วิถีแม่ลูกแฝด “แม่ชม” ซุป’ตาร์ที่ร้องไห้เหมือนคนบ้าให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต

Alternative Textaccount_circle

วิถีแม่ลูกแฝด “แม่ชม” ซุป’ตาร์ที่ร้องไห้เหมือนคนบ้าให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต… หนก่อน แพรว คุยกับ “ชมพู่” ในวันที่เพิ่งผ่านพ้นงานแต่งงานมาได้ไม่นาน เป็นชีวิตฉบับภรรยาของ “อารยา เอฮาร์เก็ต” ซึ่งก็ถือว่าเป็นโลกใบใหม่ที่ใหญ่มากของชีวิตเธอ ครั้งนี้ชมพู่อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งกว่าเดิม นั่นคือบทบาทของ “แม่” ที่ว่ากันว่าเป็นงานที่หนักและยากที่สุดในโลก นั่นคือสิ่งที่เจ้าตัวได้สัมผัสแบบเต็มๆ และนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเล่าในครั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงคลอดใหม่ๆ ที่แม่ชมยังปรับตัวไม่ได้ จนร้องไห้เหมือนคนบ้า (ชมพู่ใช้คำนี้) ต่อด้วยการเลี้ยงลูกชายฝาแฝด “สายฟ้า” กับ “พายุ” ที่ทำให้ชมพู่เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ รวมถึงเรื่องราวของ “คุณน็อต” สามีสุดที่รักที่วันนี้ถูกกำจัดออกจากห้องนอนไปชั่วคราว ยังไม่นับอีกหลายเรื่องน่ารักของครอบครัวนี้ เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลารอนาน แม่ชมมาแล้วจ้า!

วิถีแม่ลูกแฝด

คุยกันหนก่อน ชมพู่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน วันนี้มีสมาชิกครอบครัวเพิ่มอีก 2 คน ตารางชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมแค่ไหน

พอสมควรเลย เหมือนชีวิตตอนนี้ไม่ใช่ของเราแล้ว อย่างเมื่อก่อนถ้าถ่ายแฟชั่นกับ แพรว เสร็จ ชมอาจไปทำนู่นนี่ต่อ หรือถ้ากลับบ้านก็มีเวลาโอเอ้ ไม่อาบน้ำ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว จากวันที่แต่งงานกับคุณน็อต เรามีกัน 2 คน ชมยังมีสเปซให้ตัวเองบ้าง แต่พอมีสายฟ้ากับพายุ พื้นที่ส่วนตัวตรงนั้นเหลือน้อยมากๆ คือถ้าใครที่คิดว่าชีวิตคู่คือการเสียสละแล้ว พอมีลูกจะเข้าใจว่าอะไรคือการเสียสละหรือการละที่แท้จริง

สำหรับชม ลูกคือความสำคัญลำดับแรก เช่น ถ้าเย็นนี้วางแผนจะเล่นน้ำกับลูก แต่ถึงเวลาถ้าชมอยากทำธุระส่วนตัวสัก 20 นาที คิดว่าลูกรอแป๊บละกันนะ แต่ในโลกแห่งความจริง เด็กไม่รอนะคะ บางทีถ้าอารมณ์เขาเปลี่ยน ง่วงนอน หรือถึงเวลากินนม แผนทุกอย่างจะเปลี่ยนหมด เราต้องให้เขาเป็นหลัก จะคิดว่าเดี๋ยวก่อนไม่ได้ เมื่อไรที่เด็กพร้อมต้องลุยเลย ชมจึงต้องสลับทุกเรื่องของตัวเองไว้ข้างหลัง

วิถีแม่ลูกแฝด

24 ชั่วโมงในแต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง

เริ่มตั้งแต่ 6 โมง พายุจะตื่นสายกว่าสายฟ้านิดหน่อย แต่ไม่เกิน 7 โมง ถ้าชมยังรู้สึกเพลียอยู่ เพราะระหว่างคืนต้องให้นมลูกด้วย ก็จะอุ้มเขาใส่ไว้ในคอกแล้วให้พี่เลี้ยงช่วยดู ชมจะงีบต่อจนถึง 8 โมง ช่วงนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะแล้วนะคะ ถึงแม้สายฟ้ากับพายุยังตื่นกลางดึก แต่แค่ร้อง “แอ๊ะ” พอให้กินนมก็หลับต่อได้เลย ไม่เหมือนช่วงเดือนแรกๆ ที่ต้องเริ่มกล่อมกันใหม่ตั้งแต่ต้น

