การดูหนังคือความบันเทิง แต่สำหรับหนังที่ทำรายได้ต่ำ คนที่ไม่บันเทิงเลยแน่ๆ คือทีมคนสร้าง และล่าสุด www.thewrap.com ก็ได้เผยหนัง 19 เรื่อง ที่ทำรายได้เข้าข่ายน่าเจ็บปวดประจำปี 2014 ออกมา อยากให้อ่านเพื่อสแกนว่าคุณมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้หนังเรื่องใดบ้าง
1.Transcendence
จอห์นนี่ เดปป์ คงต้องจดสถิติในชีวิตเข้าไปอีกหนึ่งรายการ ในฐานะที่ Transcendence คือหนังที่ทำรายได้ได้น่าผิดหวังเป็นลำดับที่ 4 ในชีวิตการแสดงเขา (อีก 3 เรื่องคือ The Lone Ranger, Dark Shadows และ Rum Diaries) โดยหนังไซไฟเรื่องนี้ทำรายได้ไปตอนเปิดตัวเดือนเมษายนแค่ 10.8 ล้านเหรียญ ก่อนจะลาโรงในอเมริกาไปด้วยรายได้ 23 ล้านเหรียญ ยังดีที่มีตลาดต่างประเทศมาช่วย ทำให้มีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 103 ล้านเหรียญ ทว่าเมื่อหักกลบกับต้นทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญ Transcendence ก็จัดอยู่ในข่ายเจ็บตัวอยู่ดี
2. A Million Ways to Die in the West
หนังคอเมดี้ของผู้กำกับ เซ็ธ แม็คฟาร์เลน (Seth MacFarlane) คนเดียวกับที่กำกับเรื่อง TED ที่ทำรายได้ดีจนต้องมี TED2 นั่นแหละ เรื่องนี้เขาทั้งกำกับและเล่นเป็นพระเอกเอง แถมมีสาวเซ็กซี่ก้านยาวอย่าง Charlize Theron มาร่วมแสดงด้วย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ หนังทำรายได้เปิดตัวอยู่ที่ 16.7 ล้านเหรียญ และจากทั่วโลกที่ 86 ล้านเหรียญ เป็นอุทาหรณ์ว่าคนเห็นความน่ารักของแกะเท่ากับหมีนะ
3. The Legend of Hercules
จะบอกว่าหนังแนวสู้รบฮีโร่กรีกโรมันโชว์กล้ามอกสลับใส่เสื้อเกราะสวยๆ ไม่เวิร์คแล้วหรือ ก็ไม่อยากจะแทงกั้กว่าอย่างนั้น เพราะขณะที่ The Legend of Hercules เปิดตัวด้วยรายได้ 8.8 ล้านเหรียญ และทำเงินจากทั่วโลกได้เพียง 61 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หนังอีกเรื่องที่เป็นแนวเดียวกัน ชื่อคล้ายกันแบบสั้นกว่าคือ Hercules กลับทำรายได้ถล่มทลายกวาดไป 243 ล้านเหรียญ ถ้าให้วิเคราะห์ อืม… สาวๆ อาจปลื้มกับแผงอกจริงใจของ Dwayne Johnson มากกว่า Kellan Luttz ก็ได้นะ
4. The Giver
เป็นหนังอีกเรื่องที่พิสูจน์ว่าแม้จะมีแม่เหล็กแต่ก็หาได้เป็นยาดีไม่ เราจึงได้เห็น เมอริล สตรีพ เจฟฟ์ บริดเจ็ทส์ เคที่ โฮมห์ และเทเลอร์ สวิฟฟ์ ร่วมหัวจมท้ายอยู่ในหนังที่ทำรายได้ทั่วทั้งสหรัฐเพียงแค่ 45 ล้านเหรียญ ขณะที่ตลาดต่างประเทศยิ่งแป้กกว่า เพราะทำได้เพียง 22 ล้านเหรียญเท่านั้น
5. A Walk Among Tombstones
สภาพจอดไม่ต้องแจวยังดีซะกว่ามีคนจับ เลียม นีสัน เปรียบกับ เดนเซล วอชิงตัน จากหนังเรื่อง The Equalizer ซึ่งพล็อตคล้ายกัน เข้าโรงฉายห่างกันเพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่กลับทำรายได้ต่างกันราวเหวกับฟ้า โดย A Walk Among Tombstones ทำรายได้จากทั่วโลก 53 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ The Equalizer โกยเงินได้สูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ อัยย่ะ
