ไม่ใช่แค่ละครสนุกเท่านั้น แต่ละครเรื่อง “ภาตุฆาต” ยังทำสาวๆ หวีดกันทั้งไทม์ไลน์กับความหล่อใสของ 2 พระเอกหน้าใหม่ “ตรี-ภรภัทร ศรีขจร”รับบท ” รวิศ” และ “หมอเน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล” รับบท “ศศิน” ฝาแฝดที่พรากจากกันมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ “แพรวดอทคอม” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “หมอเน๋ง-ศรัณย์” เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ รวมถึงเรื่องหัวใจของหนุ่มคนนี้ที่สาวๆ อยากรู้ด้วย
“หมอเน๋ง”เข้าวงการมาได้อย่างไร?
“คือเคยเป็นดรัมเมเยอร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาก่อน มีสังกัดโมเดลลิ่งอยู่แล้ว เลยอาจจะมีคนเคยเห็นบ้าง แต่ที่จริงจังเลยก็คือการเข้ามาแคสติ้งของช่อง one ครับ”
เรื่องนี้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกด้วย?
“ก่อนหน้านี้เคยแสดงในละครเรื่อง “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล” แล้วก็มาเป็นพระเอกเรื่องแรกใน “ภาตุฆาต” ครับ ก็ค่อนข้างตื่นเต้นมาก เพราะเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นทหาร และหม่อมหลวง ดังนั้นจึงมีหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจ ด้วยความที่บทมันห่างจากตัวเราเยอะ ก็เลยต้องพยายามทำการบ้าน โชคดีที่พี่ผู้กับกำกับและพี่ๆ นักแสดงคนอื่นก็ช่วยเหลือให้คำแนะนำกับเราตลอด เราก็เลยรู้สึกว่าได้พัฒนาเร็ว”
ต้องเข้าฉากกับรุ่นใหญ่ทั้ง “พี่แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช” บ่อยรู้สึกเกร็งๆ บ้างไหม?
“เกร็งมากครับ เพราะเราเห็นพี่แหม่มมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่วันหนึ่งเราได้มีโอกาสเล่นกับพี่เขาก็ถือเป็นความฝันของเราเลย แต่ก็แอบเครียดเพราะกังวลว่าจะเล่นไม่ดีและต้องทำให้พี่ๆ ทำงานหลายครั้ง แต่พอได้เข้าฉาก พี่แหม่มส่งอารมณ์ให้ดี เรารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นลูกเขาจริงๆ สัมผัสมันได้เลยทำให้การทำงานมันง่ายขึ้นมาก”
อย่างที่เมื่อกี้บอกว่าบทของเรื่องนี้ค่อนข้างไกลจากตัวเอง อยากรู้ว่ามันไกลในแง่ไหน?
“ด้วยความที่เน๋งเป็นเด็กสายวิทย์และเรียนสัตวแพทย์ พอเรื่องนี้มาเป็นทหารมันค่อนข้างที่จะฉีกเลย เพราะปกติเราทำงานอยู่ในโรงพยาบาล แต่พอมาเป็นทหารก็ทำให้เราได้รับรู้ว่า จริงๆ ทหารเขามีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะตอนนี้มีสงครามหรือไม่มีสงคราม เขาก็ต้องปกป้องดินแดนเราตลอด”
อาชีพจริงกับอาชีพในละครแตกต่างกัน มันต้องปรับตัวเยอะไหม?
“เยอะครับ เพราะการเป็นหมอมันใช้เหตุผลหลายๆ อย่างเยอะมาก แต่พอมาเล่นละครมันต้องสื่ออารมณ์เยอะ เรียกว่าใช้หัวใจเล่น มันเลยค่อนข้างเป็นอุปสรรคของเราอย่างหนึ่งเหมือนกัน อีกอย่างตอนเป็นหมอเราค่อนข้างจริงจังด้วยหน้าที่การงาน แต่พอมาเล่นละครเราก็ต้องปรับบุคลิก น้ำเสียงการพูดด้วย”
เคยฝันมาก่อนไหมว่าจะได้เข้าวงการบันเทิง?
