ดีท็อกซ์ผิวสไตล์ญี่ปุ่น : เพียงนอนแช่น้ำอุ่นประมาณ 10 นาทีให้รูขุมขนเปิดกว้างและขับของเสียออกมาพร้อมเหงื่อ ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ผิวพรรณเปล่งปลังมีเลือดฝาด

ผิวสวยใส ใส่สาเก : หนึ่งในเคล็ดลับผิวสวยใสอ่อนเยาว์ตำรับชาวอาทิตย์อุทัย สาเกมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านสรรพคุณช่วยให้ผิวนุ่ม ขาวกระจ่างใสเรียบเนียน จนทำให้สปาสาเกเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น อยากสวยง่ายๆ ทำได้ที่บ้านเพียงใส่สาเกสองช้อนลงในอ่างน้ำอุ่น ลงแช่ประมาณ 15 นาที

ชาเขียว ดื่มก็ได้อาบก็ดี : นอกจากการดื่มชาเขียว การอาบน้ำผสมใบชาเขียวเป็นหนึ่งในประเพณีปฏิบัติที่มีมานาน ด้วยสรรพคุณช่วยกระชับรูขุมขนและคงความชุ่มชื้นช่วยให้ผิวเนียนใสสดชื่น

เนียนนุ่มชุ่มชื่น ด้วยน้ำมันรำข้าว : ชะโลมผิวกายด้วยน้ำมันรำข้าว บอดี้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชั้นเยี่ยมจากธรรมชาติ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอีในปริมาณสูง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

เรื่อง : Padcha
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 840 คอลัมน์ beauty advice
ภาพ : Pinterset

โลกยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ ทั้งฝุ่นละออง แสงแดด และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความเครียด หรือกรรมพันธุ์ ล้วนก่อให้เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น ส่งผลให้ผิวแก่เร็ว ร่วงโรย ยิ่งไปกว่านั้น วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เร่งรีบ รับประทานอาหารจานด่วน ทำงานหนัก นอนดึก ตื่นสาย ไม่ได้ออกกำลังกาย ยิ่งส่งผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของร่างกายเร็วขึ้น และเมื่ออายุมากขึ้นเริ่มเข้าสู่วัย 30 – 40 ขึ้นไป ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง มีปริมาณลดลง เกิดการเสื่อมสภาพของร่างกายเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น ผิวหนังเริ่มแห้งและบาง มีริ้วรอย และเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีกระ ฝ้า เกิดขึ้นทั่วไป ทั้งผิวขาดความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อย

วิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างให้เป็นระบบมกาขึ้น ซึ่งเวิร์คกิ้งวูแมนอย่าง ณัฐวดี ประภานนท์ แห่งแมคโครริชเมโทร นาฬิกาสุดหรู ‘Ateliers De Monaco ( อะเทลิเยร์ เดอโมนาโก )’ ได้เผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองให้ฟังว่า

“ ทุกวันจะนอนแต่หัวค่ำพร้อมกับลูก แล้วตื่นตี 5 พอ 6 โมงเช้าส่งลูกๆ ไปโรงเรียน เมื่อส่งเสร็จก็มีเวลาว่างสัก 1-2 ชั่วโมง ก็มาออกกำลังกาย เล่นฟิตเนสบ้าง ว่ายน้ำบ้าง หลังจากนั้นก็แต่งตัวมาทำงาน ในแต่ละวันมีภาระกิจไปกับงานตลอดทั้งวัน แต่พอเลิกงาน หยุดเลยค่ะ ตัดเรื่องงานออกเลย อยู่กับลูกๆ ก็มีความสุขแล้วค่ะ แล้วอีกอย่างทำจิตใจให้สบาย ก็ไม่เครียด แล้วยังดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำเปล่าในแต่ละวันมาก ไม่ดื่มน้ำเย็น เพื่อสร้างสมดุลปรับสภาพร่างกาย ถ้าเสาร์-อาทิตย์ ตอนเช้าตื่นมาจะทำน้ำผลไม้ปั่น ดื่มกันทั้งบ้านเลย ทำเสร็จก็ดื่มกันสดๆ เลย จะให้คุณค่ามาก ทั้งเรื่องอาหารก็ดูแล จะทานแต่ของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมื้อเย็นจะจะลดอาหารพวกแป้ง ทานนิดหน่อย ”