6. Expendable 3
ดูใบปิดแล้ว ต้องเรียกว่าเป็นหนังรวมดาราอภิมหาโคตระแม่เหล็กเข้าไว้ด้วยกัน แต่แล้วยังไงหรือ รายได้ทั้งป่วยทั้งแป้กเมื่อเทียบกับทุนสร้าง 190 ล้านเหรียญ แต่สามารถทำรายได้ช่วงเปิดตัวไปได้แค่ 15.8 ล้านเหรียญ แถมเมื่อลาโรงที่อเมริกายังไม่สามารถทุบตัวเลข 40 ล้านเหรียญแตกซะด้วยซ้ำ
7. The Best of Me
หนังดราม่า-โรแมนติก สร้างจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ นิโคลัส สปาร์คส์ (Nicholas Sparks) แต่นั่นไม่ได้การันตีว่าคนชอบหนังสือจะขยับตัวไปดูหนังซะหน่อย จึงทำรายได้ไปได้แค่ 25 ล้านเหรียญในอเมริกา เมื่อรวมกับตลาดต่างประเทศที่ก็ต้องบอกว่าแป้กพอกัน จึงทำได้โดยรวมแค่ 35 ล้านเหรียญเท่านั้น
8. Get On Up
เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าหนังกล่องเปี่ยมคุณภาพ นักวิจารณ์เทคะแนนให้เป็นหนังเกรดดีสามารถวิ่งสวนทางกับมันนี่ได้อีกครั้ง ทำให้ Get On Up ที่สร้างจากชีวประวัติของนักร้องผิวสี เจมส์ บราวน์ และนำแสดงโดย Chadwick Boseman ปิดตัวไปด้วยรายได้เพียง 31 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจาเนอะ
9. Winter’s Tale
เอ่ยชื่อ โคลิน ฟาร์เรล กรี๊ดไหม เอ่ยชื่อ รัสเซล โครว์ กรี๊ดไหม แต่สองพลังก็ทำหนังแป้กได้ ยิ่งเมื่อเทียบกับทุนสร้างหนังรักจินตนาการ (ก็เขาบอก This is not a true story, it’s a love story) 60 ล้านเหรียญ แต่กลับทำรายได้ไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียวของทุนสร้าง นั่นคือ 30 ล้านเหรียญ จึงเชื่อว่าทีมงานต้องปวดกระดองใจกับประสบการณ์วิปโยคครั้งนี้แน่ๆ
10. Pompeii
ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนังตำนานภูเขาไฟ Pompeii ถูกนำมาเล่าบนแผ่นฟิล์ม แต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ลาวาปอมเปอีประทุแผ่วเป็นประวัติการณ์ และถึงแม้จะมี Kiefer Sutherland, Kit Harrington และ Emily Browning รวมพลังกัน ก็ไม่ได้ช่วยเซฟให้โกยเงินทองได้มากมายอย่างใจผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ลยู เอส แอนเดอร์สัน นัก ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่า หนังฟอร์มยักษ์ทุนสร้างเป็นร้อยล้านเหรียญไม่จำเป็นต้องทำเงินถล่มทลายเสมอไป เพราะปิดจ๊อบในสหรัฐไปด้วยตัวเลขเพียง 23 ล้านเหรียญเท่านั้น
11. A Haunted House 2
หนังภาคต่อแนวตลกปนสยองขวัญที่ถ้าให้สารภาพจากความคิดส่วนตัวน่ะนะ ก็ไม่รู้ว่าคิดทำภาคต่อขึ้นมาเพราะอะไร ในเมื่อไม่รู้สึกถึงความเวิร์คมาตั้งแต่ภาคแรก หนังทำรายได้ตอนเปิดตัวเดือนเมษายนที่ 8.8 ล้านเหรียญ และ 17.3 ล้านเหรียญเมื่อปิดการฉายในอเมริกา แต่ที่น่ากลัวคือมันเป็นหนังทุนต่ำแค่ 4 ล้านเหรียญ นั่นหมายความว่าอาจจะมี A Haunted House 3 มาให้ดูอีกก็ได้นะ
12. I, Frankenstein
