จิรายุ ตั้งศรีสุข เวอร์ชั่นเป๊ะกว่าเดิม

ช่วงที่ผมไปเกาหลีหนาวมาก อุณหภูมิติดลบ ที่ตื่นเต้นคือ ได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต ดีใจมาก จำได้ว่า วันนั้นอยู่ในคลาสเต้น ผมกำลังโดนครูฝึกดุว่า ทำไมเต้นไม่ได้ เครียดมาก จึงหลบไปนั่งทำสมาธิ แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นอะไรสีขาวๆ ร่วงลงมาเหมือนละออง เพื่อนเกาหลีจึงบอกว่า หิมะตกแล้ว โอ้โฮ…แทบอยากจะกรี๊ด นาทีนั้นไม่มีสมาธิเรียนแล้ว

รู้กันมาสักพักแล้วว่า หนุ่มคนนี้ยึดครองหัวใจสาวไทยไปครึ่งค่อนประเทศ พิสูจน์ได้จากวันลัดฟ้าไปเรียนวิชาร้องและเต้นที่ค่าย Cube Entertainment ประเทศเกาหลี 6 สัปดาห์ แต่สาวๆ ก็หลั่งน้ำตากันด้วยความคิดถึง

ทันทีที่เจมส์บินกลับมาเมืองไทยได้หนึ่งวัน แพรวจึงพาตัวมาถ่ายปกพร้อมบทสัมภาษณ์อัพเดทประสบการณ์โหดมันฮาให้แฟนๆ ได้รู้ก่อนใคร ขอบอกว่า กลับมาคราวนี้ เจมส์มาพร้อมรูปร่างที่เฟิร์มขึ้นผิดหูผิดตา

ขอย้อนถามถึงวันเดินทางไปเกาหลี มีแฟนคลับไปยืนส่งเต็มสนามบินเลยรู้สึกอย่างไรคะ
อึ้งมากครับ ไม่คิดว่าจะมีคนไปให้กำลังใจและติดตามเรามากขนาดนี้ เห็นแฟนคลับไปส่งเกือบ 500 คน เดิมตอนแรกที่ไม่อยากจากบ้านอยู่แล้ว พอมีคนมายืนร้องไห้แล้วบอกว่า กลับเร็วๆ นะ ยิ่งทำให้ไม่อยากไปใหญ่ ผมตื้นตันจนพูดไม่ออก น้ำตาคลอเลยครับ (ยิ้ม)

พอวันที่ได้กลับเมืองไทยจึงตื่นเต้นเล็กน้อย จะได้เจอแฟนๆ และได้กลับมาทำงานเสียที โดยเฉพาะวันนี้ที่มาเจอแพรว เพราะเป็นการถ่ายแบบและสัมภาษณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่กลับมาจากเกาหลี อ้อ มีเรื่องตลกด้วยนะครับ เมื่อวาน (5 ธันวาคม 2556) ไปเดินสยามพารากอน แปลกใจมาก ไม่มีใครมาขอถ่ายรูปเลย เดินสบายเชียว ผมว่า เขาจำได้ล่ะ แต่อาจจะงงอยู่ว่า เจมส์กลับมาแล้วหรือ ใช่ตัวจริงหรือเปล่า (หัวเราะ)

วินาทีแรกที่มาถึงเมืองไทย…
ผมอยากกินอาหารไทยมาก ถามหาส้มตำหนองคาย และก๋วยเตี๋ยวไก่ต้มยำก่อนเลย (หัวเราะ) เพราะอยู่โน่นกินแต่อาหารเกาหลี พวกเนื้อย่างรสชาติเดิมๆ ไม่ได้จัดจ้านมาก แล้วยังต้องดูแลรูปร่าง จำกัดปริมาณอาหาร กินตามตารางที่เขากำหนดให้ทุกวัน ส่วนมากเป็นพวกไก่ ไข่ มากสุดก็กินข้าวยำเกาหลี แถมพูดกับใครก็ไม่รู้เรื่อง เพราะคนที่นั่นไม่ค่อยใช้ภาษาอื่นนอกจากเกาหลี ถือเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของผม แล้วต้องอยู่คนเดียวนานถึง 45 วัน จึงคิดถึงเมืองไทยมากๆ

