จันทนา ปางพุฒิพงศ์ เซลบี้ ‘สวยโก้ คลาสสิก’

เธออาจเป็นเซเลบริตี้ที่ปรากฏกายในงานสังคมไม่บ่อยนัก แต่เมื่อใดที่เธอไปร่วมงาน มักดูโดดเด่น สวยโก้ หรู คลาสสิกตามแบบฉบับของคุณเล็ก — จันทนา ทุกครั้งไป

เลือกไปเฉพาะงานสำคัญ ซิทดาวน์ดินเนอร์-งานการกุศล-งานแต่งงาน

“เล็กไปงานอย่างมากสองครั้งต่อเดือน หรือบางเดือนอาจ 3-4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบางช่วง อย่างปีที่แล้วเดินทางไปต่างประเทศบ่อย หรือช่วงนี้ทุกวันพฤหัสฯ ต้องไปบ้านต่างจังหวัด เพราะมีสุนัขหกสิบตัว รอให้เราไปเล่นด้วย แต่งานทั่วไปมักจัดประมาณวันพฤหัสฯ-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ อีกอย่างหนึ่งคือเกรงใจสามีด้วย เขาไม่ค่อยชอบไปไหน

“งานที่ไปส่วนใหญ่ มักเป็นงานที่มีเพื่อนๆพี่ๆในกลุ่มที่สนิท นัดแนะกันไป เหมือนเราได้ไปสังสรรค์กันเองด้วย จึงสนุก หรือเป็นงานสำคัญที่รู้จักเจ้าของงาน มักเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์ กาลาดินเนอร์ หรือไม่ก็ค็อกเทล รวมทั้งไปงานการกุศล งานครบรอบ งานแต่งงานลูกเพื่อน

“ถ้าถามว่าชอบไปงานแบบไหนมากที่สุด เล็กชอบไปงานวันเกิด หรืองานที่เราจัดเอง และชวนคนอื่นมาร่วมมากกว่า เช่น งานวันเกิดเราบ้าง วันเกิดสามีบ้าง ซึ่งเราจะสนุก ลุกขึ้นมาเตรียมตัว ไม่เฉพาะแต่ตัวเองนะ แต่เตรียมให้หลาน พ่อ-แม่ พี่น้อง ว่าเขาต้องแต่งตัวอย่างนี้ อย่างงานวันเกิดสามีปีที่แล้ว จัดเป็นธีม‘ไทย’ ทุกคนที่มางานชอบมาก ได้ใส่ชุดไทย เล็กเองความจริงเตรียมชุดไว้ แต่ความที่มัวแต่จัดบ้าน แขกมาถึงบ้านแล้ว เรายังไม่ได้แต่งหน้าเลย สุดท้ายต้องใส่เสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าถุง รัดจุก ไม่แต่งหน้า ให้ดูขำๆ แค่นี้ก็สนุกแล้ว”

Last Minute กับการเลือกชุดไปงาน

“เวลาแต่งตัว มักดูว่า งานที่ไปมีธีมอะไร เดี๋ยวนี้ในการ์ดเชิญส่วนใหญ่เขียนธีมการแต่งตัวไว้กลางๆ ประมาณว่า Casual หรือไม่ก็ Elegance ช่วยให้แขกที่ไปร่วมงาน แต่งตัวง่ายไปอีกแบบ เพราะถ้าเป็นงานค็อกเทลกลางวัน เราเน้นแต่งตัวง่ายๆ ส่วนถ้าเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์มีธีมสนุกๆ เราก็เตรียมเสื้อผ้ากันอย่างสนุกสนาน โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้าเป็นชุดๆ หรือซื้อชุดราตรียาวสำหรับใส่ไปงานโดยเฉพาะ รู้สึกว่าอย่างนั้นไม่สนุก ไม่ใช่คนที่ซื้ออะไรเพื่อใส่ให้คนเห็น เพราะเราสนุกกับการแต่งตัว โดยมีข้อจำกัดว่าด้วยรูปร่างไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ทุกชนิด ก็ต้องดูให้เหมาะกับวัยด้วย

