น้อย - ธัญญรัตน์

ช้อปให้โลกจำ! น้อย-ธัญญรัตน์ แฟนพันธุ์แท้ปาเต็ก ฟิลิปป์ เจ้าแม่แอร์เมสไทย

account_circle
น้อย - ธัญญรัตน์
น้อย - ธัญญรัตน์

เพราะถือคติว่า จะช้อปทั้งทีต้องให้คนจดจำ น้อย – ธัญญรัตน์ รุ่งเรืองมีดี จึงเป็นท็อปสเปนเดอร์ตัวจริงในทุกด้าน เจ้าของสถิติครอบครองรถเบนซ์ อันดับหนึ่งในเอเชีย แฟนพันธุ์แท้ปาเต็ก ฟิลิปป์ มียอดซื้อกระเป๋าแอร์เมสกว่า 100 ใบ…ถึงขนาดที่ว่าเคยซื้อทั้งที่ยังไม่ทันเห็นของเพื่อช่วยปิดยอดให้คนขายก็ทำมาแล้ว

สมัยเด็กพ่อแม่สอนว่า เวลาทำอะไรต้องทำให้ดี เพื่อให้คนจำเราได้ พอมาทำอาชีพขายประกันที่บริษัทเอไอเอจึงขยันมาก ทำยอดขายได้สูงสุดยาวนานเป็นประวัติการณ์ของบริษัท จนตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายขายของบริษัทเอไอเอ พอเราเต็มที่กับเรื่องงานแล้วชีวิตส่วนตัวก็ต้องหาความสุขบ้าง ซึ่งสำหรับดิฉันคือการช้อปปิ้ง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ รถอันดับหนึ่งในดวงใจ

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่เป็นลูกค้าแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สวนหลวง ออโต้เฮ้าส์ คุณน้อยครอบครองรถเบนซ์ทั้งหมด 33 คัน
เฉลี่ยแล้วซื้อรถทุกปี ปีละ 2-3 คัน มีบางคันที่ส่งมอบให้ลูกค้าคนสนิท หรือขายต่อให้คนสนิทกันไปบ้าง จนปัจจุบันเหลือคันที่รักหวงแหนไว้ราว 17 คัน ความรักและหลงใหลในรถเบนซ์ของเธอนั้น ถึงขั้นที่ทำให้ใครหลายคนต้องประหลาดใจ

ดิฉันรักรถเหมือนลูก ขนาดที่ว่าเวลาไปจอดตามห้างสรรพสินค้าจะถ่ายรถที่จอดอยู่รอบๆ ไว้ด้วย เผื่อเขามาทำรถเราเป็นรอย หรือพอถึงเวลาครบรอบ 1 ปีที่ซื้อรถคันนั้นมา ก็จะพาไปฉลองวันเกิดด้วยการพาไปตรวจสภาพด้วยตัวเองจัดการเปลี่ยนรองเท้าให้เขา  หมายถึงเปลี่ยนยางใหม่ (ยิ้ม) ราคาอยู่ที่เส้นละกว่า 1 หมื่นบาท รวมทั้งเปลี่ยนแมกซ์ใหม่อันละกว่า 3 แสนบาทด้วย

ดิฉันเป็นแฟนรถเบนซ์มากกว่า 20 ปี รักแบรนด์นี้มาก เพราะเชื่อในมาตรฐานว่าดีที่สุด คิดว่ามีเกือบทุกรุ่น บางทีขายปิดยอดไม่ได้  เราก็ช่วยอุดหนุนทั้งๆที่ยังไม่เห็นตัวรถ แต่ก็ไม่เคยซื้อพลาดนะ เพราะซื้อบ่อยจนรู้แล้วว่ารถที่มาจะเป็นแนวไหน ที่ต้องรีบจองรีบซื้อเพราะอยากเป็นคนแรกในประเทศที่ได้ขับ (ยิ้ม) ถ้าเห็นรถเบนซ์สวยๆบนถนนบอกได้เลยว่า ดิฉันมีก่อนคนอื่นแล้วเช่น รุ่น B-Class  ดิฉันก็ได้ขับคนแรกในเมืองไทย และทั้งประเทศในตอนนั้นมีเพียง 8 คันเท่านั้น

ปาเต็ก ฟิลิปป์… แฟนพันธุ์แท้ รักจริง ไม่เปลี่ยนตามกาลเวลา

ด้วยดีกรีแฟนพันธุ์แท้มาตลอด 20 ปี คุณน้อยสะสมปาเต็ก ฟิลิปป์ ไว้กว่า 30 เรือน ส่วนใหญ่เป็น Patek Philippe Ladies ซึ่งทุกรุ่นผลิตจำนวนลิมิเต็ดเพียง 18,000 เรือนเท่านั้น เรียกว่าพอรุ่นนี้ออกมา แฟนๆทั่วโลกต่างรีบแย่งชิง แต่สำหรับคุณน้อยนั้น การได้ครอบครองไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทางช็อปจะโทร.หาเป็นคนแรก เนื่องจากเธอสะสมปาเต็ก ฟิลิปป์ เลดี้เยอะที่สุดในเมืองไทยนับสิบเรือน จนได้รับเกียรติทางแบรนด์เชิญให้ไปชมโรงงานผลิตที่เจนีวา

