เผย 17 กติกามารยาท ในเรื่องของแฟชั่นที่เหล่าราชวงศ์อังกฤษต้องปฏิบัติตาม และเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของราชวงศ์ เมแกน มาร์เคิล ก็ควรจะต้องรู้ไว้ว่าต่อไปจะได้เห็นสาวเมแกนแต่งกายอย่างไร หลังจากเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่ไปแล้ว
นับถอยหลังอีกไม่นาน สาวเมแกนจะกลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ หลังจากเธอได้เข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่ในวันนี้ (19 พ.ค. 61) แม้ว่าก่อนเริ่มพิธีสุดยิ่งใหญ่นี้จะทำให้มีคำถามจำนวนมากจากผู้คน เกี่ยวกับชุดแต่งงานของเธอที่จะปรากฏในวันสำคัญ และในขณะที่เราต้องรอเพื่อหาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ สิ่งหนึ่งที่เราสามารถเห็นได้ชัดคือ เมแกนจะกลายเป็นแฟชั่นไอคอน ถัดจากเจ้าหญิงไดอาน่าและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ สังเกตได้จากแฟชั่นก่อนหน้านี้ของเธอ อย่างเสื้อคลุมที่เธอใส่ในวันประกาศข่าวหมั้น ก็ทำให้ระบบของเว็บไซต์ที่ขายเสื้อโค้ทมีปัญหาหลายครั้ง เพราะผู้คนเข้าไปสั่งซื้อกันเยอะ และกระเป๋าถือที่เธอถือระหว่างออกงานกับเจ้าชายแฮร์รี่ก็ขายหมดเกลี้ยงภายใน 11 นาที ทั้งนี้เพราะสาวๆ หลายคนสะดุดในความเป็นผู้นำแฟชั่นของเมแกน จึงทำให้เกิดการลอกเลียนแบบสไตล์ของเธอ
แต่ในขณะที่เธอจะเริ่มเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบราชวงศ์และกิจกรรมอย่างเป็นทางการ เธอก็อาจจะต้องปรับแต่งรูปลักษณ์ของเธอเช่นกัน ซึ่งคุณจะเห็นว่าราชวงศ์ต้องยึดมั่นในแฟชั่นและความงามที่เข้มงวด ซึ่งเป็นมารยาทมาหลายทศวรรษแล้ว กติกามารยาทในเรื่องแฟชั่นของราชวงศ์ที่ต้องปฏิบัติตามจะมีอะไรบ้าง ตามมาเช็คกันเลย
1. ต้องไม่ทาเล็บสีสันสดใส
มีเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่เคยเห็นเจ้าหญิงเคทหรือเจ้าหญิงไดอาน่ามีสีเล็บสุดร้อนแรง แต่สีเล็บกลับเป็นสีธรรมชาติสะอาดตา แม้กระทั่งสีชมพูอ่อนๆ ก็แทบจะไม่มีให้เห็น เพราะเฉพาะเล็บที่ดูเป็นธรรมชาติเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตจากราชวงศ์ให้สามารถทาได้ แม้แต่ควีนอลิซาเบธก็ทาเล็บสีธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 1989 เป็นเวลา 28 ปีแล้ว ที่พระองค์ทรงทาเล็บด้วยโทนสีธรรมชาติจาก Essie ในชื่อสี ballet slippers
2. ทุกคนไม่สามารถสวมเทียร่าได้
ถึงแม้เทียร่าจะเป็นเครื่องประดับสุดล้ำค่าของราชวงศ์ แต่ใช่ว่าเจ้าหญิงทุกคนจะสามารถสวมได้ เพราะเทียร่าจะถูกสวมใส่เป็นครั้งแรกเมื่อกลายเป็นเจ้าสาว สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คุณจะไม่เคยเห็นเจ้าหญิงในช่วงวัย 20 ปี หรือยังทรงพระเยาว์สวมเทียร่า
3. ควีนเอลิซาเบธที่ 2 และกระเป๋าส่งสัญญาณ
ข้อนี้หลายคนอาจจะทราบกันอยู่บ้างแล้วสำหรับการวางกระเป๋าบนโต๊ะของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เพราะเมื่อไหร่ที่พระองค์ทรงวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ก็จะเป็นการส่งสัญญาณว่างานเลี้ยงกำลังจะจบเร็วๆ นี้ หรือในโอกาสต่างๆ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงใช้กระเป๋าถือเป็นสัญญาณ เพื่อดึงพระองค์เองออกจากการสนทนาที่น่าเบื่อหรือน่าอึดอัดใจ และเมื่อทรงย้ายกระเป๋าจากพระหัตถ์ซ้ายไปยังพระหัตถ์ขวา ก็มีความหมายว่าทรงไม่ค่อยเพลิดเพลินกับบทสนทนาเช่นกันและพวกเขาจะให้ควีนออกมาอย่างสุภาพ