“ส่วนจะใส่ชุดไหนไปงาน เล็กไม่ค่อยได้เตรียมตัวล่วงหน้า ส่วนใหญ่ใช้วิธีมิกซ์แอนด์แมทช์นาทีสุดท้าย จับชิ้นนั้นผสมชิ้นนี้ ถอดเข้าถอดออกอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านั่นแหละ เพราะถ้าเตรียมคิดล่วงหน้าจะรู้สึกเบื่อ และเมื่อไม่ต้องเตรียมมาก จึงใส่เท่าที่มี ทำให้เสียสตางค์ช้อปปิ้งน้อยลงด้วยเพราะของที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใส่ก็มีเยอะ เราควรต้องทำโทษตัวเอง ด้วยการใส่ของที่มีให้ครบก่อน ไม่ใช่ซื้อใหม่ตลอดเวลา ไม่งั้นเสื้อผ้าจะล้มทับตัวเอา (หัวเราะ)โชคดีว่าเราจัดกรุ๊ปเสื้อผ้าไว้หมดว่า ตู้ไหนเก็บเสื้อผ้าชุดกลางคืน -กลางวัน หรือตู้ไหนเก็บเสื้อผ้าใส่ง่ายๆสบายๆ มองเห็นอยู่ทุกวัน พอต้องแต่งตัวจริงๆ จึงพอรู้ว่าจะมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดไหนอย่างไร”

สุดยอดแบรนด์โปรดที่ชอบมิกซ์แอนด์แมทช์

“มีไม่กี่แบรนด์ที่ชอบ อย่าง Lanvinดูคลาสสิก ทั้งดีไซน์และสี สวยทั้งชุดในแบบเขา ใส่แล้วเข้ากับตัวเรา ช่วยพรางรูปร่างได้ โดยเฉพาะชุดกลางคืน ค่อนข้างแต่งง่าย มักเป็นชุดหลวมๆ จับเดรป สีและแบบเรียบๆ เติมเครื่องประดับเข้าไป สวยเลย ซึ่งเล็กมีหลักการใส่เครื่องประดับว่า ถ้าเกล้าผม ต้องใส่ต่างหู หรือถ้าไม่ใส่ต่างหู ต้องสวมสร้อยคอ หรือสร้อยโช้คเกอร์ ถ้าใส่กำไลแขน จะไม่ใส่สร้อยคอ บางครั้งอาจรู้สึกว่า ใส่ชิ้นนี้ เสียดายชิ้นโน้น ก็ต้องตัดใจ ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นการประโคมไปทั้งตัว เล็กชอบประโคมเป็นส่วนๆมากกว่า จะได้เด่นเป็นส่วนๆ โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ถ้าประโคมแขนแล้ว คอก็ต้องหยุด หรือถ้าใส่ต่างหูใหญ่แล้ว อย่างอื่นก็ต้องหยุด

“แต่จะให้แต่งแบรนด์เดียว บางทีก็เบื่อ ไม่อยากแต่งตัวเหมือนใส่ยูนิฟอร์ม เพราะเราชอบหลากหลาย ทำให้แต่งตัวได้หลายแบบ อย่างถ้าเป็นแบรนด์Chanel ชอบเสื้อแจ็คเก็ต ที่นำมาผสมผสานกับชิ้นนั้นชิ้นนี้ ใส่ไปงานค็อกเทลได้ ถ้าเป็นชุดโอตกูตูร์ บางคอลเล็คชั่นของ Christian Dior หรือของ Dolce Gabanaก็ชอบนะ แต่รูปร่างต้องดี ช่วยให้เห็นเอว สะโพก ดูเซ็กซี่หน่อยๆ ส่วนใหญ่เล็กชอบเสื้อผ้าที่เน้นการตัดเย็บมากกว่า ไม่ได้เน้นแบรนด์ อย่างCarolina Herrera ของอเมริกา กับอีกแบรนด์ที่ชอบคือ Biyanของอินโดนีเซีย”

เทคนิค Mix & Match แบบง่ายๆ

“ตัวเองไม่ใช่แฟชั่นจ๋า แต่ชอบดูหนังสือ อาศัยดูเยอะๆ ถ้าเห็นชุดในแมกกาซีน แล้วชอบ จะถ่ายรูปเก็บไว้ ส่วนพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับของเราที่มีอยู่ก็จัดไว้เป็นเซตเลย เสื้อตัวนี้กับกระโปรงตัวนั้น ใส่กับเครื่องประดับชิ้นนี้ แล้วถ่ายรูปเก็บไว้เพื่ออัพเดท เพราะบางทีลืมไปแล้วว่ามีชุดอะไรบ้าง เวลาไปช้อปปิ้งที่ต่างประเทศ เห็นของที่ใช่สไตล์เรา จะได้ช้อปง่ายขึ้นด้วยเช่น ถ้ารู้ว่ามีสร้อยอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องซื้ออีก ของแบบนี้ก็ต้องเตรียมกันหน่อยนะคะ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ

