รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์… มันส์ อร่อยเลิศแบบหญิงหรีด

หากวงการลูกทุ่งไทยมี ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ วงการเซเล็บไทยก็ต้องมี ‘หญิงหรีด รพีพรรณ’ เพราะหากพูดถึงเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร แล้วละก็ ไม่มีใครร้องเต้นได้อร่อยเลิศเท่าเธออีกแล้ว

“ปกติหรีดมีงานต้องขึ้นเวทีร้องเพลงทุก เดือน เพลงจะแล้วแต่ธีมของงาน อย่างไรก็ตามอย่างน้อยจะต้องมีเพลงลูกทุ่ง เพราะชอบที่ร้องง่าย ไม่ต้องแปล ดนตรีก็เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของแต่ละภาค ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘มอง’ ของ สุรพล สมบัติเจริญ ร้องปั๊บทุกคนร้องตาม หรือเพลง ‘สามสิบยังแจ๋ว’ จะแปลงเป็นห้าสิบ หกสิบยังแจ๋วก็ยังโอเค ไม่ต้องคิดมาก ร้องงานไหนก็มีเสน่ห์ ไม่เว้นแม้กระทั่งงานเลี้ยงทูตานุทูต เพราะทุกคนคิดไม่ถึงว่า หรีดจะร้องเพลงลูกทุ่ง หรือเพลง ‘เลิกเมียบอกมา’ ตอนหลัง ยุ้ย ญาติเยอะ นำมาร้อง หรีดร้องเพลงนี้ตอนหาทุนช่วยเหลือมูลนิธิรามาธิบดี แล้วหากจะทำทั้งทีต้องสุด ไม่ว่าจะร้องเพลงของใครหรีดตัดชุดเองตลอด แต่ด้วยหุ่นจะจัดเต็มตามยุ้ยก็ไม่ได้ หรือนุ่งสั้นเหมือนพุ่มพวงก็ไม่เหมาะ จึงนำชุดมาผสมผสาน ยกเว้นผมที่ทำตามทุกทรง ใส่ขนนกเต็ม

“วันหนึ่งทานข้าวกับพี่จักรพันธุ์ ยมจินดา ที่บ้าน หรีดกำลังเลือกเพลงลูกทุ่งไปร้องในงานรับน้องศาลปกครองรุ่นที่ 5 ที่จังหวัดกาญจนบุรี เขาถามว่า คุณหรีดรู้จักเพลง ‘ขอใจเธอแลกเบอร์โทร’ ของหญิงลีมั้ย แล้วเปิดยูทูปให้ดู ได้ยินแค่ดนตรี หรีดชอบทันที ท่าเต้นน่ารัก และคีย์ไม่สูงมากจนร้องไม่ได้ จึงให้ลูกน้องอัดเพลงใส่มินิไอแพดให้ เพราะหรีดเคยเรียนร้องเพลง ครูสอนว่า การจะร้องเพลงให้ดีต้องฟังเยอะๆ และไม่อ่านเนื้อ ต้องจำเมโลดี้ให้ได้ ตั้งแต่นั้นไม่ว่าเข้าห้องน้ำ ล้มตัวลงนอน ตื่นเช้า หรือเดินทางไปเมืองนอกก็จะฟังแต่เพลงนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนจำเมโลดี้ได้แม่น เพราะเนื้อร้องเพลงลูกทุ่งเขียนเป็นเรื่องราว หากเราลำดับเรื่องราวได้จะทำให้จำเนื้อเพลงได้ง่ายขึ้น แล้วไม่ว่าคุณจะใหญ่แค่ไหน นั่งไม่ติด ต้องลุกขึ้นเต้นทุกคน หรีดเอาจริงเอาจังมาก เรียกว่าหญิงลีมาอย่างไร หญิงหรีดมาแบบนั้นเลย แต่ในที่สุดงานนั้นก็ไม่ได้โชว์ เพราะอยู่ในช่วงที่สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์ ซึ่งกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ท่านประสูติด้วย