4. เจ้าชายตัวน้อยสามารถสวมกางเกงขาสั้นได้เท่านั้น
ในขณะที่เจ้าชายจอร์จดูน่ารักกับกางเกงขาสั้น ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่แค่ความชอบของพระมารดาที่ทรงแต่งตัวให้ แต่เพราะเด็กผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้สวมกางเกงขายาวจนกว่าจะอายุ 8 หรือ 9 ขวบ ที่บ่งบอกสัญญาณของการเริ่มโตเป็นหนุ่ม เพราะกางเกงขายาวมีไว้สำหรับเจ้าชายที่โตเป็นหนุ่มแล้ว
5. ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ต้องสวมฉลองพระองค์สีสันสดใส
ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ออกมาพบปะประชาชนจะทรงเลือกฉลองพระองค์สไตล์นี้เสมอ และที่พระองค์ต้องแต่งฉลองพระองค์สีสด ก็เพราะต้องการให้ประชาชนเห็นได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ระยะไกลก็ตาม เนื่องจากโอกาสที่ประชาชนจะได้เห็นควีนของพวกเขาไม่ได้มีมากนัก และควีนเอลิซาเบธที่ 2 ยังเคยตรัสว่า “หากฉันใส่สีเบจ คงไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นใคร”
6. ราชวงศ์ต้องมีชุดสีดำ
เมื่อเดินทางไปต่างประเทศสมาชิกทุกคนต้องจัดเตรียมชุดสีดำลงในกระเป๋าเดินทาง ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด จึงต้องเตรียมการไว้ เพราะสมาชิกราชวงศ์ต้องดูเรียบร้อยเสมอและมันจะดูไม่ดี หากยังคงแต่งกายด้วยชุดสีสันปกติ ในขณะที่สมาชิกในราชวงศ์เพิ่งจะจากไป เรื่องนี้กลายเป็นกฎหลังจากที่ควีนอลิซาเบธต้องรีบกลับจากเคนยาในปี 1952 หลังจากที่พระบิดาของพระองค์ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 สิ้นพระชนม์ เพราะไม่ได้ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะออกมาในกรุงลอนดอนด้วยชุดปกติหลังจากที่กษัตริย์สิ้นพระชนม์
7. เทรนด์ Cleavage Bag
Cleavage Bag เป็นคำนิยามของกระเป๋าที่เจ้าหญิงไดอาน่าถือมันขึ้นมาปิดระหว่างหน้าอก ได้กลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ และต่างตั้งข้อสันนิษฐานกันว่าพระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อความสุภาพเรียบร้อย แม้ฉลองพระองค์จะมีความเซ็กซี่มากหรือน้อย แต่การปรากฏพระองค์ต่อหน้าสาธารณชนและต้องก้มต่ำเมื่อลงจากรถ ก็ควรเซฟตัวเองจากเหล่าปาปารัสซี่ด้วยเช่นกัน รวมถึงการเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในขณะนั้น การวางพระองค์อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเป็นสิ่งแรก
8. ต้องสวมถุงน่อง
ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ต้องการให้สมาชิกในครอบครัวและแขกทุกคนสวมใส่ถุงน่อง ดังนั้นแม้ว่าคุณจะเห็นสมาชิกราชวงศ์แต่งการด้วยเดรสสั้น นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเห็นขาที่เปลือยเปล่า เพราะมีการใส่ถุงน่องแบบแนบเนื้อไว้
9. อย่าสวมรองเท้าส้นเตารีดต่อหน้าพระราชินี
พระราชินีไม่ชอบรองเท้าส้นเตารีดและรองเท้าที่ทำจากไม้ก๊อก หากต้องพบกับควีนเอลิซาเบธที่ 2 ก็ควรจะเลี่ยงรองเท้าลักษณะนี้ อย่างเช่นเจ้าหญิงเคทจะทรงสวมรองพระบาทส้นเตารีดตอนที่ไม่ประทับอยู่กับควีนเอลิซาเบธที่ 2 เพราะสมเด็จพระราชินีมิได้ทรงเป็นแฟนของรองเท้าส้นเตารีด พระองค์ทรงไม่ชอบ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในเหล่าราชวงศ์