ถ้าวันไหนไม่มีงาน ชมจะอยู่กับลูกทั้งวัน หรือถ้าต้องออกไปทำธุระส่วนตัวข้างนอก หรือไปซื้อของก็พาเขาไปด้วยบ้าง แต่ถ้าวันไหนขี้เกียจก็อยู่บ้าน ตกเย็นพากันไปเล่นน้ำในสระ ไม่ได้มีแผนอะไรชัดเจน

วิถีแม่ลูกแฝด

พัฒนาการของพี่สายฟ้ากับน้องพายุเป็นอย่างไรบ้าง

ไล่ๆ กันเลยค่ะ แต่พายุจะตัวโตกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะกินเก่งและนอนเยอะกว่า ส่วนสายฟ้าจะเหมือนแม่ที่นอนยากตื่นง่าย ไม่ชอบกินนม คือกินข้าวได้ปกตินะ แต่ตัวเล็กกว่า เพราะแอ๊คทีฟ ซน ขณะเดียวกันก็ทำให้เขาเดินได้ก่อนด้วย มีความคล่องแคล่ว กล้าลุย ซึ่งเป็นคนละคาแร็คเตอร์กับพายุที่เวลาทำอะไรจะคิดก่อน ใช้เวลาตัดสินใจมากกว่า

ชมคิดว่าตอนนี้เขารู้เรื่องมากกว่าที่เราคิด แม้ยังพูดภาษาเอเลี่ยนของตัวเองอยู่ แต่บางครั้งจะส่งเสียงคล้ายๆ คำว่าแม่ ซึ่งเขาอาจไม่ได้ตั้งใจเรียกเราก็ได้ เพราะคำว่าแม่ออกเสียงได้ง่าย ในภาษาสากลถึงคล้ายๆ กัน แต่เวลาชมบอกว่าสายฟ้าถืออะไรอยู่ เอามาให้แม่ซิ หรือพายุกินอะไรอยู่ แบ่งแม่หน่อยครับ ทั้งคู่ก็เข้าใจแล้วเอามาให้นะคะ หรือเวลาชมบอกว่าอันนี้ห้ามทำนะครับ พายุกับสายฟ้าก็ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ แต่ยิ้มแล้วทำต่อ (หัวเราะ)

เรื่องหนึ่งที่ชมสังเกตคือ สายฟ้ามีความเป็นพี่สูงกว่าพายุ ซึ่งแปลกมาก เพราะเราให้เท่ากัน แต่บางทีถ้าเขาเล่นแรงกับน้องก็จะบอกว่า สายฟ้าอย่าเล่นแรงกับน้องนะครับ แต่ชมไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเก็ตได้อย่างไรว่าเป็นพี่ ส่วนพายุจะมีคาแร็คเตอร์น้องเลย ทั้งที่ชมจะพูดกับเขาเสมอว่าถ้าของชิ้นนั้นอยู่ในมือของใครก่อน คนนั้นคือเจ้าของ การแย่งออกจากมืออีกคน ไม่ว่าจะเป็นพี่เป็นน้องคือผิดทั้งคู่ อาจเพราะชมโตมาแบบลูกคนเดียว แต่กับฝั่งสามี (น็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์) มีพี่น้อง 4 คน และคนจีนจะสอนว่าพี่ต้องเสียสละให้น้อง น้องต้องเชื่อฟังพี่ แต่ชมจะบอกว่าจะน้องหรือพี่ก็เท่ากัน ต้องแชร์ เคารพในสิทธิของกันและกัน โอเคว่าอะไรที่พี่ให้น้องได้ พี่ก็ให้ แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิทธิของเขาอยู่ อีกคนต้องรอก่อน

วิถีแม่ลูกแฝด

สำหรับคุณแม่มือใหม่ แค่ลูกหนึ่งคนก็เหนื่อยแล้ว แต่นี่เป็นลูกแฝด เหนื่อยไหม

เหนื่อยค่ะ แต่เราต้องพยายาม ขณะเดียวกันชมก็ไม่ได้ตามใจลูกไปซะทุกอย่าง ความตั้งใจแรกคือ ไม่ได้ให้ลูกเป็นนายเรา เลี้ยงแบบที่เราอยู่ด้วยกันได้ ข้อแรก เขาต้องยอมรับ condition ว่าเป็นพี่น้องฝาแฝดที่ต้องโตไปพร้อมกัน แล้วแม่ก็แยกร่างไม่ได้ ถึงจะมีคนช่วยเลี้ยงหรืออะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นเขาต้องรู้จักการรอด้วย

