account_circleยิ่งโตยิ่งหล่อเกรี้ยวกราดมากสำหรับนักแสดงหนุ่มวัย 22 ปี “แบงค์-ธิติ” หรือ “แบงค์ ฮอร์โมน” ล่าสุดหนุ่มคนนี้ทำสาวๆ ใจเต้นแรง กับภาพลักษณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่หนุ่มน้อยคนเดิมที่แฟนๆ รู้จัก เมื่อแบงค์ฟิตร่างกายขึ้นชกบนเวที 10 fight 10 จนกลายเป็นแมทช์ทอล์คออฟเดอะทาวน์ ล่าสุด “แพรวดอทคอม” มีโอกาสสัมภาษณ์หนุ่มคนนี้ บอกเลยว่าถึงจะโตขึ้น แต่ความน่ารักยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ละครเรื่อง “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน My Ambulance” แบงค์แสดงเป็นใครและบทบาทที่ได้รับท้าทายอย่างไรบ้าง?
“เรื่องนี้รับบทเป็น “ไท” คาแร็คเตอร์จะเป็นพี่ชายที่อาศัยอยู่กับน้องสาวสองคน แต่วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ น้องสาวเสียชีวิต และไทต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล สำหรับการทำงานในเรื่องนี้ค่อนข้างหนักมาก เราต้องทำงานกับบทเยอะมาก เพราะเรื่องนี้ผมเล่นในทางดราม่าค่อนข้างเยอะ แตกต่างจากบทก่อนๆ หน้านี้ที่จะออกแนวสดใสยิ้มฟันยื่น ผมจะบอกว่ามันจะออกมาเซอร์ไพร้ส์แฟนๆ ที่รอติดตามอยู่ เพราะก็เซอร์ไพร้ส์ตัวผมเองเหมือนกัน”
เห็นว่าถ้าจะดูแบงค์ต้องห้ามกระพริบตาเลย?
“ใช่ครับ เพราะผมจะออกมาทีละ 5 วินาที (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ คืออาจจะไม่ได้เห็นผมตลอดทั้งเรื่อง ก็อยากจะให้จับตาดูให้ดีๆ แล้วกัน ว่าผมจะออกมาในคาแร็คเตอร์แบบไหนและตัวละครไทจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง”
เห็นว่าบทนี้ทำให้แบงค์รักน้องสาวแท้ๆ มากขึ้นด้วย?
“จริงๆ ผมเองก็มีน้องสาวแท้ๆ ด้วยอายุห่างกัน 3 ปี ซึ่งการได้เล่นบทนี้ทำให้เรารู้สึกรักน้องมากขึ้น แต่ก็ในสไตล์เรา เพราะปกติผมไม่ค่อยแสดงออก จะเป็นแนวห่วงเขาค่อยดูเขาอยู่ห่างๆ แล้วก็ปล่อยให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเอง ได้เลือกในสิ่งที่เขาชอบ บางครั้งก็แนะนำประสบการณ์ที่เราเคยผ่านมาแล้ว อันไหนผิด อันไหนถูกก็แนะนำกันไป”
เพราะอะไรถึงคิดเปลี่ยนแปลงร่างกายของตัวเอง?
“จริงๆ ที่ผมออกกำลังกายก็เพราะละครเรื่องนี้ ที่ทำให้ผมมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง เราอยากสร้างคาแร็คเตอร์ที่มันแปลกใหม่ เปลี่ยนทั้งอินเนอร์ของเราและร่างกายของเราด้วย เพราะบางทีเราเปลี่ยนแค่ภายใน คนดูไม่ออกเท่ากับว่าเราเปลี่ยนภายนอกไปด้วย ผมเลยรู้สึกว่าไหนๆ เรามีโอกาสที่จะได้เปลี่ยนคาแร็คเตอร์ ก็อยากที่จะเปลี่ยนทั้งหมดเลย เพื่อที่ว่าคนจะได้เห็นคาแร็คเตอร์ที่แปลกใหม่ของเรามากขึ้น และเราจะได้มีโอกาสที่จะรับงานได้หลากหลายมากขึ้น มีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้ลองเล่นดู เราเองก็อยากรู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ขนาดไหน
กว่าจะมีซิกแพ็คให้สาวๆ ได้กรี๊ดขนาดนี้ ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน?