10. อย่าถอดเสื้อคลุมในที่สาธารณะ
หลายคนอาจไม่ทันได้สังเกต เมื่อเจ้าหญิงเคทใส่เสื้อคลุมออกงานต่างๆ จะไม่เคยเห็นพระองค์ถอดเสื้อคลุมออก ณ ตรงนั้นเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าการถอดเสื้อคลุมออกถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสมสำหรับดัชเชสหรือเจ้าหญิง
11. สมเด็จพระราชินีต้องสวมพระมาลา
ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระมาลาอยู่เสมอ นั่นไม่ใช่เป็นเพียงสไตล์ของพระองค์เท่านั้น เพราะมารยาทและธรรมเนียมในการแต่งกายแบบอังกฤษ กำหนดให้สตรีสวมหมวกในงานที่เป็นทางการ โดยในอดีตจนกระทั่งถึงช่วงทศวรรษที่ 1950 สุภาพสตรีส่วนใหญ่มักสวมหมวกเมื่อออกนอกบ้าน เพราะการเผยเส้นผมในที่สาธารณะไม่ใช่สิ่งที่ควรทำสำหรับสุภาพสตรีในยุคนั้น
12. เจ้าหญิงไดอาน่าทรงชอบสื่อสารโดยตรง
ในขณะที่ราชวงศ์ไม่ต้องสวมถุงมืออีกต่อไป ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอเท็มเสริมในอดีตนี้จะเป็นสัญลักษณ์ถึงความบริสุทธิ์และสถานะ แม้ว่าประเพณีเป็นเรื่องปกติ แต่เจ้าหญิงไดอาน่าก็ต่อต้านเรื่องนี้ เพราะพระองค์ทรงชอบที่จะจับมือเมื่อไปพบปะผู้คนหรือทำการติดต่ออย่างจริงจัง ดังนั้นพระองค์จึงปฏิเสธที่จะสวมถุงมือสีขาว รวมทั้งพระมาลาพร้อมตรัสว่า “คุณไม่สามารถกอดเด็กๆ ได้ หากใส่หมวก”
13. ต้องมีกิ่งก้านของต้นไมร์เทิลประดับช่อดอกไม้ของเจ้าสาว
ไมร์เทิล (Myrtle) เป็นต้นไม้หอมผลิดอกและใบอ่อนรับช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีความหมายที่ดีที่รู้จักกันดีในนาม สมุนไพรแห่งความรัก แสดงถึงความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ความไร้เดียงสา และเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน ซึ่งตามประเพณีจะนิยมนำไมร์เคิลมาประดับเป็นช่อดอกไม้ในรูปทรงโล่ ที่ร่วมกับดอกลิลลีป่า ดอกสวีทวิลเลียม เถาไม้เลื้อยและดอกไฮยาซินธ์ เห็นได้จากเจ้าสาวเชื้อราชวงศ์ต่างๆ ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่สมเด็จพระราชชนนีไปจนถึงดัชเชสแห่งเคมบริดจ์
14. ไม่สวมหมวกหลังจาก 6 โมงเย็น
ราชวงศ์ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้สวมหมวกหลังเวลา 18.00 น. หากเป็นงานที่จัดตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิงจะต้องสวมรัดเกล้าหรือมงกุฎแทนการสวมหมวก
15. การถือคลัทช์
เป็นกฎที่รู้จักกันทั่วไปว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้จับมือกับสมาชิกคนใดในราชวงศ์ ซึ่งสุภาพสตรีหลายคนในครอบครัวของราชวงศ์ต่างถือคลัทช์ด้วยมือทั้งสอง ถ้ามือของพวกเขาถูกครอบครองด้วยกระเป๋า ทุกคนจะลงความเห็นได้ทันทีว่าจะไม่มีการสัมผัสใดๆ และจะไม่มีคำถามเกิดขึ้น
16. การสวมถุงมือ
ราชวงศ์จะไม่ถูกบังคับให้สวมถุงมือในกรณีที่ผูกเน็คไท และต้องถอดมันออกเมื่อกำลังจะเริ่มรับประทานอาหาร และห้ามวางถุงมือบนโต๊ะอาหาร แต่ต้องถอดออกมาวางไว้บนตักใต้ผ้าเช็ดมือ
17. กฎของสี
ถ้าคุณมองใกล้ๆ บางครั้งสุภาพสตรีของราชวงศ์มักจะสวมใส่สีสันเพื่อเป็นเกียรติกับประเทศที่พวกเขาไปเยี่ยมชม เช่น เจ้าหญิงเคททรงสวมพระมาลาใบเมเปิล เมื่อไปเยือนแคนาดา หรือราชินีที่หยิบหยกสีเขียว เมื่อเดินทางไปไอร์แลนด์
ภาพและที่มา : www.bustle.com