“แนวที่เล็กชอบแต่ง มีสองแบบคือ ดูชิค หรือไม่ก็ดูโก้หน่อย แต่ไม่มาก แต่งตัวให้ดูสนุกๆได้ ถ้าไปงานง่ายๆ เช่น งานการกุศล งานเปิดร้านอาหาร เราก็จะแต่งตัวเหมือนในชีวิตประจำวันนี่แหละ แต่ให้ดูโอเว่อร์กว่าชีวิตประจำวันนิดหนึ่ง เช่น มีแจ็กเก็ตสวมทับ จะช่วยให้การแต่งตัวดูครบจบในชุดนั้น เพราะส่วนตัวคิดว่า การใส่เสื้อตัวเดียวไปงาน เหมือนแต่งตัวไม่จบ เหมือนไม่ได้มางาน แต่ถ้ามีแจ็กเก็ตชาแนล หรือแบรนด์อื่นก็ได้ สวมเครื่องประดับเข้าไป จะช่วยให้การแต่งตัวดูสมบูรณ์ขึ้น อีกสไตล์หนึ่งที่ชอบแต่ง คือ ออกแนวแขก หรือไม่ก็สไตล์โบโฮชิค เล็กชอบสีสดมาตั้งแต่เด็ก เช่น ฟ้าสด หรือชมพูสด เป็นลายดอก หรือปักเลื่อม เมื่อไม่นานมานี้ จัดงานวันเกิดฉลองสามีครบหกสิบปี ด้วยธีม‘ฮาวาน่า’ ซึ่งชอบมาก เพราะทำให้รู้ว่า สาวคิวบาแต่งตัวเต็มแบบต้องมีผ้าโพกผม ใส่ชุดแม็กซี่สีสันสดใส ใช้เครื่องประดับทั้งกำไล สร้อยคอ ทุกอย่าง ซึ่งเป็นสไตล์ที่เราชอบอยู่แล้ว จึงตัดชุดสำหรับใส่งานนี้โดยเฉพาะ แต่ที่สุดใส่ไม่ได้ เพราะผอมลง เลยต้องใช้ชุดลายดอกที่ซื้อมาเจ็ดปีแล้วแทน ก็ดูสนุกไปอีกแบบ”

ของที่ต้องมีติดตู้และติดตัว

“ชุดที่ต้องมีติดตู้ตลอด คือ กระโปรงแมกซี่สีดำหลายๆแบบ เวลาแต่งตัวจะได้มิกซ์แอนด์แมทช์ โดยใช้วิธีเปลี่ยนท่อนบน อีกชิ้นที่ต้องมีคือ แจ็กเก็ต หรือกางเกง หรืออะไรที่เราสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้สนุกกับการแต่งตัวในชีวิตประจำวัน ไม่เฉพาะว่าต้องใส่ออกงานเท่านั้น ขณะที่ชุดราตรี มิกซ์แอนด์แมทช์อะไรไม่ค่อยได้ ต้องใส่เป็นชุดๆไป แต่ๆปีหนึ่งไม่ได้มีงานราตรีเยอะ เราเลือกใส่ชุดนี้ คิดว่าคลาสสิกแล้ว พอปีหน้าเทรนด์แฟชั่นเปลี่ยนอีก ก็ใส่ชุดเดิมไม่ได้

“สำหรับเครื่องประดับที่ต้องมีติดตัวเสมอ คือ นาฬิกา เป็นเครื่องประดับชิ้นแรกที่มีเงินแล้วอยากได้ เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่ช่วยให้การแต่งตัวดูครบ ขนาดอยู่บ้านยังต้องใส่เลย

“หลักการแต่งตัวของเล็กคือ ต้องแต่งให้เข้ากับบุคลิก สมวัย และเหมาะกับรูปร่าง บางทีไปกับสามี ก็ต้องแต่งให้เขาอยากเดินกับเราด้วย เราไม่ได้แต่งไปแข่งกับใคร ไม่ได้แต่งไปเดินโชว์ให้คนเห็นว่าฉันสวย หรือแต่งเพื่อให้มีคนถ่ายรูปแต่แต่งเพราะสนุก และถ้าไปออกงาน แล้วมีคนชม ก็รู้สึกขอบคุณ

“เราอาจไม่ได้เป็นคนสวยที่สุดในงาน แต่แฮปปี้ที่มีคนมาคุยด้วย การแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ จึงเป็นสิ่งสำคัญ”

เรื่อง : ดั่มดั๊มพ์
ภาพ : อั๋น
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 840 คอลัมน์ live stories

Praew Recommend

keyboard_arrow_up