ไม่ชอบขับรถมานี่! ปัก 10 เมือง เอาใจนักสำรวจชอบเดิน คัดมาแล้วดีที่สุดในโลก

เคลียร์ปฏิทิน! จัดเวลางานและเวลาชีวิตให้บาลานซ์กันเสียหน่อย ใครที่รู้สึกว่าชีวิตเป๋ พักผ่อนน้อย ต้องการพลังงานเพิ่ม หรือยังเที่ยวไม่จุใจ อยากสำรวจรอบโลกให้ทั่วกว่านี้

วันนี้ แพรวดอทคอม คัด 10 เมืองน่าเที่ยว การันตีจาก Booking.com ผู้นำระดับโลกที่เชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักจำนวนมาก แล้วนำมาทำเป็นข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลายมาไว้ในที่นี้แล้วจ้า ปักธงให้เห็นชัดๆ กันตรงนี้เลยว่าแต่ละเมืองที่นำมาให้ชมนี้ เหมาะสำหรับนักสำรวจที่ชอบเดินมากกว่าขับรถยนตร์จนต้องถูกใจกันสุดๆ

– 1 –
มิวนิก

หากพูดถึงเส้นทางที่มีทิวทัศน์งดงามแล้ว การเดินผ่านใจกลางเมืองมิวนิกที่เป็นมิตรสำหรับคนเดินเท้า จะทำให้ได้สัมผัสวิวที่สวยงามตามสไตล์บาวาเรียนในทุกซอกทุกมุมเลย ไม่ว่าจะเป็นสวนอิงลิชการ์เด้น (English Garden) ที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ นอกเหนือจากสวนที่เป็นดั่งโอเอซิสกลางใจเมืองแห่งนี้แล้ว เหล่านักสำรวจ ขาช็อปยังสามารถใช้เวลาไปกับการเดินชมสินค้า และเพลิดเพลินกับอาคารที่ตกแต่งอย่างหรูหรา อีกทั้งยังมีวิหารเฟราเอนเคียร์เชอ (Frauenkirche Cathedral) ที่สวย สดใส ให้ได้ชื่นชมอีกด้วย

– 2 –
เกียวโต

เกียวโตเป็นเมืองที่เหมาะแก่การใช้เวลาดื่มด่ำไปกับส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์และความเร่งรีบในแบบสมัยใหม่ ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี โดยมีชื่อเสียงในเรื่องของวัด พิธีชงชา และธรรมเนียมการจัดดอกไม้ แต่ในขณะเดียวกันเกียวโตก็เป็นมหานครที่เฟื่องฟูและมีความคิดก้าวหน้า สามารถสังเกตได้จากจุดน่าสนใจต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่รอบๆ เมือง ดังนั้นก็อาจจะต้องพึ่งระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อยู่บ้าง แต่การเดินเท้าก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจแต่ละย่าน และบริเวณที่น่าสนใจสุดๆ สำหรับการเดินเล่นเลยก็คือ วัดคิโยะมิซุเดะระ (Kiyomizu-dera Temple) โดยศาลเจ้าและแผงขายของทานเล่นของที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์รวมในการทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยนะ

– 3 –
เฮลซิงกิ

เฮลซิงกิจะได้รับคะแนนสูงอยู่เสมอเมื่อมีการจัดอันดับเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลก และยังขึ้นชื่อในเรื่องของความทุ่มเทในการสร้างพื้นที่ที่สามารถเดินเที่ยว และปราศจากมลภาวะจากรถยนต์อีกด้วย นอกจากนี้เฮลซิงกิยังมีชื่อเสียงในเรื่องการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียที่ล้ำหน้า ดังนั้นอย่าลืมเดินสำรวจไปตามอาคารที่ตกแต่งอย่างมีสุนทรียภาพและล้ำสมัย ที่ได้รับการผสมผสานกับมรดกการตกแต่งสไตล์ฟินแลนด์ได้อย่างกลมกลืนเหล่านี้ด้วยนะ ถ่ายรูปก็สวยได้หลายช็อตนะเออ…

