2 เซเลบสาว สุภาพร ธเนศสุนทร ผู้จัดการแบรนด์เครื่องหอมชื่อดัง โจ มาโลน ลอนดอน (Jo MaLone London) และ ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ เจ้าของร้านดอกไม้สุดหรู The One&Only Boutique Florist สองสาวสวยมาร่วมเผยไลฟ์สไตล์การทำงาน แชร์ประสบการณ์ในด้านความหลงใหล ใส่ใจความรัก ความทุ่มเท มุ่งมั่น รวมถึงการบาลานซ์ชีวิตในการทำงานให้ลงตัว

เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการจัดกิจกรรมรวมพลสาวๆ ที่มีทั้งความแข็งแรงและความอ่อนโยนอยู่ในตัว ในงาน She’s Mercedes…Sense of Love by Benz TTC ที่ร้าน Baker x Florist ซึ่งจัดโดย เบนซ์ ทีทีซี (Benz TTC) ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่อยู่คู่คนรักแบรนด์รถหรู สัญลักษณ์ดาวสามแฉกมากว่า 35 ปี และเนื่องจากยังอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก และได้เหล่าสาวๆ ยุคใหม่ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจดีๆ ในการใช้ชีวิตตามแบบฉบับของตัวเองมารวมตัวในงานมากขนาดนี้ หากจะพลาดคว้าตัวหนึ่งในสาวๆ มาแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบฉบับของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จก็คงน่าเสียดาย วันนี้จึงจะพาไปฟังมุมมองใหม่ๆ ของสองเซเลบสาว ผู้คลุกคลีทำงานในแบรนด์เครื่องหอมชื่อดัง และเป็นเจ้าของร้านดอกไม้หรูชื่อดังกัน
เผยไลฟ์สไตล์ 2 เซเลบสาว ผู้คลุกคลีแบรนด์ Jo Malone London
และร้านดอกไม้หรูชื่อดัง The One&Only Boutique Florist
ประเดิมกันที่ คุณสุภาพร ธเนศสุนทร ผู้จัดการแบรนด์เครื่องหอมชื่อดัง โจ มาโลน ลอนดอน (Jo MaLone London) ที่เหล่าเซเลบริตี้เลือกใช้ รวมถึงเลือกให้เป็นของชำร่วยในงานแต่งงาน
คุณสุภาพรเผยว่า “ความที่ตนเป็นผู้หญิงทำงานและมีครอบครัวแล้วด้วย ดังนั้นการสร้างสมดุลให้กับชีวิตทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โชคดีที่ได้มีโอกาสดูแลแบรนด์โจมาโลน ลอนดอน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เราตกหลุมรักได้ไม่ยาก ทุกวันที่ไปทำงานก็คือความสุข ไม่เหมือนการที่เราไปทำงาน แต่เป็นการไปสนุกกับการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับตัวเอง และนำพลังงานดีๆ กลับมาที่บ้าน และครอบครัวของเรา สำหรับเรื่องความรักก็จะโฟกัสในเรื่องของพลังงานที่ดี แม้ว่าในชีวิตจะต้องมีอุปสรรคบ้าง แต่เราก็เลือกเก็บพลังงานดีๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนชีวิต และมีความสุขในทุกวัน”
ปิดท้ายด้วยอดีตลีดจุฬาฯ และผู้ประกาศข่าวกีฬา คุณขวัญ-ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ ที่ปัจจุบันมีธุรกิจส่วนตัว เป็นเจ้าของร้านดอกไม้สุดหรูอย่าง The One&Only Boutique Florist
คุณขวัญเผยคอนเซ็ปต์ในการใช้ชีวิตว่า “ต้องทำทุกอย่างให้ได้พร้อมกัน หมายความว่า เราต้องทำงานและใช้ชีวิตไปด้วยกัน ไม่ใช่ให้น้ำหนักไปกับอย่างใดอย่างหนึ่งจนมากเกินไป และมองว่าความรักอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อคุณแม่ พี่น้อง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ซัพพอร์ตให้ตัวเราเป็นเราทั้งสิ้น ที่สำคัญคนที่มีความรักจะส่งพลังงานบวกออกมา ทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างมีแรงขับเคลื่อนในการทำงาน และทำสิ่งดีต่างๆ ในชีวิตได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย”
เรียกว่า หากทำได้ในสิ่งที่รัก มีแพสชั่นกับงาน รวมถึงไม่ลืมใส่ใจการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ เท่านี้ชีวิตก็มีความสุขได้ไม่ยากแล้วล่ะค่าาา
ภาพ: งาน “She’s Mercedes…Sense of Love by Benz TTC”