ทั้งouhเรื่องของสุขภาพความงามก็ดูแลเอาใจใส่อย่างส่ำเสมอเช่นกัน โดยเจ้าตัวเล่าว่าเน้นการบำรุงผิวหน้าและผิวกาย พร้อมรับประทานวิตามินครบ 5 หมู่ ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

ต่อมาที่สาวมั่น เจ้าของผิวใสเนียนเรียบ ภาวรีย์ ว่องไววิทย์ กรรมการบริษัท กลุ่มบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เผยว่า เป็นคนชอบท่องเที่ยว เดินทางบ่อย ทำให้ชีวิตได้อะไรมากจากตรงนี้ ทั้งยังได้รับอากาศบริสุทธิ์ดีๆ สุขภาพก็ดีตาม หากอยู่เมืองไทย ในช่วงวีคเอนท์จะออกไปทานข้าวนอกบ้านแล้วดูหนัง ทำให้รีแล็กซ์ ชีวิตก็มีความสุขส่งผลถึงผิวพรรณดูดี…สดใส

“ ผิวดีเพราะพ่อแม่ให้มา อีกส่วนหนึ่งก็ต้องดูแลและบำรุง เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย โดยจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัยและความต้องการของผิวตามช่วงเวลานั้นๆ และจะไม่ใช้ตัวเดียวนานๆ จะสลับปรับเปลี่ยน แล้วถ้าตัวไหนดี ตอนหลังก็กลับมาใช้ใหม่ได้”

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณทั่วโลกต่างเสนอเคล็ดลับยืดอายุผิว เพิ่มความสดใส…อ่อนเยาว์ ต่างให้ความเห็นตรงกันว่าวิธีการง่ายๆ คือ การเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วน 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม แล้วออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และในระหว่างการออกกำลังกาย ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินเพิ่มขึ้น จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีความสุขและลดความเครียดลงได้ การจัดเวลาในการออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที และสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมร่างกายได้ชะลอความแก่ให้ช้าลงได้

อีกทั้งต้องพักผ่อนอย่างมีคุณภาพและเพียงพอ การพักผ่อนในแต่ละวันช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูสภาพการทำงานของเซลล์ ดังนั้นการพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งหมั่นทำสมาธิเพิ่มผ่อนคลายอย่างส่ำเสมอทุกวัน คนที่ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่เครียด และมีจิตใจที่ดีทำให้แก่ช้าลงจะเป็นคนที่ดูสดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใจ พยายามหลีกเลี่ยงการได้รับอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แก่เร็วขึ้น ดังนั้นควรเลี่ยงร่างกายได้รับอนุมูลอิสระน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น งดการสูบบุหรี่ งดการดื่มแอลกอฮอล์ งดของดอง อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์หรืออากาศถ่ายเทได้ดี และหลีกเลี่ยงแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวถูกทำลาย และสุดท้าย รับประทานสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเติม แม้ว่าร่างกายของเราจะสามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาเองได้ แต่ก็ ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากภายนอก คือ จากอาหารที่รับประทาน และเพื่อให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่ตรงตามความต้องการในปริมาณที่มากพอ ในปัจจุบันผู้คนจำนวนมากจึงหันมาให้ความสนใจการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ กันมากขึ้น

กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรง อีกทางเลือกแห่งยุค ด้วยแนวคิด‘ กันไว้ดีกว่าแก้ ’ เพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบและสุขภาพดี

ถ้าคุณกำลังรู้สึกเหนื่อย และกดดันกับการทำงาน หรือนอนไม่เพียงพอ ขอแนะนำ 5 วิธีที่พิสูจน์แล้วจากผู้เชี่ยวชาญว่าช่วยทำให้ผ่อนคลายได้จริงๆ เพียงฝึกการหายใจที่ยืมเทคนิคมาจากการเล่นโยคะ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินสักบาท

1. กำหนดลมหายใจเข้าออก (Sama Vritti)
ก่อนอื่นหายใจเข้านับ 1-4 จากนั้นหายใจออกนับ 1-4 เช่นกัน (สูดลมหายใจทางจมูกพร้อมกับกลั้นหายใจโดยธรรมชาติ) ผู้ปฏิบัติโยคะสามารถกำหนดลมหายใจนับ 6 -8 ได้ ผ่อนคลายระบบประสาท เพิ่มสมาธิและลดความเครียดลง สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการกำหนดลมหายใจจะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากความคิด หรือสิ่งที่กวนจิตใจ แต่ทฤษฎีดังกล่าวจะได้ผลดีที่สุดคือก่อนนอน ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