– 4 –
บอร์โด

เมื่อเดินเล่นในเมืองบอร์โด จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความสง่างามของบรรดาอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่งดงามทอดยาวบนถนน ซึ่งจัดให้เป็นย่านสำหรับคนเดินเท้า รวมถึงบริเวณจัตุรัสต่างๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำพุ และในบรรดาจัตุรัสเหล่านั้น ปลาสเดอลาบูร์ส (Place de la Bourse) อาจถือได้ว่ามีความตระการตามากที่สุดเพราะมี “มิรัวโด” (Miroir D’eau หรือกระจกผืนน้ำ) สระน้ำสะท้อนเงาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และทำให้ทิวทัศน์นั้นเหมือนอยู่ในความฝัน นอกจากบอร์โดจะเหมาะสำหรับการเดินเล่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้จักรยานและมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีสุดๆ ดังนั้นสามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้รวดเร็วทันใจแน่นอน

– 5 –
ฟลอเรนซ์

เติมพลังด้วยไวน์ชั้นเยี่ยมและปับปาอัลโปโมโดโร สไตล์ทัสกานี ให้พร้อมสำหรับการสัมผัสประสบการณ์จากการเดินสำรวจรอบเมืองฟลอเรนซ์ก็เป็นไอเดียเก๋ๆ เพราะที่นี่จะพบกับถนนที่มีมนตร์ขลัง ที่ปูลาดด้วยอิฐ ถนนหลายเส้นแคบเกินกว่าจะใช้รถยนต์ได้ และย่านใจกลางเมืองส่วนใหญ่ก็อนุญาตเฉพาะผู้เดินเท้าเท่านั้น นอกจากนี้การเดินเท้ายังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสวิถีชีวิตแบบอิตาเลียน ไม่ว่าจะเป็นการจิบกาแฟเอสเปรสโซกลางแจ้ง หรือเพลิดเพลินกับอากาศสดชื่นในสวนโบโบลี (Boboli Gardens) โดยสามารถเดินข้ามสะพานปนเต้แวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเพียงแห่งเดียวที่กองทัพเยอรมันไม่ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

– 6 –
นิวยอร์ก

ไม่ว่าจะเดินเล่นในนิวยอร์กเป็นระยะทางไกลเพียงใด ก็มีโอกาสที่จะหลงทางน้อยมาก เพราะผังเมืองของที่นี่วางรูปแบบเป็นตาราง และถนนแทบทุกเส้นก็มีชื่อเรียงตามหมายเลข ดังนั้นสบายใจได้ เพราะสามารถเดินทั่วเขตแมนแฮตตันเพื่อสำรวจย่านต่างๆ ได้หลากหลายเลยละ ไม่ว่าจะเป็นโซโห (SoHo) ลิตเติลอิตาลี (Little Italy) และที่พลาดไม่ได้เลยคือ สวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ค (Central Park) คนส่วนใหญ่ของนิวยอร์กไม่ค่อยมีรถส่วนตัว และเมืองแห่งนี้ก็เหมาะมากๆ สำหรับการเดิน ซึ่งก็ได้เสียงบอกต่อจากข้อมูลใน Booking.com เรียกได้ว่าแม้แต่บริเวณไทม์สแควร์ (Times Square) ก็เปิดเป็นถนนคนเดินเท่านั้น แต่หากจำเป็นจริงๆ ก็มีรถไฟใต้ดินให้ใช้บริการได้ตลอด

– 7 –
เพิร์ท

เพิร์ทนั้นไม่ได้โด่งดังแค่เรื่องหาดทรายที่งามบริสุทธ์และท้องฟ้าสีครามสดใสเท่านั้น เพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมย่านวัฒนธรรมสุดสร้างสรรค์เช่นกัน รวมถึงยังสามารถเลือกเติมพลังจากร้านอาหารและบาร์ที่หลากหลายระหว่างการเดินเล่นบนถนนบรรยากาศสบายๆ หรือพักผ่อนฟังเสียงลมพัดในพื้นที่สวนสีเขียวชอุ่มของเมืองได้ด้วย แต่ถ้าคุณอยากได้ตัวช่วยค้นหาสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหรือความลับเด็ดๆ ขอแนะนำให้ลองใช้บริการจาก Two Feet and a Heartbeat ซึ่งเป็นบริษัทจัดทัวร์เดินเที่ยวโดยคนท้องถิ่นรุ่นใหม่ 2 คน

