พริ้วไหวดุจสายน้ำ Van Cleef & Arpels เผยคอลเลคชั่น Brume de saphir ละไอหมอกของไพลิน

account_circle

จากแรงบันดาลใจในสรรพสีที่ผันเปลี่ยนไปมาของพลิ้วระลอกคลื่น ตามการเคลื่อน ผ่านของโมงยาม นำ Van Cleef & Arpels มาสู่การออกแบบคอลเลคชั่น Brume de saphir (บรูม เดอ ซาฟีร: ละไอหมอกของไพลิน)

Van Cleef & Arpels

คอลเลคชั่นนี้ประกอบไปด้วยเครื่องประดับชั้นสูงสองชุด ซึ่งได้รับอิทธิพลทางการสร้างสรรค์มาจากคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Palmyre (ปาลมีร์) จำลองแบบกระแสธารสีฟ้าสลับชมพู ประกายระยิบระยับล้อแสงสะท้อนอยู่บนผิวน้ำดูราวกับมีชีวิต

 

Van Cleef & Arpels

Van Cleef & Arpels

ท่ามกลางละไอหมอกของมวลรัตนชาติ โทนสีละเมียดละไมของ Brume de saphir จุดประกายจินตนาการให้หวนนึกถึงวันสงบร่มรื่นริมชายทะเล อัญมณีแต่ละเม็ดถูกฝังลงในวงล้อมของเขี้ยวหนามเตย อำนวยให้แสงส่องผ่าน ในขณะที่โครงสร้างเปิดโปร่งของตัวเรือนทองคำขาว ให้ความรู้สึกราวกับสัมผัสทะนุถนอมจากลมทะเลโชยอ่อนพัดเข้าสู่ริมฝั่ง มวลเพชรดุจถูกโปรยปรายให้ดารดาษเกลื่อนทั่วตัวเรือนสร้อยคอและสร้อยข้อมือ ซึ่งรองรับไพลินสีฟ้าสลับไพลินสีน้ำเงินเข้มที่ไล่เรียงลดหลั่นดั่งระลอกพลิ้วคลื่นระยับแสง ต่างหูระย้าทิ้งตัวในลีลาไล่เฉดสีน้ำเงินเผยทรวดทรงอันอาศัยเส้นสายลื่นไหล ต่อเนื่องในการออกแบบ จำลองท่วงท่านาฏกรรมแห่งเกลียวคลื่นได้สมจริง

 

Van Cleef & Arpels

33x56mm

ในการประกอบผลงานเล่นสีที่แสนอ่อนโยนชิ้นนี้ เพชรกับไพลินสีชมพูทอประกายวาววับราวกับหยดน้ำในละอองฟองคลื่นต้องแสงตะวันยามอัสดง รัศมีเจิดจรัสทวีความชัดเจนด้วยโทนสีอบอุ่นของทองคำเฉดกุหลาบ มอบความกลมกลืน ละมุนละไม โครงสร้างตัวเรือนทิ้งตัวแนบทรวดทรงอย่างเหมาะเจาะ ในขณะที่ต่างหูแกว่งไกวไปตามอากัปการเคลื่อนไหว ไม่ต่างอะไรจากเกลียวริบบิ้นสะบัดไหวถ่ายทอดความอ่อนโยนแห่งรัตติกาลกลางคิมหันตฤดู

Van Cleef & Arpels

“Brume de saphir” หรือ “ละไอหมอกของไพลิน” เป็นผลงานอันอาศัยแรงบันดาลใจจาก Palmyre High Jewelry collection (คอลเลคชั่นเครื่องประดับชั้นสูง “ปาลมีร์”) ซึ่งได้รับการสรรค์สร้างขึ้น    เมื่อปี 1978 โครงสร้างตัวเรือนฉลุโปร่งซึ่งโดดเด่นด้วยกรอบสี่เขี้ยว หรือหนามเตยสี่ซี่รองรับเพชรล้วนไล่เรียงเป็นลวดลายล้อแสงทอประกายระยิบระยับ อันชวนให้นึกถึงหยาดหยดในละอองน้ำซึ่งกระเซ็นขึ้นมาจากแอ่งโอเอซิสพัลมีร่า นครโบราณกลางทะเลทรายซีเรีย

Van Cleef & Arpels

คอลเลคชั่นนี้คือการสืบทอดหนึ่งในขนบธรรมเนียมอันยิ่งใหญ่ของ แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ เครื่องประดับชั้นสูงสุดคลาสสิก ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อยกย่องความงามตามธรรมชาติของเพชรน้ำหนึ่ง โดยอาศัยประกายเงางามของตัวเรือนโลหะเลอค่าทวีความโดดเด่นจรัสตา ตลอดหลายทศวรรษ เมซงได้นำธรรมเนียมการผลิตเครื่องประดับเพชรขาวใสสุกสกาวนี้มาพลิกแพลงเพื่อออกแบบเครื่องประดับคอลเลคชั่นต่างๆ อันล้วนแต่กลายเป็นผลงานสัญลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น Snowflake, Olympia และ À Cheval และในปีนี้เป็นอีกครั้งที่เมซงได้เติมเต็มคอลเลคชั่นถาวรของเครื่องประดับชั้นสูงด้วยสีสันวิจิตรตระการตาจาก “ละไอหมอกของไพลิน”

สำหรับเครื่องประดับคอลเลคชั่นนี้ แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ จำลองแบบสรรพสีที่ผันเปลี่ยนไปมาของพลิ้วระลอกคลื่นบนพื้นน้ำกลางท้องทะเลระหว่างวันด้วยการร้อยเรียงหลากสีสัน จากมวลรัตนชาติผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณศาสตร์ของเมซง ทุ่มเทวิริยะไปกับความพยายามคัดสรรจับคู่ไพลินตามระดับความเข้มสีออกเป็นสามกลุ่ม จากโทนสว่างสุด (ไพลินสีฟ้า) ไปจนถึงเข้มสุด (ไพลินสีน้ำเงิน) อัญมณีแต่ละเม็ดถูกเลือกจากความเข้มสี และคุณภาพความโปร่งใสของน้ำพลอย เพื่อมอบความกลมกลืน ละมุนละไม เฉกเช่นประกายระยิบระยับล้อแสงบนผิวน้ำ

ส่วนเพชร ซึ่งถูกฝังขึ้นตัวเรือนเครื่องประดับชิ้นต่างๆ ล้วนถูกเลือกตามมาตรฐานคุณภาพสุดเคร่งครัด: D ถึง F ในแง่ของสี และ IF ถึง VVS2 ในประเด็นความกระจ่างใสของน้ำเพชรเพื่อเติมเต็มความหรูหรา ครบครันให้แก่สร้อยคอ, ต่างหู และสร้อยข้อมือด้วยประกายระยับแสงสะกดสายตา

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up