อย่างเวลาที่พี่เลี้ยงติดงานอยู่ ถ้าสายฟ้ากับพายุร้องขึ้นมา แรกๆ พี่เลี้ยงจะลนลาน ทำอะไรไม่ถูก ชมก็บอกว่าไม่เป็นไร ให้เขาเห็นว่าเราทำงานอื่นอยู่ เขาต้องเรียนรู้ที่จะรอ โอเค ใช่ แม่ต้องเสียสละ แต่ลูกก็ต้องรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกันด้วย ยิ่งตอนนี้เขาเริ่มรู้เรื่องมากขึ้น ชมก็ค่อยๆ สอนว่าพายุกับสายฟ้าอย่าทำอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ

วิถีแม่ลูกแฝด

มีวันที่แม่ชมเครียดจนรับมือไม่ไหวไหม

มีค่ะ ช่วงที่เครียดมากๆ คือตอนกลับจากโรงพยาบาลใหม่ๆ ความจริงคุณหมอเตือนเรื่องเบบี้บลู (Baby Blue คือ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด) ว่าชมอาจจะต้องเผชิญ เพราะเป็นคุณแม่ลูกแฝด แล้วช่วงตั้งท้อง ฮอร์โมนของชมพุ่งสูงมาก พอคลอดก็หล่นฮวบเหมือนลิฟต์ที่เสียแล้วกระตุกลงมา ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ตอนนั้นชมมั่นใจตัวเองไปหน่อยว่าร่างกายฉันฟิต จิตใจก็แข็งแรง ไม่น่าเจอปัญหานี้ แต่สุดท้ายเจอเข้าจริงๆ แล้วลึกๆ ชมมีความเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ คาดหวังกับตัวเองสูงว่าพอกลับถึงบ้าน ฉันน่าจะรับมือกับการเลี้ยงลูกได้ แต่ยังไม่ทันไรเลย แค่วันแรกหลังจากคลอดก็เครียดแล้ว ทำไมไม่มีคนบอกเลยว่าเด็กแรกเกิดจะตื่นทุก 3 ชั่วโมง

ชมไม่รู้จริงๆ คือตอนท้องชมศึกษาเรื่องการตั้งครรภ์หนักมากนะ แต่ไม่ได้อ่านเรื่องการรับมือหลังคลอด (หัวเราะ) ไม่เห็นมีใครบอกว่าเด็กตื่นบ่อย ไหนจะเรื่องกินนมแม่ รวมถึงทุกคนที่อยากมาเยี่ยม แต่สภาพชมตอนนั้นแย่มาก ทั้งจากการผ่าคลอด เมายาสลบ และมีเอฟเฟ็กต์จากยาบล็อกหลังนิดหน่อย ทุกอย่างโหมกระหน่ำจากทุกทิศทาง พอกลับถึงบ้านช่วงแรกๆ ก็ยังไม่มีคนช่วยเลี้ยงลูก ตอนนั้นชมเหมือนเป็นบ้าเลย เกลียดทุกอย่าง แต่ไม่ได้แสดงออกนะ มีแค่พี่เจี๊ยบที่เป็นพี่เลี้ยงของชม ซึ่งตอนนี้ช่วยเลี้ยงสายฟ้ากับพายุด้วย แล้วก็สามีที่รู้ว่าดิฉันไม่ไหวแล้ว

บางวันชมร้องไห้เหมือนคนบ้า ทั้งโมโหและอะไรหลายๆ อย่าง นอนน้ำตาไหลอยู่คนเดียว พร้อมตั้งคำถามว่าเราเป็นอะไรเนี่ย (หัวเราะ) ซีนนี้คุณน็อตไม่ได้เห็นนะ แต่คงรู้แหละ ชมว่าคุณแม่มือใหม่คงเจอเรื่องคล้ายๆ กัน บางทีไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะวงจรของเด็กจะวนทุก 3 ชั่วโมงคือ หลับ ตื่นมากินนม จากนั้นกล่อมให้หลับ ซึ่งระหว่างนั้นเราก็ปั๊มนมไปด้วย แต่ถ้าบังเอิญว่าทั้งสองคนตื่นพร้อมกันก็จะวุ่นวายเป็น 2 เท่า กว่าจะกล่อมสายฟ้าให้หลับได้พายุก็ตื่นขึ้นมาตอนชมกำลังจะปั๊มนม แล้วเราก็เครียดว่า เฮ้ย เกินรอบ 3 ชั่วโมงหรือยัง หรือบางทีร้องไห้ขึ้นมาพร้อมกัน คนนี้อยากให้อุ้ม อีกคนก็อยากให้อุ้ม แล้วเราต้องอุ้มใครก่อน พอทำไม่ได้ก็รู้สึกผิดอีก ช่วงแรกชมยังรับมือไม่ได้จริงๆ