– 8 –
แวนคูเวอร์

หากถามว่าเมืองใดในประเทศแคนาดาที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุด และเหมาะสำหรับการเดินมากที่สุด คำตอบอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นแวนคูเวอร์ เพราะตัวเมืองนั้นหันหน้าไปทางทะเล และมีทัศนียภาพของเทือกเขานอร์ธชอร์ (North Shore Mountains) ซึ่งเป็นสถานที่แสนวิเศษไม่แพ้กัน ส่วนผสมระหว่างธรรมชาติอันน่าตื่นตากับวัฒนธรรมอันเฟื่องฟูนั้นส่งผลให้การเดินสำรวจเมืองแห่งนี้เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้จะได้รับการบอกต่อจากลูกค้าของ Booking.com ว่าเหมาะสำหรับการเดินอย่างยิ่ง จุดที่น่าสนใจให้เดินสำรวจนั้นมีทั้งทางเดินซึ่งทอดยาวเลียบแนวชายฝั่งฟอลส์ครีก (False Creek) ไปจนถึงเกาะแกรนวิลล์ (Granville Island) รวมถึงลัดเลาะผ่านสวนอัมเบิลไซด์ปาร์ค (Ambleside Park)

– 9 –
แซนแฟรนซิสโก

หากพร้อมจะเดินขึ้นเนิน แซนแฟรนซิสโกคือหนึ่งในจุดหมายยอดเยี่ยมสำหรับการเดินสำรวจ นอกจากจะมีอากาศที่แจ่มใส เพราะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว เมืองแห่งนี้ยังมีบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถสัมผัสได้ดีที่สุดเมื่อเดินไปรอบๆ ละแวกต่างๆ ของที่นี่ พลางชมสีสันของอาคารบ้านเรือนและผู้คนที่สัญจรไปมา นอกจากนี้เหล่านักสำรวจยังสามารถพิชิตทางเดิน 2.7 กิโลเมตรของสะพานโกลเด้นเกต (Golden Gate Bridge) (หรือจะเดินไปถึงแค่ตอม่อแรก และเดินกลับก็ได้เช่นกัน) หรือลองไปเยือนเพียร์ 39 (Pier 39) เพื่อลิ้มรสเนื้อปูสดๆ หรือไอศกรีมรสเลิศก็ดีไม่น้อยนะ

– 10 –
มอนเตวิเดโอ

แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่เมืองหลวงของอุรุกวัยแห่งนี้กลับเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเดินสำรวจอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยบรรยากาศริมชายหาดที่มีเอกลักษณ์ ใครๆ ก็คงอดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ในขณะที่เดินทอดน่องไปตามรัมบลา (Rambla) ทางเดินริมหาดในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับลานกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และอาคารสไตล์โคโลเนียลอันใหญ่โตหลากหลายแห่ง รวมถึงกลุ่มอาคารคอนกรีตสไตล์อาร์ตเดโคและสไตล์ปี 1970 ที่เปี่ยมเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีย่านซิวดาดเบียฮา (Ciudad Vieja) หรือย่านเมืองเก่า ให้ได้ลองสำรวจอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่ ท่ามกลางเสียงดนตรีของนักดนตรีเปิดหมวก และถ้าเหนื่อยหรือล้าก็มีอาหารอุรุกวัยขายตามแผงริมทางให้แวะลิ้มรสอีกด้วย

ดูแต่ละเมืองแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่ามีสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับการเดินสำรวจอันน่าสนใจมากเหมือนกันนะ…

เรียบเรียงโดย: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: Booking.com