12 ไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อไป เที่ยวเซนได เมืองสุดคูลมาแรงของญี่ปุ่น
เอาใจคนหลงใหลญี่ปุ่นให้ได้ฟินและคุ้มค่า! สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ตอนนี้ แพรวดอทคอม มีเมืองสุดคูลที่กำลังเป็นที่นิยมมากของนักท่องเที่ยวมาให้ทำความรู้จักกัน นั่นก็คือการไป เที่ยวเซนได (Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ของภูมิภาคโทโฮกุ
เซนไดได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ ความเจริญ มีเจ้ามุสึบิมารุ (Musubimaru) มาสคอตสุดคิ้วท์ประจำเมืองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวปั้น ที่สื่อถึงการเป็นเมืองเกษตรกรรม เป็นแหล่งปลูกข้าวสายพันธุ์ดีในญี่ปุ่น เจ้ามุสึบิมารุ นี้จะใส่ชุดเกราะซามูไรสัญลักษณ์ของ ดาเตะ มะซะมุเนะ (Date Masamune) ขุนศึกซามูไรผู้เลื่องชื่อของเซนไดนั่นเอง มีสโลแกนประจำตัวว่า “ฉันจะต้อนรับคุณด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ” นอกจากนี้เซนไดยังเป็นเมืองแห่งธรรมชาติเต็มไปด้วยต้นไม้ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และสำหรับใครที่มีแพลนจะไปเยือนเซนได แพรวดอทคอมขอแนะนำ 12 ไฮไลท์ที่จะทำให้คุณต้องร้องว้าว ว้าว ว้าว ข้างล่างนี้เล้ย..ย!

1. ปราสาทอาโบอะ (Aoba Castle)
เริ่มที่ ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 100 เมตร จึงเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาของเมืองเซนไดแบบเต็มๆ และสามารถเดินไปที่อนุสาวรีย์ท่านดาเตะ มะซะมุเนะ ผู้ก่อตั้งปราสาทอาโอบะ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเซนไดและญี่ปุ่น


2. สุสานซูอิโฮเดน (ZUIHODEN MAUSOLEUM)
สุสานซูอิโฮเดน (ZUIHODEN MAUSOLEUM) ตัวอาคารสุสานออกแบบสไตล์หรูหราในช่วงยุคโมโมยามะ (Momoyama Period) โครงสร้างหลักเน้นเป็นงานไม้สีดำ ตกแต่งด้วยการแกะสลักลวดลายและลงสีสันสดใส ทางเดินในพื้นที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้สนซีดาร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประวัติศาสตร์ของตระกูลดาเตะ ไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่คือการขึ้นบันได 62 ขั้น เพื่อไปสักการะพระพุทธรูปที่เปรียบเสมือนการเดินทางขึ้นไปสัมผัสสวรรค์ และเชื่อว่าการลูบหัวมังกรหน้าทางเข้า จะทำให้มีชื่อเสียงเลยมีเหล่าเซเลบ ดารา นักร้องชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรที่นี่





3. ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุ (OSAKI HACHIMANGU)
ศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุ (OSAKI HACHIMANGU) สร้างขึ้นในปี 1607 โดยดาเตะ มะซะมุเนะ เพื่อบูชาเทพฮาจิมัง (Hachiman) ซึ่งเป็นเทพแห่งสงครามของชินโต จึงเป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรเรื่องชัยชนะและความร่ำรวย





4. ฟุตะฮะชิระ จินจะ (FUTAHASHIRA SHRINE)
ฟุตะฮะชิระ จินจะ (FUTAHASHIRA SHRINE) เป็นศาลเจ้าที่มีความขลังในการขอพรเรื่องความรัก ซึ่งหนุ่มสาวญี่ปุ่นนิยมไปขอพรและส่วนใหญ่จะสมหวัง ทำให้มีผู้มาขอพรเรื่องความรักที่ศาลเจ้านี้กันเยอะมาก


5. เซนได ไดแคนนอน (SENDAI DAIKANNON)
เซนได ไดแคนนอน (SENDAI DAIKANNON) รูปปั้นขนาดใหญ่เจ้าแม่กวนอิม มีความสูง 100 เมตร และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิม มีจำนวน 12 ชั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลิฟต์และเดินลงมาชมพระพุทธรูปที่จัดแสดงในแต่ละชั้นได้


