ก๋วยเตี๋ยว

คนนะไม่ใช่อาหาร! ก๋วยเตี๋ยว หนุ่มนิสัยน่ารักแห่งตระกูล เลือดข้นคนจาง

Alternative Textaccount_circle
ก๋วยเตี๋ยว
ก๋วยเตี๋ยว

ชวนทำความรู้จัก ปอร์เช่ – ศิวกร อดุลสุทธิกุล หรือ  ก๋วยเตี๋ยว  หนุ่มนิสัยน่ารักแห่งตระกูล เลือดข้นคนจาง ขวัญใจวัยรุ่นและขวัญใจคุณแม่ๆ

ก๋วยเตี๋ยว

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บรรดานักแสดงในละครเรื่อง เลือดข้นคนจาง แจ้งเกิดกันถ้วนหน้าก็คือ บทที่เกลี่ยความสำคัญของนักแสดงแต่ละคนออกมาได้อย่างลงตัว และการที่แต่ละตอนจะมีซีนเด่นของนักแสดงแต่ละคนยังช่วยให้เราที่เป็นคนดูได้เห็นมุมมองที่หลากหลายทำให้เรารู้สึก สงสัย เห็นใจ และ รักตัวละครนั้นอย่างไม่รู้ตัว

โดยก่อนหน้านี้เราได้ตกหลุมรักฝีมือการแสดงของน้องๆ รุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น “ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร” กับบท “เฮียอี้”, “เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม” ในบทบาท”พีท”, “ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต” รับบทเป็น  “อาฉี”, “นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์” ที่สวมบทบาท “เหม่เหม” ฯลฯ

และที่น่าจับตามองมากอีกหนึ่งตัวละครที่มีปมเยอะที่สุด แม้ยังไม่มีปมใดคลี่คลายเลย แต่ตอนนี้หลายคนกลับตกกลุมรักหนุ่มน้อยชื่อน่ากิน ก๋วยเตี๋ยว หรือชื่อจริง “ปอร์เช่ – ศิวกร อดุลสุทธิกุล”  ที่มารับบทบาทเป็นหนึ่งในหลายชายของตระกูลจิระอนุันต์ แม้เขาจะกำพร้าพ่อและแม่ แต่โลกของเขายังสดใสเสมอ เป็นกาวใจของครอบครัวและทำให้คนรอบข้างหัวเราะ โดยเฉพาะ “อาม่า” แสดงโดย ครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน บุคคลที่เป็นที่รักและเคารพ

ก๋วยเตี๋ยว

ปอร์เช่” เป็นนักแสดงวัยรุ่นก็จริง แต่เขากับได้รับความนิยมจากคนทุกเพศทุกวัยจากบทบาทนี้ การปฏิบัติอย่างดีกับผู้สูงอายุในบ้านเป็นอะไรที่ใครเห็นต่างก็ประทับใจ และไม่ใช่แค่ในละครเท่านั้น เพราะนอกจอหนุ่มคนนี้ก็ไม่แตกต่างกัน อย่างเมื่อไม่นานมานี้เขาได้พา “ครูเล็ก-ภัทราวดี” ไปรับประทานอาหารด้วย เรียกว่าสนิทสนมกันทั้งในจอและนอนจอเลยทีเดียว

ก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว

“ปอร์เช่ – ศิวกร อดุลสุทธิกุล” เกิดเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ศึกษาอยู่ที่ Ramkhamhaeng Advent International School, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (IAC03) นิสัยส่วนตัวเป็นเฮฮา สนุกสนาน ชอบทำให้คนรอบข้างมีเสียงหัวเราะนอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในคนบันเทิงที่ไม่เคยละทิ้งความฝันแม้ต้องฝ่าฟันอับอุปสรรคมากมาย โดยก่อนที่เขาจะเข้าเป็นศิลปินในสังกัด 4nologue และร่วมในโปรเจกต์ Nine By Nine เขาเคยเป็น อดีตนักร้องกลุ่มวง วี.อาร์.พี ค่ายกามิกาเซ่ มาก่อน พร้อมยอมรับว่าโปรเจคนี้ช่วยเติมไฟฝันของเขาอีกครัั้งหนึ่ง

“อย่างที่หลายคนทราบว่าผมเคยเป็นศิลปินมาก่อน แต่ ณ ตอนนั้นพอมันไม่ได้มีงานต่อเนื่องความอยากเป็นศิลปินของผมก็ลดลง จนได้เข้ามาในโปรเจคนี้ผมรู้สึกเหมือนได้รับการกระตุ้น ผมอยากร้องเพลง อยากเต้นอีกครั้ง และผมมีความสุขกับการเรียนแอคติ้งด้วย ตอนแรกๆ ที่เข้ามาก็ค่อนข้างกดดันเพราะอายุงานเราไม่ได้เยอะแล้วเราเข้ามาเจอพี่ต่อ(ธนภพ) เจเจ(กฤษณภูมิ) แล้วก็อีกหลายๆ คนที่มีผลงานมาเยอะมาก ก็เลยกดดันแต่หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกัน ได้เข้าคลาสเรียนด้วยกันทุกอย่างก็ดูผ่อนคลายขึ้น เราทุกคนต้องเริ่มใหม่ด้วยกันหมด อย่างเรื่องเต้นที่หลายคนคิดว่าผมคงสบายๆ เพราะค่อนข้างมีพื้นฐาน แต่ไม่ใช่สำหรับโปรเจคนี้ครับ ผมต้องเรียนเต้นใหม่เริ่มพื้นฐานไปกับคนในทีม อาจจะด้วยความที่เราต้องเริ่มด้วยกันเลยกลายเป็นว่าทุกวันนี้พวกเราสนิทกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นเพื่อนร่วมทีม แต่เราสามารถคุยกันได้แทบทุกเรื่อง อย่างเรื่องงานใครที่ยังไม่โอเคเราก็พูดกันได้เลยตรงๆ โดยที่ไม่มีใครโกรธใคร เพราะพวกเราเปิดใจและรับฟังกัน ถามว่าความยากของโปรเจคนี้คืออะไร ผมว่ามันคือเรื่องของเวลามากกว่าครับ เรามีเวลาค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับงานต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น พวกเรามีเวลาแค่ ปี ที่ไม่ใช่ ปี ในการซ้อม แต่เป็น ปี ที่ทุกอย่างที่ต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ละคร เพลง คอนเสิร์ต อีเว้นท์ ดังนั้น กำลังใจค่อนข้างสำคัญ ผมก็ต้องขอบคุณแฟนๆ ที่คอยติดตาม คอยไปให้กำลังใจในทุกๆ ที่ที่เราไปด้วยนะครับ”

ก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยว


ภาพจาก : 4nologue IG @porsche.sivk

Praew Recommend

keyboard_arrow_up