หรูหรา แต่เรียบง่าย

quiet luxury… เทรนด์ที่กำลังกลับมามีอิทธิพลอีกครั้งในปี 2023

account_circle
หรูหรา แต่เรียบง่าย
หรูหรา แต่เรียบง่าย

quiet luxury รวยแบบไม่ตะโกน จะกลายเป็นเทรนด์ที่กำลังกลับมามีอิทธิพลอีกครั้งในปี 2023 หลังเคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2008

quiet luxury… เทรนด์ที่กำลังกลับมามีอิทธิพลอีกครั้งในปี 2023

เมื่อโลกได้เผชิญกับโควิด-19 แน่นอนว่าทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ผู้คนต้องประหยัด หยุดการใช้เงิน แต่เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย หลายคนจึงเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2021 ที่เทรนด์แฟชั่นได้กลับมาคึกคัก ซึ่งในช่วงนั้นเราจะเห็นการใช้สีสันที่จัดจ้าน มีความสดใส ลายพิมพ์ที่ชัดเจน และสไตล์ที่เผยให้เห็นเนื้อหนังมังสา ต่อเนื่องมาจนถึง Y2K ที่กลายเป็นเทรนด์ร้อนแรงที่สุดประจำปี 2022

จาก 2022 ต่อเนื่องมาถึง 2023 “Y2K” ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม แทรกซึมอยู่ในทุกหมวดหมู่ของชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทรนด์แฟชั่นที่หลากหลายแบรนด์ดังต่างออกไอเท็มเพื่อตอบโจทย์กับกระแสที่เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามในปีนี้ Y2K จะถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ ‘quiet luxury’ หรือ ‘หรูหรา แต่เรียบง่าย ขอรวยแบบเงียบๆ ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหญ่ที่สุดในปี 2023

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เทรนด์รักษ์โลก หรือ Sustainable Fashion ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เสื้อผ้าที่ซื้อสามารถนำกลับมาใส่ได้อีกหลายครั้ง ซึ่งแม้จะถูกพูดถึงน้อยลง แต่ยังคงถูกให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง จึงดูเหมือนว่าจะคู่ขนานไปกับเทรนด์ “quiet luxury” ในปีนี้ อีกทั้งยั้งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้คนกลัวเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้เงินกับสิ่งไม่จำเป็น

หรูหรา แต่เรียบง่าย เป็นอย่างไร?

ทั้งนี้ นิตยสารแฟชั่นชื่อดังได้กล่าวไว้ว่า เทรนด์ความหรูหราที่เรียบง่าย รวยแบบเงียบๆ มีความละมุน เน้นไปทางโทนสีเบจและสีเทา ดูเคร่งขรึมน้อยกว่าสไตล์ ‘Minimalism’ ดูสวยงามกว่าแบบ ‘Normcore’

ซึ่งความหรูหราที่เกิดขึ้นจะไม่มีโลโก้ หรือ ลายโมโนแกรมให้เห็นอย่างแน่นอน 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตะโกนว่า “ฉันจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อสิ่งนี้” นอกจากนี้เสื้อผ้าในเทรนด์ ‘quiet luxury’ จะต้องเป็นเสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูง และไร้กาลเวลา สามารถนำกลับมาใส่ได้บ่อย หรือใช้ซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง

อันที่จริงเทรนด์ ‘quiet luxury’ ไม่ได้จะเพิ่งเกิดขึ้น ในปี 2008 เทรนด์นี้เคยเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง จากวิกฤตการณ์น้ำมันผันผวน 

แบรนด์ใดบ้างที่จะได้รับประโยชน์ในเทรนด์นี้

แบรนด์หรูที่เห็นได้ชัดว่าจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์นี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Hermes, Armani รวมไปถึง Brunello Cucinelli ซึ่งเน้นสไตล์ที่เรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์ ‘quiet luxury’

@louisvuitton

ขณะที่บ้าน LVMH ก็ดูเหมือนจะขยับตัวตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าว แม้ว่าตัวแบรนด์อย่าง Louis Vuitton, Dior และ Fendi จะตะโกนความเป็นแบรนด์ผ่านทางโลโก้ แต่ก็ใช่ว่าแบรนด์เหล่านี้จะทิ้งความเป็นตัวตน

ทั้งนี้ Jean-Jacques Guiony ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ LVMH ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อ 15 ปีที่แล้วเทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมในช่วงเศรษฐกิจที่ถดถอยครั้งใหญ่ แต่เขายังคงเชื่อว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีโลโก้ ซึ่ง LVMH ก็มีตัวเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้เลือกสรรเช่นกัน

คนดังกับเทรนด์ ‘quiet luxury’

HBO

ต้องบอกเลยว่าเป็นสไตล์ที่เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว เช่นในซีรีส์ยอดนิยมของ HBO เรื่อง Succession ที่ตัวละครมักจะสวมหมวกเบสบอลแคชเมียร์มูลค่า 600 ดอลลาร์สหรัฐในโทนสีที่เรียบง่าย สวมแว่นกันแดด Tom Ford ซึ่งสไตล์ดังกล่าวได้ซ่อนความมั่งคั่งของพวกเขาไว้ และมีจุดประสงค์เพื่อสื่อถึงความ “แพงและมีรสนิยม” แม้ว่าตัวละครจะไม่ได้ประพฤติเช่นนั้น

Photo: AFP

ขณะที่คนดังอื่นๆ ก็มาในสไตล์นี้เช่นกัน อาทิ กวินเน็ธ พัลโทรว์ นักแสดงหญิงชาวสหรัฐฯ ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตทับด้วยสูทโทนสีเข้ม แมชต์ด้วยกางเกงสีเอิร์ธโทน ขณะเดินเข้าไปในห้องพิจารณาคดีก่อนอ่านคำพิพากษาในคดีเล่นสกีชนแล้วหนี

หรือจะเป็นสไตล์ของ Maye Musk แม่ของมหาเศรษฐี อีลอน มักส์ ที่มีความเรียบหรูซึ่งเธอมักจะใส่เสื้อผ้าในโทนสีเบจ และ น้ำตาล ปิดท้ายลุคล่าสุดกับ เคนดัล เจนเนอร์ ที่มาในสไตล์ที่เรียบง่ายที่สุดอย่างการแมชต์เสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ แต่ดูแล้วมีความแพง ตรงข้ามกับเซเลบริตี้หลายคนที่จัดเต็มไปร่วมงาน


ที่มา : www.scmp.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up