2. ฝึกหายใจด้วยการใช้กล้ามเนื้อกระบังลม
วางมือหนึ่งไว้บนหน้าอกส่วนอีกมือวางไว้บนหน้าท้อง สูดอากาศเข้าไปลึกๆ และให้กะบังลมขยายตัวมากพอที่จะทำให้ปอดยืดออก เป้าหมายคือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นับ 6-10 และหายใจออกช้าๆ ทำแบบนี้ประมาณ 10 นาที แนะนำว่าควรทุกวัน เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเครียด จะช่วยทำให้ผ่อนคลายได้มากทีเดียว

3. หายใจแบบสลับรูจมูก (Nadi Shodhana)
เริ่มด้วยท่านั่งสมาธิ ใช้นิ้วโป้งขวาปิดรูจมูกขวาและหายใจเข้าลึกๆ ผ่านรูจมูกซ้าย เมื่อสูดอากาศเข้าไปจนสุดให้ปิดรูจมูกซ้ายด้วยนิ้วนางแล้วหายใจออกผ่านรูจมูกขวา ทำตามขั้นตอนเดิมโดยหายใจเข้าผ่านรูจมูกขวา และปิดด้วยนิ้วโป้งขวา จากนั้นหายใจออกผ่านรูจมูกซ้าย ควรทำช่วงไหนก็ได้ที่ต้องการทำสมาธิหรือใช้พลังงาน แค่จะดีมากถ้าได้ทำตอนตื่นนอน ร่างกายจะรู้สึกปลอดโปร่งมากทีเดียว

4. หายใจแบบสมองโล่ง (Kapalabhati)
เริ่มจากการหายใจเข้าช้าๆ และยาวนาน ตามด้วยการหายใจออกอย่างแรงและเร็ว ซึ่งออกมาจากบริเวณท้องน้อย ทำทั้งหมด 10 ครั้ง แม้วิธีนี้จะค่อนข้างทรมานช่องท้องสักหน่อย แต่ร่างกายของคุณจะเริ่มอุ่นแล้วเริ่มปล่อยพลังงานออกมา จากนั้นสมองก็จะเริ่มตื่นตัว สดชื่น กระปี้กระเปร่า
5. ผ่อนคลายด้วยการเกร็ง
เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ให้หลับตา และตั้งสมาธิกับการเกร็ง และคลายกล้ามเนื้อครั้งละประมาณ 2-3 วินาที เริ่มจากเท้า และนิ้วเท้า จากนั้นมาที่เข่า ต้นขา หลัง หน้าอก แขน มือ ทำพร้อมกับการหายใจเข้าลึกๆ อย่างช้าๆ ทางจมูก และกลั้นหายใจนับ 1-5 ในขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อไปด้วย จากนั้นก็หายใจออกทางปาก แต่ระวังไว้อย่างหนึ่งคืออาการเวียนศีรษะ ถ้าการกลั้นหายใจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดก็ให้ลดเวลาลง
ที่มา : http://greatist.com
ภาพ : pinterest

อยากมีผิวสวยสดใส ก็ต้องเริ่มจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และในช่วงเวลาส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นิยตสารแพรว จึงมอบเซ็ตครีมบำรุงผิวหลากหลายแบรนด์ดังให้ผู้อ่านไปอัพความสวยกันถ้วนหน้า

ยกเซ็ตมาเพื่อการบำรุงทุกขั้นตอนนของการดูแลผิวสำหรับครีมจากเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่ยกทัพมาร่วมมอบของขวัญสุดพิเศษใน แพรว The gift 2014 ใครอยากได้ รีบส่งคูปองมาด่วนเลย

ภาพของรางวัลบางส่วน

ร่วมสนุกส่งคูปองชิงรางวัลในนิตยสารแพรว ฉบับ 847 ปักษ์วันที่ 10 ธันวาคม 2557 ยิ่งส่งมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก

ถ้าพูดถึงคำว่าลดน้ำหนัก หลายคนมักนึกถึงการอดอาหาร การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง หรือแม้แต่การเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เหมือนเส้นผมบังภูเขาจริงๆ เพราะจากการวิจัยเผยว่า แค่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินเพียงเล็กน้อย ไม่นานคุณก็ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนแล้ว