6. หมู่บ้านหัตถกรรมเมืองอะคิอุ (AKIU KOGEI NO SATO)
หมู่บ้านหัตถกรรมเมืองอะคิอุ (AKIU KOGEI NO SATO) หมู่บ้านหัตถกรรมของช่างฝีมือ 9 ครอบครัวที่ผลิตงานฝีมือพื้นบ้าน เช่น งานทอผ้า งานไม้ ตุ๊กตาไม้โคเคชิ ซึ่งบ้านของช่างฝีมือนั้นจะเปิดหน้าบ้านเป็นสตูดิโอและมีมุมขายสินค้า ซึ่งผู้ที่มาเที่ยวชมจะได้เห็นการทำงานฝีมือไปด้วย เสน่ห์ของหมู่บ้านนี้อีกอย่างคือเราสามารถเพ้นท์ลวดลายตุ๊กตาโคเคชิได้ด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นไปในตัว

7. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ (Zao Fox Village)
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ (Zao Fox Village) หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวให้ได้มาสัมผัสความน่ารัก ขี้อ้อนของจิ้งจอก ส่วนความฟินของที่นี่คือ ช่วงฤดูหนาวจะได้เห็นหิมะสีขาวปกคลุมเต็มพื้นที่และความน่าเอ็นดูของเจ้าขนฟูที่ออกมาวิ่งเล่น


8. สวนสาธารณะฟุนาโอกะ โจชิ (FUNAOKA JOSHI KOEN)
สวนสาธารณะฟุนาโอกะ โจชิ (FUNAOKA JOSHI KOEN) จุดชมดอกซากุระติดอันดับ 1 ใน 100 ที่ชาวญี่ปุ่นยกนิ้วให้เป็นสถานที่สวยงามที่สุด เมื่อมาชมซากุระบาน ไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ นั่งรถราง Slope Car ซึ่งรถรางจะค่อยๆ ขึ้นเขาผ่านต้นซากุระที่ปลูกเต็ม 2 ข้างทาง เปรียบเป็นอุโมงค์ซากุระที่มีความยาว 305 เมตร เหมาะกับการเก็บภาพสวยในดินแดนซากุระ


9. เซนได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri)
อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด ร่วมชมความอลังการในเทศกาล เซนได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri) ที่มีการประดับตกแต่งไม้ไผ่สูงกว่า 10 เมตร ด้วยกระดาษหลากสีสัน หลากหลายรูปแบบตามถนน ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคน แห่มาชมเทศกาลสุดยิ่งใหญ่และอลังการที่จัดขึ้นติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพร้อมใจกันแต่งชุดยูกะตะมาเดินชมงานและถ่ายรูป


10. ตรอกบุงกะ โยโคโช (BUNKA YOKOCHO)
เซนไดนอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆ แล้ว เรื่องอาหารก็ไม่น้อยหน้ามีแหล่งร้านอาหารอร่อยมาเอาใจสายกินที่ ตรอกบุงกะ โยโคโช (BUNKA YOKOCHO) เป็นแหล่งร้านอาหารแนวอิซากายะหรือร้านกินดื่ม มีกลิ่นอายย้อนยุค มีร้านให้เลือกชิมมากกว่า 50 ร้าน เรียงรายเต็มสองข้างทางเดิน เช่น ร้านเกี๊ยวซ่า ร้านอาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่น จุดแลนด์มาร์คของตรอกนี้คือ บ่อน้ำแห่งแรกของเมืองเซนได


11. ลิ้นวัวย่าง (Gyutan)
ชิม ลิ้นวัวย่าง (Gyutan) อาหารขึ้นชื่อและมีต้นกำเนิดที่เมืองเซนได เมนูนี้สายกินไม่ควรพลาดลิ้มลองความกรุบกรอบ ความนุ่ม และกลิ่นหอมกรุ่นของถ่านอันเป็นเอกลักษณ์รสชาติของความออริจินัลจนหลายคนติดใจ และร้านอาหารดังๆ ในเซนไดจะมีเมนูลิ้นวัวย่างไว้บริการ


12. ถนนคลิสโรด (CLIS ROAD)
ปิดท้ายทริปเซนไดให้เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งที่ ถนนคลิสโรด (CLIS ROAD) เรียกว่าเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองเซนได เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สินค้าแบรนด์เนมให้สาวกแดนปลาดิบได้เลือกช้อปอย่างจุใจ



นี่แค่บางส่วนของเซนไดเท่านั้น ซึ่งคนที่เคยไปมาแล้วจะเห็นว่าเซนไดมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกเพียบ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยหรือวางแผนจะไปเที่ยวเซนไดให้ฟิน ลองมาทำความรู้จักกับบรรยากาศของเมืองเซนไดแบบเต็มๆ ที่เทศกาล “โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล 2018” ภายใต้ธีม วันซ์ อิน เซนได เทศกาลรวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวและอาหารคุณภาพจากญี่ปุ่นมาให้ช็อป ชิม ชิล และถ่ายภาพเช็คอินเก๋ๆ ได้ในวันที่ 29 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 ณ ชั้น 5 รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน