account_circleนางงามนักสู้ ฟ้าใส -ปวีณสุดา ดรูอิ้น เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 2 MUT2017 ปี “มารีญา พูลเลิศลาภ” กลับมาประกวดใหม่พร้อมคว้ารางวัล Golden Tiara Ticket ลอยลำผ่านเข้า MUT2019
เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับการคัดเลือกผู้เข้าประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019” (Miss Universe Thailand 2019) ซึ่งปีนี้มีเซอร์ไพร้ส์หลายอย่าง ตั้งแต่ผู้จัดที่ครั้งนี้ได้ “บริษัท ทีพีเอ็น 2018” มาดำเนินการ โดยตั้งเป้าว่าจะพลิกประวัติศาสตร์วงการนางงาม คว้ามงที่ 3 ของเวที Miss Universe มาเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประกวดรอบคัดเลือก (Audition) ขึ้นที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อคัดนางงาม โดยในรอบนี้จะคัดผู้เข้าประกวดจาก 500 คนเหลือ 60 คน แต่ที่พิเศษกว่าทุกๆ ปีก็คือคณะกรรมการจะมอบ Golden Tiara Ticket ให้กับนางงามกลุ่มหนึ่งที่แสดงความสามารถและทัศนคติออกมาได้โดดเด่นที่สุด ให้ผ่านเข้ารอบแบบไม่ต้องลุ้น
และก็เป็นไปตามคาด หนึ่งในสาวงามผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบไปก็คือหนึ่งในตัวเต็งของปีนี้ “ฟ้าใส -ปวีณสุดา ดรูอิ้น” เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss Universe Thailand 2017 ซึ่งเป็นปีที่ “มารีญา พูลเลิศลาภ” คว้ามงกุฎนี้ไปครอง
แม้ว่าจะพลาดโอกาสสำคัญ แต่ที่ผ่านมา “ฟ้าใส” ก็ยังพยายามต่อสู้บนเส้นทางนางงาม จนได้ครองตำแหน่งสาวงามโลก Miss Earth 2017 ซึ่งในระหว่างนั้นฟ้าใสแสดงศักยภาพออกมาได้โดดเด่น ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนนางงามที่พยายามเชียร์ให้เธอกลับมาประกวดเวที Miss Universe Thailand อีกครั้ง
และในปีนี้ฟ้าใสก็ปรากฏตัวตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะเธอสามารถคว้ารางวัลแรกเข้ารอบ Fast Track ได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
สำหรับ “ฟ้าใส” หรือ “ปวีณสุดา ดรูอิ้น” เป็นลูกครึ่งชาวไทยเชื้อสายจีน-แคนาดา จบการศึกษาปริญญาตรี จาก University Of Calgary สาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว (เกียรตินิยมอันดับ 1) และเป็นดีเจอยู่ที่ FM 99 แอคทีฟ เรดิโอ คลื่นเมืองไทยแข็งแรง โดยในการประกวดนางงามนั้น เธอได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss Thailand Chinese Cosmos 2013 จากนั้นเธอได้บินไปต่างประเทศและได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายในการประกวด Miss Chinese Cosmos 2013 ต่อมาเธอได้ร่วมประกวดในเวที นางสาวไทย และได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 ไปครองในปี 2556 (ค.ศ. 2013) และได้เข้าประกวดครั้งสำคัญ Miss Universe Thailand 2017 แต่พลาดหวังเพราะเจอกับตัวเต็งที่แข็งแรงอย่าง “มารีญา” และในปี 2019 เธอกลับมาประกวดในเวทีเดิมอีกครั้ง ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามดูกันต่อไป
ภาพจาก : IG @paweensuda