ปาเต็ก ฟิลิปป์เป็นนาฬิกาที่คุณภาพดีที่สุด รูปแบบดีไซน์คลาสสิกวัสดุของแท้ทุกชิ้น สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน และถ้านาฬิกามีปัญหา ทางศูนย์ก็ดูแลดีมาก ที่สำคัญคือพนักงานขายรู้ใจค่ะ เลดี้บางรุ่นหายาก เข้าเมืองไทยมาแค่ไม่กี่เรือน เช่น เลดี้4947G  พนักงานขายจะรีบโทร.หาดิฉัน เพราะรู้ว่าอย่างไรก็ต้องซื้อเก็บแน่นอน และดิฉันไม่ใช่ลูกค้าประเภท ซื้อเพื่อลงทุนหรือขายต่อ  เพราะไม่อย่างนั้นก็คงไม่ซื้อรุ่นเลดี้หรอกค่ะ เนื่องจากไม่ได้เป็นที่รู้จักในเมืองไทยนัก ถ้าซื้อขายในเมืองไทยอาจจะราคาตกเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่แฟนพันธุ์แท้ตัวจริง ที่ดิฉันได้รับเชิญไปชมโรงงานผลิตที่เจนีวาก็เพราะดิฉันสะสมไว้เยอะ ชนิดที่มั่นใจเลยว่าในเมืองไทยไม่มีใครมีมากขนาดนี้

คัฟลิงค์และเน็คไท ของที่ระลึกจากการชมโรงงานปาเต็ก ฟิลิปป์ ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้

ตอนที่ได้ไปโรงงาน เจ้าหน้าที่พาไปดูกรรมวิธีการผลิตแต่ละรุ่น เรารู้สึกเหมือนเห็นช่างกำลังประดิษฐ์งานฝีมือ เพราะทำละเอียดทุกขั้นตอนวัสดุที่ใช้ก็ดีที่สุด ถ้าเรือนไหนเป็นทองคำขาว วัสดุข้างในทุกชิ้นก็จะเป็นทองคำขาวทั้งหมด ซึ่งเดือนสิงหาคมนี้ตั้งใจจะไปดูว่ามีนาฬิการุ่นไหนน่าสนใจบ้าง จะได้สั่งจองล่วงหน้าก่อนใคร เรื่องพิเศษอีกอย่างของการได้ไปชมโรงงานคือ จะได้ของที่ระลึกที่ไม่สามารถหาซื้อได้ที่ไหน เช่นเน็คไท ผ้าพันคอ และคัฟลิงค์ (ที่กลัดแทนกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ต) ติดชื่อ ปาเต็ก ฟิลิปป์ทั้งหมด

แอร์เมส แบรนด์โปรดตลอดกาล

น้อย - ธัญญรัตน์

ด้วยความคลั่งไคล้ในแบรนด์แอร์เมสมายาวนาน คุณน้อยคือคนแรกๆในเมืองไทย ที่ถือมาตั้งแต่ยังไม่ฮิตกัน จนเธอมีประวัติการซื้อแอร์เมสร่วมร้อยใบที่ช็อปเมืองไทย และยังเป็นคนที่มีเครื่องเพชรแอร์เมสในครอบครองเยอะที่สุดอีกด้วย

สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และกำไลจากแอร์เมส คุณภาพเพชรน้ำ 100 ครอบครองเพียงคนเดียวในเมืองไทย
สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และกำไลจากแอร์เมส คุณภาพเพชรน้ำ 100 ครอบครองเพียงคนเดียวในเมืองไทย
“หัวเข็มขัดรูปตัว H แทนยี่ห้อแอร์เมส มีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย เฉพาะหัวเข็มขัดอยู่ที่ราคา 700,000 บาท มี2 หัว ส่วนสายเข็มขัดราคาเกือบแสน นอกจากเส้นสีดำแล้วยังซื้อสีเทาหนังจระเข้ไว้อีกเส้นหนึ่งด้วย”

ดิฉันรักแบรนด์นี้มาก ไม่เพียงเฉพาะกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงของใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม แก้วน้ำ ช้อน ส้อม  ผ้าปูที่นอน แม้กระทั่งพรมเช็ดเท้าใช้ของแอร์เมส ดิฉันรักในความคลาสสิกและคุณภาพที่เป็นมาตรฐานของเขา อย่างกระเป๋าโดยส่วนตัวชอบหนังจระเข้มาก จึงมีเยอะ และต้องสีดำเท่านั้น ในชีวิตนี้ไม่เคยซื้อ กระเป๋าสีฉูดฉาดเลย เพราะดวงถูกโฉลกกับสีดำ  พนักงานขายจะรู้เลยว่า ถ้ามีกระเป๋าดำ รุ่นลิมิเต็ดมาเมื่อไหร่ต้องโทรหาดิฉันทันที