ถึง Aaron Eckhart จะมีซิคแพคเร้าใจแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้หนังแอ็คชั่น-ไซไฟใช้ทุนสร้าง 65 ล้านเหรียญ เรื่องนี้ทะยานไปถึงดวงดาว รายได้เปิดตัวที่ 8.6 ล้านเหรียญ และ 20 ล้านเหรียญจากการฉายทั่วทั้งสหรัฐ น่าจะเป็นบทเรียนสุดแสนเจ็บปวดของทีมสร้างค่าย Lionsgate เลยทีเดียว
13. The Single Moms Club
นับเป็นตราบาปที่ติดตัวผู้กำกับผิวสี ไทเลอร์ เพอร์รี่ ไปอีกนานเลยทีเดียวเมื่อเขาได้พบว่าหนังแนวดราม่า-คอเมดี้ที่มองว่าน่าจะถูกใจตลาดกลับทำรายได้เปิดตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เขาทำหนังมา โดยรายรับเปิดตัวอยู่ที่ 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำรายได้รวมจากทั่วโลกทั้งสิ้น 16 ล้านเหรียญสหรัฐ และนั่นทำให้เพอร์รี่ตัดสินใจวางมือจากการทำหนัง แล้วหันไปทำงานทีวีแทน อนิจจังเนอะ
14. The Quiet Ones
หนังสยองขวัญเมืองอังกฤษ เปิดตัวด้วยรายได้ 8.5 ล้านเหียญ และทำเงินทั้งหมดจากทั่วโลกด้วยตัวเลขสุดสยองขวัญคือ 17.8 ล้านเหรียญ และนี่คือผลงานอีกเรื่องของค่าย Lionsgate สแกนแล้วน่าจะเป็นปีชงของค่ายนี้นะ
15. Vampire Academy
แวมไพร์ดูดเลือด แต่ใช่ว่าหนังแวมไพร์จะดูดเงินได้ทุกเรื่องซะเมื่อไร และแม้จะเป็นหนังกระแสดีได้โรงฉายมากกว่า 2,500 โรง แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้หนังเรื่องนี้โกยเงินได้ตามเป้า รายได้จากการเปิดตัวเดือนกุมภาพันธ์ที่ 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากทั่วโลก 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คงต้องบอกว่ามันจบไม่สวยจริงๆ
16. Sabotage
พระเจ้าช่วย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ หลังจากคืนสังเวียนการแสดง มันน่าจะเป็นการกลับมาอย่างภาคภูมิสมศักดิ์ศรีดาราแม่เหล็กกว่านี้สิ แต่นี่อะไร ทำรายได้เปิดตัวได้แค่ 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ทุบสถิติได้แชมป์ผลงานทำรายได้เปิดตัวแย่ที่สุดในรอบ 30 ปีของปู่อาร์โนลด์เฉย แถมรายได้รวมจากทั่วโลกก็ป่วยพอกันคือ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ โอ้… แล้วต่อไปนี้ปู่จะทำไร
17. Moms’ Night Out
แม้รายได้รวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้หนังรอดพ้นจากคำว่า “เจ๊ง” แต่จะให้มองว่าปีนี้คนขี้เกียจขำพร่ำเพรื่อจะได้ไหมนะ ก็คอเมดี้กี่เรื่องแล้วละที่แป้ก
18. The Identical
ใบปิดสวย ขายเพลงให้ดูเพลิน ไม่ใช่สูตรสำเร็จการันตีความเวิร์คอีกต่อไป 1.5 ล้านเหรียญช่วงเปิดตัว กับสถิติลาโรงในสองสัปดาห์ คือความอัปยศที่ลือให้แซ่ด
19. Men, Women & Children
เจ็บปวด รวดร้าว น้ำตาริน(หรือเปล่า?) ด้วยสถิติหนังทำเงินได้ไม่ถึงหลักล้านประจำปี 2014 โดยนักเขียนและผู้กำกับ Jason Reitman ใช้โรงฉายทั้งสิ้น 617 โรงในเดือนตุลาคม ฉายอยู่ 4 สัปดาห์ ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 705,908 เหรียญสหรัฐ โอ้กเลยแหละ กับตำแหน่งสุดยอดหนังยอดแย่แห่งปี
เรื่อง : Ghibli
ภาพ : pinterest