“กระทั่งวันเกิดปีที่แล้ว หรีดวางแผนจัดงานที่บุรีธารา เชิญแขกที่เป็นท่านทูตมาเยอะ รวมทั้งเพื่อนๆ อยากให้เพื่อนมีความสุขที่สุด คิดว่าจะเชิญหญิงลีมาร้องเพลง เพราะไปเจอเขาที่เวทีคอนเสิร์ตเบิร์ด ที่อิมแพค พอเพลงนี้ขึ้น เราทั้งร้องทั้งเต้นแบบไม่อาย เสียดายวันนั้นเขารีบมารีบไป ไม่ทันได้ถ่ายรูปด้วย หรีดจึงไปขอคิวกับอากู๋ไพบูลย์ ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง หญิงลีไม่ว่าง คิวยาวจนถึงเดือนสิบ เขาบอกว่าจะหาแดนเซอร์ให้ แต่ก็มาวันงานไม่ได้นะ จะทำเป็นมิวสิกวิดีโอ หรีดคิด เมื่อหญิงลีมาไม่ได้ ก็เป็นหญิงหรีดเลยแล้วกัน แต่คงร้องสดไม่ได้ เพราะวันงานหรีดใส่ชุดสไบเฉียง จะเปลี่ยนเป็นชุดหญิงลีก็ใช่ที่ ผมก็คนละทรง อย่างนั้นต้องถ่ายทำเป็นมิวสิควิดีโอไปเปิดในงาน จึงเรียกดีไซเนอร์ประจำตัวมาปรึกษาว่า จะตัดชุดแบบหญิงลี ในมิวสิควิดิโอเขาใส่ชุดขาวทอง หรีดเป็นผู้ใหญ่แล้ว สีขาวคงไม่เหมาะ พอดีซื้อชุดปักเลื่อมสีดำมาจากอเมริกา ครบทั้งเสื้อตัวใน เสื้อคลุม ดีไซเนอร์บอกว่า หากใส่กางเกงขาสั้นแล้วไปงานผู้ใหญ่ คงไม่เหมาะ เดี๋ยวดัดแปลงเป็นกระโปรงแล้วข้างในเป็นกางเกง แล้วเขาก็ซื้อผ้า ปักดิ้นทอง ปักเลื่อมออกมาเหมือนเป๊ะ พอได้ชุดก็ไปเรียนร้องและเต้นที่สตูดิโอ เวลาเต้นต้องฝึกส่ายหน้าอก และสะโพกทีละอย่าง ยากมาก หรีดแยกประสาทไม่ได้ เวลาส่ายหน้าอก สะโพกจะส่ายตาม ทำเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ครูจึงให้คนมาจับสะโพกไว้ กระทั่งส่ายหน้าอกได้แล้ว สะโพกจึงตามมา

“ส่วนผมหรีดไม่ยาวมาก ขณะที่หญิงลีผมยาว จึงต้องหาวิกสีเดียวกับผม โดยความยาวก็ต้องพอดีด้วย หรีดสั่งมาจากนครสวรรค์ ร้านเดียวกับที่ทำวิกให้กับร้านทำผมชื่อดังในกรุงเทพฯ เสร็จแล้วก็ส่งขึ้นรถทัวร์มา หรีดจัดถ่ายทำกันหน้าบ้านเลย หรีดและแดนเซอร์แต่งเต็ม แล้วไปเปิดในงาน ปรากฏแขกร้องได้ทุกคน ยิ่งถึงท่อนที่ว่า ‘เบอร์โทรอื่นจะได้ยินเสียงรอสาย’ ทุกคนทำมือเป็นโทรศัพท์ ส่วนผู้ชายเต้นแบบยกอก

“จบงานนั้นเดี๋ยวนี้ไม่ว่าไปไหน ทุกคนจะเรียกเพลงหญิงหรีด”

เรื่อง : Gornpat ภาพ : วรสันต์ ทวีวรรธนะ
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 837 (10 กรกฎาคม 2557) คอลัมน์ Live stories

Praew Recommend

keyboard_arrow_up