กินเป็น อยู่ดี เคล็ดลับสุขภาพหนุ่มสาวออฟฟิศ เซฟดวงตา สมองฟิต ก่อนสายเกินแก้

กินเป็น อยู่ดี เคล็ดลับสุขภาพหนุ่มสาวออฟฟิศ เซฟดวงตา สมองฟิต ก่อนสายเกินแก้

ถึงจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับหนุ่มสาวสมัยนี้ที่อยู่ในวัยทำงาน เพราะสายตาและสมองคืออวัยวะหลักๆที่ถูกใช้งานอย่างหนักจนบางทีก็ลืมนึกที่จะดูแลกัน

ทำงานหนักมาทั้งวันทั้งใช้สมอง ใช้สายตา พอถึงเวลาที่จะต้องดูแลตัวเอง ก็ต้องใส่ใจด้วย เพราะปัญหาของหนุ่มสาวออฟฟิศยุคนี้ นอกจากเรื่องความปวดเมื่อยล้าตามจุดต่างๆ ของร่ายกายที่เกิดขึ้นแล้ว การใช้สายตามากๆ โดยไม่ได้พักผ่อนก็ก่อให้เกิดการเสื่อมได้เช่นกัน และจะลามไปถึงระบบประสาทและสมองด้วย เพราะอวัยวะทุกอย่างที่ว่ามานี้ล้วนมีการทำงานสัมพันธ์กันหมด

เรื่องสุขภาพจริงๆ ไม่ต้องให้เกิดอาการขึ้นมาก่อน แต่ควรเริ่มจากดูแลป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจขึ้นจะดีกว่า ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของดวงตาก็มักจะมองข้ามปล่อยไว้จนเป็นหนัก ทั้งที่จริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง อย่างง่ายๆ โดยสเต็ปแรก เราควรต้องรู้ใน 4 ส่วนหลัก ของร่างกายก่อน ซึ่งได้แก่ อนุมูลอิสระในร่างกาย, การอักเสบของเนื้อเยื่อ, ฮอร์โมน และภูมิต้านทาน ซึ่งถ้า 4 ส่วนนี้มีความสมดุล ก็ยากที่จะเกิดสิ่งผิดปกติกับอวัยวะสำคัญในร่างกาย โดยเฉพาะสมอง และดวงตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่มนุษย์นั้นใช้งานอยู่ตลอดเวลา ในการทำกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงกระทั่งเวลาหลับ ฉะนั้น ในการใช้สายตาของมนุษย์ออฟฟิศ หรือคนวัยทำงาน ที่นับว่าใช้สายตามากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน, การขับรถ, การเจอกับแสงแดดที่มากไปหรือแม้กระทั่งการใช้สมาร์ทโฟน ที่มีคลื่นความถี่ ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ประสาทตาทำงานผิดปกติ และส่งผลให้เกิดความเสื่อมถอยแก่ดวงตาอยู่ในทุกๆ วัน

healthy1 (1)

ดังนั้น การดูแลรักษาเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของสายตาอยู่กับเราไปยาวนาน จึงต้องควบคุมการทำงานในส่วนนี้ให้มีความพอดี พร้อมทั้งการบำรุงควบคู่ไปด้วย อาทิ การรับประทานวิตามินเอ ที่มีอยู่ในน้ำมันตับปลา, วิตามินดี,วิตามินอี และ วิตามินเค ที่จะช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังมี ผลบูลเบอร์รี่ ผลไม้ที่มีผลการวิจัยว่ามีแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มจอสีประสาทตาให้ทนต่อแสงได้ดี

healthy1 (5)

นอกจากการบำรุงสายตาแล้ว สมองก็เป็นอวัยวะหลักสำคัญในร่างกายของมนุษย์ที่ต้องได้รับการดูแล โดยสามารถเริ่มบริหารสมองอย่างง่ายๆ ได้ในทุกๆ วันเพราะปกติแล้วสมองของเราจะมีลักษณะคล้ายๆ กล้ามเนื้อ ถ้าเราขยันออกกำลังกาย ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะยังดีอยู่เต็มที่ แต่เมื่อวันใดที่เราบริหารสมองน้อยลง มีการคิดวิเคราะห์ คิดเชิงลึกน้อยลง ก็ส่งผลทำให้เสื่อมถอยไปได้เช่นกัน นอกจากบริหารสมองแล้ว เราต้องบำรุงสมองให้ถูกจุด โดยสมองต้องการสารบางตัวเพื่อให้มีพละกำลังในการทำงาน อาทิ โคลิน ที่มีอยู่ในไข่แดงของไข่ไก่, ปลา, เนื้อสัตว์ และชีส ส่วนในวัยกลุ่มผู้สูงวัย ควรบริหารสมองเพื่อให้คงประสิทธิภาพไว้ มี 3 ข้อง่ายๆ ได้แก่

healthy1 (3)

1) การทำอะไรที่ชอบ อาทิ การดูแลต้นไม้, เลี้ยงสัตว์, ร้องเพลงฯลฯ

2) การทำอะไรใหม่ๆ หรือไม่ค่อยได้ทำ อาทิ การที่ผู้ชายจะไปลองเรียนเย็บปักถักร้อย, การใช้มือข้างที่ไม่ถนัดทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

3) พักสมอง เมื่อเราใช้สมองแล้ว ต้องมีการพักผ่อน โดยควรนอนหลับให้สนิทเพื่อเป็นการพักผ่อน อย่างน้อยที่สุดวันละ 5 ชั่วโมง โดยห้องควรมืดสนิทเพื่อให้เมลาโทนินทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการอยู่กับอะไรที่มีความจดจ่อ อย่างเช่น การนั่งสมาธิ สวดมนต์ โดยให้ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็ถือเป็นการพักสมองไปในตัวด้วย

 

ภาพ : I-DEE www.meinfinitythailand.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up