“ดิฉันน่าจะเป็นคนเดียวที่ครอบครองเครื่องเพชรของแอร์เมสมากที่สุด เพราะราคาสูง ตกชุดละล้านบาทที่ชอบเพราะทุกชิ้นเป็นงานจิเวลรี่ชั้นสูง มีทั้งเซตที่เป็นทองคำขาวและ ทองคำแดง งานละเอียด ประณีต”

สำหรับใบโปรดเริ่มจากคลัตช์หนังจระเข้ สองใบนี้เป็นรุ่นเดียวกันค่ะ ต่างกันตรงที่ว่าใบหนึ่งเป็นหนังแก้ว ซึ่งน้อยคนจะมีรุ่นนี้ ดิฉันถือทุกวัน เหมาะกับลุคหรูหราอีกใบหนึ่งเป็นหนังด้าน ที่ซื้อเพราะเวลาถือแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ หายากมาก โดยเฉพาะ สีดำ เนื่องจากเข้ามาในเมืองไทยปีละ 1-2 ใบ ราคาตกใบละล้าน

The One and Only : กระเป๋าแอร์เมสสะพายข้าง หนังเรียบ มีเพียงใบเดียวในเมืองไทย  คุณน้อยเพิ่งถอยจากช็อปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ความพิเศษอยู่ที่บักเคิลตราแอร์เมสที่ทำเป็นลวดลายสีสันเพื่อให้เข้ากับช่วงซัมเมอร์  ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนๆ ที่จะเป็นสีเงินหรือสีทองเท่านั้น ใบนี้คุณน้อยจะสะพายในวันชิลๆ ราคาเกือบล้านบาท ที่อยู่ข้างๆกันคือ กระเป๋า BOYY  รุ่น Bovy  ที่เป็นหนังจระเข้สีดำเพียงใบเดียวในเมืองไทย คุณน้อยการันตีว่า ไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะไม่มีใครมีแน่นอน เรียกว่าเห็นแว่บแรกก็ควักกระเป๋าจ่ายในราคา 230,000 บาทเลย  และที่เด่นสะดุดตาไม่แพ้กันคือ รองเท้าส้นสูงยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง ซึ่งคู่นี้เธอขอให้พนักงานขายช่วยหาคู่ที่สามารถใส่ได้ทั้งวัน เพื่อใช้เวลาเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากไม่ชอบพกรองเท้าไปหลายคู่ จึงได้เป็นรองเท้าผ้ากำมะหยี่สีดำเรียบหรู ติดโลโก้หลุยส์ วิตตอง สีทอง มีเพียงคนเดียวในเมืองไทยเช่นกัน ราคาความพิเศษอยู่ที่ 8 หมื่นบาท

ส่วนรุ่นเคลลี่ ดิฉันซื้อสองไซส์ ทั้งเล็กและใหญ่ ใบเล็กสำหรับออกงานหรูหราใบใหญ่สำหรับใช้ถือไปต่างประเทศ เพราะใส่ของได้จุกว่า ส่วนกระเป๋าคลัตช์รุ่นเคลลี่ในเมืองไทยไม่ค่อยเห็นกันเป็นหนังด้านสีดำ พกออกงานไว้ใส่บัตรเครดิต ล่าสุดเพิ่งสั่งซื้อคลัตช์รุ่นเคลลี่ หนังจระเข้ บักเคิล (ที่ล็อกกระเป๋า) ฝังเพชร ราคาประมาณ 6 ล้านบาทส่วนใบที่พิเศษสุด แต่ขออนุญาตไม่เผยแพร่รูป คือ รุ่นเบอร์กิ้น หนังจระเข้ บักเคิลฝังเพชร ราคาร่วม 10 ล้านบาท หวงใบนี้มาก เพราะเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่มีเพียงคนเดียวในเมืองไทย จะถือออกงานสำคัญเท่านั้นค่ะ

ถ้าคิดจะช็อป อย่าเอ่ยคำว่าลงทุน

เวลาซื้อของดิฉันไม่เคยคิดถึงคำว่าลงทุนเลย คือซื้อมาเพื่อใช้งานและเก็บสะสมจริงๆ ถ้ามัวแต่คิดเรื่อง กำไร ขาดทุน ก็คงไม่สะสมไว้มากขนาดนี้ อย่างจิเวลรี่ หรือนาฬิกาบางรุ่น ถ้าไปขายต่อในตลาดราคาจะต่ำมาก ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้จริงๆคงไม่คิดเก็บ แต่ดิฉันซื้อด้วยความรักความชอบล้วนๆ และไม่อยากใช้ของซ้ำกับใคร ดิฉันไม่เคยลิมิตตัวเองว่าแต่ละเดือนต้องซื้อในงบเท่าไหร่ บางเดือนก็ซื้อราวๆ 10 ล้านบาท บางครั้งก็ซื้อเพื่อช่วยทางช็อปปิดยอดสิ้นเดือน และส่วนใหญ่เวลาจะซื้อก็ตัดสินใจไม่นาน ถ้าชอบก็ลุยเลย “ถือเป็นรางวัลให้ชีวิตค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว  ฉบับที่ 933

Praew Recommend

keyboard_arrow_up