“ยากมากครับ ผมเป็นคนที่เผาผลาญดีหรือพยาธิเยอะก็ไม่รู้ คือน้ำหนักขึ้นยากมาก เพราะผมเป็นคนโครงเล็กทำให้ต้องเพิ่มน้ำหนักก่อนที่จะมาฟิตร่างกาย ดังนั้นจึงต้องเทรนหนัก มันต้องทั้งออกกำลังกายและคุมการกินอาหาร แต่ก็ดีนะครับ เพราะพอเราได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและกินอาหารที่มีประโยชน์ก็ทำให้เราสุขภาพแข็งแรงด้วย”
เขินไหมเวลาไปไหนมาไหนมีแต่คนพูดถึงซิกแพ็คของเรา?
“ตอนแรกก็ไม่ค่อยเขินครับ แต่ตอนนี้เริ่มเขินแล้ว เพราะว่าคนก็เริ่มแซวเยอะ แต่ก็ดีใจที่คนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเรา และได้เห็นการพัฒนากล้ามเนื้อของเราด้วย ส่วนเรื่องถ่ายแบบตอนนี้ยังไม่ได้มีที่ติดต่อเข้ามาคือเราจริงๆ แล้วเราก็เป็นคนที่เขินอายเหมือนกัน คือถ้าถ่ายเซ็กซี่จริงจังยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ ถ้าในผลงานที่เป็นงานละครที่ต้องถอดเสื้อก็อาจจะมีบ้าง”
สาวคนพิเศษของเราว่าอย่างไรบ้างที่คนเรียกแบงค์ว่าสามี?
“เขาเข้าใจนะครับ เราโชคดีมากที่เขาคอยสนับสนุนเรา พอเขาเห็นคนรักเรามากขึ้น เขาก็ยินดีไปกับเราด้วย”
แบงค์ตั้งรับกับชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างไร และดูแลความรักอย่างไรบ้าง?
“ผมก็ยังคงเป็นแบงค์คนเดิม เราแค่จริงใจกับความรู้สึกของตัวเอง อย่างเช่นเรารู้สึกอย่างไรกับแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนเราก็จะแสดงสิ่งนั้นออกไป เราไม่ได้มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อที่จะรักษาแฟนๆ ที่เพิ่งเข้ามา เราแค่รู้สึกอย่างไรก็แอ็คชั่นออกไปแบบนั้น”
แบงค์ในวันนี้แตกต่างจากแบงค์ในอดีตอย่างไร?
“เยอะมากครับ อย่างแรกคงจะเป็นเรื่องของร่างกายที่ไม่ได้ผมเหมือนเมื่อก่อน อีกอย่างหนึ่งผมรู้สึกว่าพอเราทำงานไปเยอะๆ เราได้เจอคนหลากหลายรูปแบบ เรื่องความคิดเราโตขึ้น เรามีวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้มากขึ้น ผมว่ามันก็เป็นไปตามวัย ยิ่งเราโตขึ้นประสบการณ์ในชีวิตของเราก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย”
เป้าหมายของแบงค์ในวงการบันเทิงต่อจากนี้?
“ผมอยากลองทำในสิ่งที่ผมไม่เคยทำ ผมว่าเกิดมาสักครั้ง เราอยากทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน หาประสบการณ์ให้กับตัวเองให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เราอยู่ในวงการนี้เราก็อยากลองทำสิ่งต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ อยากร้องเพลง การแสดงมันก็ไม่ได้มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว เราอยากเรียนเพื่อนที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ และเปิดรับบทบาทใหม่ๆ ที่จะเข้ามา”
สุดท้ายอยากบอกอะไรกับแฟนคลับที่ติดตามแบงค์มาตลอดตั้งแต่ฮอร์โมนบ้าง?
“จริงๆ มันก็มีหลายช่วง คือชีวิตในวงการบันเทิงของผมมันเหมือนจะไม่นาน แต่ก็แอบนานเหมือนกัน มันจะมีช่วงแรกๆ ที่แฟนคลับเยอะมาก พวกเขามาคอยให้กำลังใจเรา แล้วก็มีช่วงที่ดร็อปๆ ไป ก็ยังมีแฟนคลับที่อยู่กับเราอยู่ ผมอยากจะขอบคุณเขา ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นความรักที่พิเศษมากเท่าที่ผมเคยเจอ ถ้าเกิดไม่ได้เข้ามาในวงการก็คงไม่เจออะไรแบบนี้ มันเป็นความรักที่แบบว่ารอสนับสนุนเราได้ไม่ว่าเราจะเป็นยังไง ผมรู้สึกดีใจ”