วิถีแม่ลูกแฝด

คุณน็อตช่วยรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไรบ้าง

อันดับแรกคือ เขาเข้าใจว่าชมอยู่ในภาวะไม่ปกติ ช่วงแรกๆ คุณน็อตจึงบอกทุกคนว่า อย่าเพิ่งมาเยี่ยมนะครับ เพราะตอนนั้นสายฟ้ากับพายุยังนอนไม่เป็นเวลา เดี๋ยวหลับ เดี๋ยวตื่น ถ้ามีคนมาหาก็อาจไม่ได้นอนอีก ชมบอกคุณน็อตด้วยว่าขอเวลาปรับตัวสักพัก ให้ทุกอย่างเริ่มเป็นรูทีน เพราะชมรู้ว่าสุดท้ายเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้เหมือนคุณแม่ทุกคนนั่นแหละ

ขณะเดียวกันชมก็เรียนรู้ว่าต้องคาดหวังให้น้อยลง เรื่องการเลี้ยงลูกนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว เพราะบริบทของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าไปคิดว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามตำราหรือที่หนังสือเขียนบอกว่าแบบนั้นถูก แบบนี้ผิด คือปล่อยไหลไปตามสถานการณ์บ้าง ก็คือสะดวกแบบนี้

วิถีแม่ลูกแฝด

ชมเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากมีลูก 5 คน ตอนนี้ยังคิดเหมือนเดิมหรือเปล่า

ใช่ แต่ตอนนี้คิดว่าจริงๆ แล้วการมีลูก 3 คนก็เยอะแล้วนะ (หัวเราะ) ตอนแรกที่ชมอยากมีลูกเยอะ เพราะคิดว่ามีกันหลายคนน่าจะดี เรามีความพร้อมที่จะดูแลเขาได้ แต่พอได้เลี้ยงลูกจริงๆ ก็คิดใหม่ว่าตัวเลขที่เหมาะน่าจะอยู่ที่ 3 คน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องปัจจัยในการดูแลเขาอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของเวลาที่จะดูแลเขาให้ดี คุณภาพกับจำนวนต้องมาพร้อมกัน ขณะที่เราก็ยังต้องมีชีวิตของตัวเอง ชมอยากบาลานซ์ทุกอย่างให้ดี แต่เอาจริงๆ การมีลูกเยอะก็สนุกดีนะ เหมือนมีตัวละครเพิ่มขึ้นในครอบครัว เวลาเห็นชีวิตใหม่ที่เติบโตขึ้นทุกวัน เราก็ติดใจเหมือนกัน

วิถีแม่ลูกแฝด

ดูทรงแล้วอารยาเหมือนจะชอบบทบาทการเป็นแม่ซะแล้วหรือเปล่า

ชอบหรือเปล่าว้า…(หัวเราะ) ก็มีความสุขค่ะ จริงๆ ชมไม่ได้ชอบเด็กนะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้แบบว่ารักลูกคนอื่น เห็นเด็กก็ไม่ได้อยากกอด รักแต่ลูกของตัวเอง มันเป็นความผูกพัน ได้เห็นเสน่ห์ของการมีลูกด้วย นั่นคือการเห็นคนนั้นคนนี้ในตัวเขา เห็นคนที่จากไปแล้ว เช่น อันนี้เหมือนคุณตานะ อันนี้เหมือนคุณปู่ ซึ่งไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกนะคะ แต่เป็นบุคลิกบางอย่าง บางครั้งชมก็เห็นตัวเองกับคุณน็อตในตัวพายุกับสายฟ้า ทำให้เข้าใจคำว่าเลือดเนื้อเชื้อไขว่าเป็นอย่างไร


 

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ : นิตยสารแพรว ฉบับ 941

ภาพเพิ่มเติม : @chomismaterialgirl

Praew Recommend

keyboard_arrow_up