“คิดว่าเป็นสิ่งที่ไกลตัวเรามาก มองว่าเราไม่มีความสามารถพอจะเล่นละครได้ อีกอย่างรู้สึกว่าการแสดงอารมณ์มันยาก เราเป็นคนที่ชอบเก็บอะไรไว้ข้างใน ไม่ค่อยอยากให้คนอื่นรู้ว่าเราคิดอะไร และตอนที่เข้ามาแคสติ้งเหมือนเราอยากลองมากกว่า แต่ก็มีคนจุดประกายให้ว่าทำไมเราถึงไม่ลองทำดู เราเลยรู้สึกว่าควรลองทำดูสักทีหนึ่ง จะได้รู้ว่าเราสามารทำได้ไหม แต่พอทำไปเราก็ได้ค้นพบอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับตัวเองที่เรายังไม่เคยรู้เลย มันเลยสนุกที่เราชนะตัวเองได้”
ช่วงนี้พระเอกหน้าใหม่เยอะ ถือว่าเป็นช่วงการแข่งขันที่ดุเดือด คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของเราที่จะมัดใจคนดู?
“เน๋งไม่ได้มองว่าจะแข่งกับใครอยู่แล้ว ไม่ได้มองเรื่องเป็นพระเอก แต่มันขึ้นอยู่กับบทบาทที่แสดงมากกว่าว่าเราจะแสดงอออกมาอย่างไร”
หน้าใหม่หลายคนที่กำลังแจ้งเกิดมักโดนข่าวสกัดดาวรุ่ง เน๋งเตรียมรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ?
“ก็ประมาณหนึ่งครับ เน๋งว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับเน๋ง ย่อมมีคนพยายามไปหาข่าวเกี่ยวกับเราอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้กังวลก็ยืนยันว่าจะใช้ชีวิตแบบเดิม พยายามทำทุกวันให้ดี ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี”
เห็นว่าเพิ่งเรียนจบ ทั้งงานแสดงและงานคุณหมอก็เยอะมากเลย?
“เพิ่งเรียนจบช่วงนี้เลยทำหลายอย่างครับ ทั้งเข้าเวรที่โรงพยาบาลเอกชน ช่วยที่บ้านดูคลีนิกและเปิดคลีนิกของตัวเองด้วย ก็แบ่งเวลาด้วยการจัดตาราง เข้ากองสามวัน เข้าโรงพยาบาลหนึ่งวัน ที่เหลืออีกสามวันก็ต้องไปเฉลี่ยๆ”
สำหรับหัวใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
“(หัวเราะ) ก็เรื่อยๆ มีคนคุยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงถ่ายละคร ทำงานหนักมากก็เลยโฟกัสเรื่องงานก่อน ตอนนี้คุณแม่หวงอยู่ครับ”
สเป๊คสาวที่ชอบ?
“ผมเป็นคนชอบคนฉลาดที่เป็นเวิร์คกิ้งวูแมน รู้สึกว่าเขาดูมีเป้าหมายในชีวิตดี รู้สึกว่าเราน่าจะไปด้วยกันได้ เพราะเราเป็นคนชอบทำงานเหมือนกัน น่าจะคุยกันได้รู้เรื่อง”
ฝากถึงแฟนคลับที่ติดตามกันมาตลอด?
“ฝากถึงแฟนคลับ ขอบคุณมากที่ติดตามมาตลอดทั้งผลงานละครและตามกันไปที่อีเว้นท์ต่างๆ อยากให้ทุกคนติดตามกันต่อไป และเน๋งจะพยายามจำแฟนคลับทุกคนให้ได้นะครับ”
สามารถติดตามชมละครเรื่อง “ภาตุฆาต” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี 20.10 น. ทางช่อง ONE 31