และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ จะเข้าสู่ Megxit (การถอยออกจากราชวงศ์ชั้นสูง) อย่างเป็นทางการ Angela Levin ผู้เขียนประวัติเจ้าชายแฮร์รี่ได้ออกมาเผยความในใจ โดยเธอกล่าวว่า “กลับบ้านเถอะแฮร์รี่ ประเทศต้องการคุณ”
ราชวงศ์อังกฤษที่ผ่านมาเรียกได้ว่าต้องเผชิญกับความวุ่นวาย จากการประกาศถอยการเป็นราชวงศ์ชั้นสูงของ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ กลายเป็นดราม่าที่ร้อนแรง จนเกิดวลีที่เรียกว่า Megxit การถอยออกจากราชวงศ์ชั้นสูงของเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล ซึ่งคล้ายกับคำว่า เบร็กซิท (สหราชอาณาจักรถอนตัวจากการเป็นสมาชิก EU)
อย่างไรก็ตามการที่เจ้าชายแฮร์รี่ตัดสินใจเช่นนี้ ไม่มีมีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพระองค์คิดเช่นไร แต่หลายคนคิดเหมือนกันว่า น่าเสียดายถ้าพระองค์ต้องออกจากฐานันดรศักดิ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต้องออกจากประเทศที่ตัวเองรัก และเสียดายที่ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวไม่เหมือนเดิม
ทั้งนี้เว็บไซต์ Tatler ได้กล่าวว่า Angela Levin ผู้เขียนประวัติเจ้าชายแฮร์รี่ ได้เผยทุกอย่างตั้งแต่การสูญเสียพระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี่ การสร้างความสัมพันธ์กับพระชายา (เมแกน) จนถึงความรู้สึกที่ขาดบทบาทในวิกฤติครั้งนี้
ฉันโชคดีที่ครั้งหนึ่งได้ใช้เวลาตลอดปีกับเจ้าชายแฮร์รี่ในการนัดหมาย รวมถึงพูดคุยเรื่องส่วนตัวที่พระราชวังเคนซิงตัน เพื่อเขียนชีวประวัติของเขา ฉันพบว่าเจ้าชายแฮร์รี่มีเสน่ห์ที่ดึงดูดคนง่ายและมีไหวพริบ แต่เขาก็ยังดูไม่สงบและดูเป็นทุกข์
นั่นคือในเดือนธันวาคม 2017 ที่เจ้าชายแฮร์รี่เพิ่งทรงหมั้นกับเมแกน ฉันหวังว่าการแต่งงานของแฮร์รี่และเมแกนจะทำให้เขาดีที่สุด เขาบอกฉันว่าเมแกนเข้าใจบทบาทที่เธอแต่งงาน เขาเน้นย้ำความเป็นจริง เพราะเขาต้องการให้เธอรับมือกับชีวิตในสปอตไลต์ของราชวงศ์
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง ความจริงที่ว่าในแต่ละสัปดาห์ที่ผ่านมา พฤติกรรมของแฮร์รี่และเมแกนกลายเป็นเรื่องของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ใครจะคิดว่าในวันสุดท้ายของการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง พวกเขาจะยกเลิกหน้าที่อย่างเป็นทางการในนามของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งพวกเขาควรมีมารยาท และให้เกียรติ
ในทางกลับกัน พวกเขากลับปล่อยข่าวที่กำลังจะย้ายออกจากแคนาดา เพื่อไปเป็นคนดังในลอสแองเจลิส และ เมแกน ได้รับงานพากย์เสียงในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ELEPHANT ของค่าย วอลต์ ดิสนีย์ การจัดลำดับความสำคัญของพวกเขา ทำให้ทั้งคู่ดูกลายเป็นวัยรุ่นที่เอาแต่ใจ มากกว่าผู้ใหญ่ในวัย 30 กลางๆ และอายุ 30 ปลายๆ
ฉันพบว่าแฮร์รี่เปลี่ยนเป็นคนฉุนเฉียวและเห็นได้ชัดว่าเครียดมาก ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ฉันยังเชื่อว่าลึกๆ ข้างในของแฮร์รี่กำลังขาดเป็นชิ้นๆ ที่ต้องออกจากครอบครัว และ ประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ทางการทหารของเขา