เล่าจุดเริ่มต้นของการไปฝึกที่ค่าย Cube Entertainment ให้ฟังหน่อย
เริ่มมาจากพี่ปิ๊ก (ชาญฉลาด ทวีทรัพย์) ผู้จัดการผมแพลนไว้นานแล้วว่า อยากให้ผมได้เจอโลกภายนอก เรียนรู้อะไรที่กว้างกว่าสิ่งที่มีอยู่ในเมืองไทย จึงติดต่อไปที่ค่าย Cube Entertainment ซึ่งไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปเรียนได้ง่ายๆ ต้องเซ็นสัญญา และมีการออดิชั่นจริงจัง แต่พี่ปิ๊กทำเรื่องของผมเป็นกรณีพิเศษ จึงมีโอกาสไปฝึกทักษะเรื่องการร้อง และการเต้น หลายคนที่ค่ายรู้นะครับว่า ผมเป็นนักแสดงจากเมืองไทย แต่ผมทำตัวปกติ ไม่ได้รู้สึกพิเศษกว่าใคร ปฏิบัติตามกฎกติกาเหมือนคนอื่น

แล้วช่วงที่ผมไปเกาหลีหนาวมาก อุณหภูมิติดลบ ที่ตื่นเต้นคือ ได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต ดีใจมาก จำได้ว่า วันนั้นอยู่ในคลาสเต้น ผมกำลังโดนครูฝึกดุว่า ทำไมเต้นไม่ได้ เครียดมาก จึงหลบไปนั่งทำสมาธิ แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นอะไรสีขาวๆ ร่วงลงมาเหมือนละออง เพื่อนเกาหลีจึงบอกว่า หิมะตกแล้ว โอ้โฮ…แทบอยากจะกรี๊ด นาทีนั้นไม่มีสมาธิเรียนแล้ว (หัวเราะ) ผมเคยบอกตัวเองว่า ถ้าเจอหิมะจะถอดเสื้อแล้วกระโจนเข้าไปในกองหิมะ พอเลิกเรียนจึงรีบวิ่งออกไปร้องตะโกนด้วยความดีใจเหมือนเด็ก แล้วกระโดดนอนบนกองหิมะ เล่นเอาเพื่อนเกาหลีงงความคลั่งหิมะของผมกันทีเดียว (หัวเราะ)

แล้วการฝึกวิชาที่เกาหลีเป็นอย่างไรบ้าง
ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่า วงการบันเทิงเกาหลีแข่งขันกันสูงมาก ผมก็เตรียมใจไว้แล้วว่า ต้องเจอเรื่องโหดๆ เยอะแน่นอน และก็เป็นดังคาด วิธีการฝึกซ้อมของเขาต่างจากทีเคยเจอที่เมืองไทยมาก เหมือนเราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทั้งการเต้น การร้อง เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนมาวิ่ง เข้าฟิตเนส เรียนคลาสเต้น และร้องเพลง ต้องฝึกอย่างน้อยวันละ 10 ชั่วโมง ให้เบรกกินข้าวได้แค่ 1 ชั่วโมง ใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายทั้งวันจนถึง 4 ทุ่ม ต้องบอกว่า 99 % หมดไปกับการซ้อมอย่างเดียว ฝึกหนักมาก แรกๆ แย่ไปเลยเหมือนกัน เพราะร่างกายยังปรับสภาพไม่ได้ ปวดไปทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นขา หลัง แขน ระบมจนแทบขยับไม่ได้เกือบอาทิตย์ บางทีเต้นๆ อยู่รู้สึกหายใจไม่ทันก็มี แต่ก็ต้องฝืนเต้นต่อ จะบอกว่า วันนี้ปวดแขนขอหยุดไม่ได้เด็ดขาด ในแต่ละวันจึงเหมือนได้ออกกำลังกาย 7 ชั่วโมงต่อวัน ขนาดอุณหภูมิ 0 องศา เหงื่อยังออกเลย โรคภูมิแพ้ที่เป็นก็หายเพราะไม่ต้องโดนแอร์ ไม่มีฝุ่น แต่พอกลับมาเมืองไทยเจอแอร์เป็นเหมือนเดิม งงเลย (หัวเราะ)

เรื่อง : อภิญญา ภาพ: กฤตธี

ติดตามภาพแฟชั่น คลิกที่นี่
ติดตามเบื้องหลังปกเจมส์ จิรายุ คลิกที่นี่

Praew Recommend

keyboard_arrow_up