนำพาทุกสิ่งเลย เหมือนเวทีที่ผ่านมาของบิ๊นท์ แต่ครั้งนี้ที่สำคัญคือทั้งเราและทีมงานก็พร้อมทุกอย่าง ดังนั้นมันไม่มีอะไรต้องกลัว บิ๊นท์เชื่อว่าทีมงานไทยและแฟนคลับไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย”
คิดว่ายังมีอะไรต้องปรับตัวไหม?
“บิ๊นท์คิดว่าต้องปรับตลอดเวลา หรือเรียกว่าต้องปรับให้เท่าทันดีกว่า เพราะว่าเดี๋ยวยิ่งเราย้ายไปประเทศญี่ปุ่นก็ยิ่งจะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของเขาอีก ดังนั้นบิ๊นท์ปรับตัวตลอดเวลา”
จะใช้ความเป็นไทยจับใจกรรมการที่ญี่ปุ่นอย่างไร?
“บิ๊นท์เป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นทุกอย่างอยู่ในตัวบินท์แล้ว เราอาจจะเสริมความสามารถพิเศษเข้าไป บิ๊นท์เชื่อว่าความเป็นคนไทย ยิ้มง่าย ความเฟรนด์ลี่เราได้แสดงมันออกมาหมดแล้ว จึงเชื่อว่าจะจับใจชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน”
มีความกังวลเกี่ยวกับรอบการตอบคำถามบ้างไหม?
“ไม่กังวลเลย เพราะเป็นคนที่ตอบคำถามจากใจ ดังนั้นไม่ได้ต้องมาประมวลผลหรือคิดเยอะมาก เราอยากตอบอะไรเราก็ตอบออกไป และถามเกิดมีความผิดพลาดบิ๊นท์คิดว่าความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย มันผิดพลาดกันได้ เราแค่ปรับปรุงดังนั้นจึงไม่ได้กังวลอะไร เราแค่ศึกษาไปให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว และเชื่อว่าถ้าเราปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่มีใครด่าซ้ำแน่นอน”
สิ่งที่หลายคนพูดถึงคือน้ำหนักบิ๊นท์ลดลงไปถึง 10 กก. ในเวลาเพียง 27 วันเท่านั้น หลายคนเลยอยากทราบเทคนิคพอจะบอกได้ไหม?
“บิ๊นท์น้ำหนักลง 10 กิโลกรัม จาก 65 กิโลกรัม ลงมาอยู่ที่ 55 กิโลกรัม ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือไม่ใช่การอดอาหารเพราะสุดท้ายแล้วร่างกายมันก็จะต้องกลับมากินให้เยอะกว่าเดิม แต่ว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือกินทุกมื้อแต่น้อยลง อย่างบิ๊นท์ก็ค่อยๆ ตัดข้าว จาก 2 ทัพพี เหลือ ครึ่งทัพพี แล้วเลือกกินโปรตีนแทนเอา คือเราต้องมีความเข้าใจก่อนว่าการกินคาร์โบไฮเดรตน้อยลง โปรตีนมากขึ้นก็จะช่วยทดแทนและสร้างกล้ามเนื้อได้มากกว่า เพราะจะไม่มีไขมันหรือน้ำตาลสะสม”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานชุดว่ายน้ำจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK คอลเล็คชั่น Abode of Metamorphosis Spring-Summer 2019 สำหรับในการประกวดครั้งนี้
พูดถึงผ้าไทยเห็นว่าครั้งนี้เตรียมไปเยอะมากบิ้นท์จะนำไปยกระดับให้ชาวโลกได้รู้จักอย่างไรบ้าง?
“บิ๊นท์คิดว่าด้วยผ้าไทยที่บิ้นท์นำไปมันอินเตอร์เนชั่นแนลมาก ทุกคนจะได้เห็นผ้าไทยในรูปลักษณ์ที่ไม่ใช่ผ้าไทยแบบเดิมๆ เลย ไปถึงปุ๊บคนอาจจะตกใจก็ได้ว่าผ้าอะไร ทำไมสวยจัง มันจะเป็นความสวยที่ทุกคนเห็นแล้วชอบแน่นอน แล้วก็มีผ้าพิเศษที่ประยุกต์นำหลายๆ ภาคเข้ามาไว้ด้วยกันซึ่งบิ้นท์จะนำไปประมูลด้วย”
อยากจะฝากอะไรถึงแฟนคลับที่เมืองไทยก่อนจะบินไปที่ประเทศญี่ปุ่นบ้าง?
“ก็ฝากตัวกับแฟนๆ ทุกคนนะคะ บิ๊นท์ยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเวทีแรกเสมอ บิ้นท์ตื่นเต้นทุกครั้งที่เปลี่ยนเวที จากเวทีนางงามกรุงเทพฯ มาเป็นนางสาวไทย จนตอนนี้มันถึงเวทีระดับอินเตอร์เนชั่นแนลแล้วก็อยากฝากตัวจริงๆ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ ตลอดเวลาที่บิ๊นท์อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็จะพยายามไลฟ์และคุยกับทุกคน ยังไงก็ฝากติดตามบิ๊นท์ได้ที่ไอจีสตอรี่และเฟซบุ๊คของบิ๊นท์ได้นะคะ พูดได้บอกได้เลยนะคะ เช่นวันนี้ผมไม่สวย แต่งหน้าไม่ดี เพราะเราจะได้แก้ทัน สวยทุกวันด้วยฝีมือชาวไทยค่ะ”