คงเป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงว่าแฮร์รี่ที่ฉันได้พบจะออกจากประเทศในเครือจักรภพและย้ายออกไปไกลจากครอบครัวท่ามกลางวิกฤตตึงเครียดของราชวงศ์และชาติ พระบิดาพระชนมายุ 71 ชันษาทรงติดเชื้อไวรัสโคโรน่า พระอัยยิกา (ย่า) ที่เขารักซึ่งจะทรงมีพระชนมายุครบ 94 ชันษาในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งพระองค์กำลังทรงกักตัวอยู่กับพระอัยกาพระชนมายุ 98 ชันษา ซึ่งกำลังทรงประชวรอยู่เช่นกัน
ตอนนี้ความรับผิดชอบอันหนักอึ้งตกอยู่ที่พระอังสา (ไหล่) ของพระเชษฐา “เจ้าชายวิลเลียม” ซึ่งครั้งหนึ่งเจ้าชายแฮร์รี่เคยบอกกับฉันว่าพระองค์มี ‘หน้าที่สนับสนุน’ และ ‘จะอยู่ที่นั่นเพื่อเขาเสมอ’
เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี่ ทั้งสองพระองค์ได้รับการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบในตัวเองจากพระมารดา เจ้าหญิงไดอานา ตั้งแต่ที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กวัยหัดเดิน นำไปสู่การเป็นทหารของเจ้าชายแฮร์รี่ ซึ่งจริงๆ แล้วพระองค์อยากเป็นทหารตั้งแต่วัย 2 ชันษา และพบว่าอาชีพของเขาคือการสู้เพื่อประเทศของตัวเองในอัฟกานิสถาน
เจ้าชายแฮร์รี่ผู้ซึ่งบอกความรู้สึกของตนเองให้ผู้อื่นรับทราบอย่างเปิดเผย บอกกับฉันว่า เขารู้สึกว่าตัวเขาไม่ได้ทำอะไรมากพอที่จะปกป้องแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กอายุ 12 ปีไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเขาต้องการที่จะแก้ไข ซึ่งตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การปกป้องเมแกน และทำให้เธอมีความสุข “เมแกนต้องการอะไร เธอจะต้องได้สิ่งนั้น” เช่นการที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงตรัสกับ บ็อบ อีเกอร์ CEO ของ The Walt Disney ว่า ‘คุณรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นนักพากย์ได้ คุณดูเหมือนประหลาดใจ แต่เธอสนใจจริงๆ นะ’ ด้าน บ็อบ อีเกอร์ ก็ดูตื่นเต้นและประหลาดใจไม่น้อย ซึ่งเขาก็ได้ตอบเจ้าชายแฮร์รี่ว่า ‘เราอยากที่จะลอง นั่นเป็นความคิดที่ดีมาก ‘ และถัดมาจากนั้นก็ได้ข่าวว่าเมแกนเซนต์สัญญาเพื่อรับพากย์หนักสารคดีเรื่อง ELEPHANT ซึ่งจะมีกำหนดฉายทาง Disney Plus ในวันที่ 3 เมษายน นี้
อย่างไรก็ตามการแสดงออกทางสีหน้าที่ดูแสนระทมทุกข์ในการเสด็จออกงานหลายๆ ครั้งของเจ้าชายแฮร์รี่ในปีที่ผ่านมา เผยให้เห็นถึงความกังวลว่าเขาไม่ได้ทำมากพอ และในวันหนึ่งเขาต้องถามตัวเองว่า ภรรยาของเขาเคยมีความสุข หรือ เธอต้องการมันมากกว่านี้
เมแกนต้องการเลือกที่จะเป็นคนดังและอยู่ในสปอตไลท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฮร์รี่ไม่เคยต้องการ เขาบอกฉันว่า ‘เรา (วิลเลียม และ แฮร์รี่) ไม่ต้องการเป็นแค่คนดัง แต่ต้องการใช้บทบาทของเราเพื่อทำความดีตลอดไป’
เจ้าชายแฮร์รี่จะทรงทำอะไรในขณะที่ เมแกนกำลังสร้างชื่อเสียงใน ลอสแองเจลิส หรือพระองค์จะทรงช่วยเธอถือกระเป๋า Angela Levin กล่าวว่า แม้ตอนนี้เขาสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญต่อประเทศของเขา อย่างการให้กำลังใจ และ สนับสนุนพระเชษฐา เหมือนที่เขาเคยบอกฉัน ประเทศที่เขารักกำลังต้องดิ้นรนอย่างแท้จริง “กลับบ้านเถอะแฮร์รี่ ประเทศของคุณต้องการคุณ”
ภาพ : Getty Image