Take Me Home (2559) สุขสันต์วันกลับบ้าน ความน่าดูอันดับแรกของหนังเรื่องนี้คือชื่อคนเขียนบทและคนกำกับ ซึ่งก็รับหน้าที่โดยคนเดียวกันนั่นคือก้องเกียรติ โขมสิริ เจ้าของผลงานสายโหดสุดลือลั่นอย่างลองของ เฉือน และขุนพันธ์ (กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้) เป็นต้น
แน่นอนว่าลายเส้นในหนังของเขามักจะมาพร้อมการหักมุมชวนอึ้งและซีนสยองๆ ชวนสะพรึง และเรากำลังจะได้พบกับสิ่งเหล่านั้นในหนังเรื่องนี้ใช่หรือมั้ย คำตอบคือใช่ เพราะ ผกก. ขายซีนผีหลอกในแบบฉบับหลากหลายและมาทุกแนวจริงๆ แต่ถ้าถามว่าโดนใจมั้ย คำตอบคือยังไม่ใช่ อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่างในหนังที่ทำให้ยังไม่รู้สึกสุดสักทาง ทั้งยังออกแนวหลงทางเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการมัดปมไว้แน่นมากจนแก้ออกยากนี่แหละ
หนังเปิดเรื่องด้วยการเล่าถึงแทน (มาริโอ้) ชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลและพบว่าตัวเองความจำเสื่อม ก่อนจะได้พบข้อมูลว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนในกูเกิล เขาจึงตัดสินใจกลับไปยังบ้านที่เขาเคยอยู่ นั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองมีพี่สาวฝาแฝดที่ตอนนี้แต่งงานอยู่กินกับสามีซึ่งมีลูกติดสองคน ทว่าบรรยากาศในบ้านกลับทำให้แทบต้องสะพรึง เมื่อพฤติกรรมของทุกคนดูแปลกๆ ทั้งยังมีแม่บ้านมาตอกย้ำเพิ่มเติมว่าอย่าออกมาเดินตอนตีสามตีสี่ เพราะเป็นเวลาผีออก แน่นอนว่าเขากำลังจะได้พบความจริงสุดหลอนตั้งแต่คืนแรกที่กลับมาบ้านเลยล่ะ
ณ จุดนี้ต้องถือว่าเรื่องเดินไว กระชับ ไม่ยืดเยื้อ แต่ไม่ค่อยสมูธ มีการตัดต่อแบบงงๆ และยังนำเสนอตามสไตล์หนังผีฝรั่งที่ตัดสลับไปมาในระหว่างที่หนังค่อยๆ เฉลยปมไปเรื่อยๆ ก็ถือว่าน่าสนใจดีในแง่ของการนำเสนอที่ถือว่ากล้านะ เพราะเอาจริงๆ ก็ขาดความสมเหตุสมผลไปบ้าง เอาง่ายๆ คือเหมือนหนังอยากจะให้มันเป็นแบบนี้ ก็ยัดพล็อตขยายตรงส่วนนี้เข้ามาให้เติมเต็มไว้ก่อน โดยขาดที่มาที่ไปที่สมบูรณ์ แต่ก็อย่างว่า เวลาผีจะมา มันก็คงไม่บอกสาเหตุหรอกนะว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน
ถ้าตั้งใจดูให้ดี ก็ถือว่าหนังดูไม่ยากเลยนะ เพียงแต่การสื่อออกมาอาจจะทำให้ดูยากไปหน่อย และการนำเสนอหนังให้คนตีความตาม ก็เป็นอะไรที่พบบ่อย แต่มีน้อยที่จะทำให้คนอินและเชื่อตามได้ จะโดดเด่นเกินหน้าก็เห็นจะเป็นการแสดงของตัวละครหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี่แหละ ขโมยซีนมาก รัชดาลัยยังต้องยอมใจ ขณะที่นักแสดงนำทั้งสามอย่างมาริโอ ก็ถือว่าเล่นดีตามท้องเรื่อง แต่มาเบอร์โวยวายเยอะไปหน่อยจนน่ารำ ส่วนวิว วรรณรทก็ถือว่าพลิกบทบาทดี แต่ไม่ค่อยเซอร์ไพรส์เท่าไร และคนสุดท้ายปีเตอร์ นพชัย ก็เล่นดีตามบทบาท แต่ไม่ค่อยเด่น
ที่โดดเด่นจริงๆ น่าจะเป็นบรรยากาศของเรื่อง ซึ่งให้ความรู้สึกกลัวตามได้ แต่ไม่ถึงขั้นขนลุก จะมีซีนติดตาๆ ก็อย่างตอนผีสวดมนต์สู้พระ ตอนผีชุดไทยวิ่งเข้าใส่ และตอนผีผูกคอตาย เป็นต้น โดยรวมถือว่านำเสนอซีนผีๆ ได้เยอะและหลากหลายดีอย่างที่บอกไปตอนต้น แต่ฉากหลังที่เป็นบ้านแนวอาร์ตๆ ยังดูธรรมดาไปหน่อย ฟีลของหนังแอบชวนให้นึกถึง The Other, A Tale of Two Sister และ Goodnight Mommy จึงถือว่าหนังเรื่องนี้ให้กลิ่นอายของความสยองขวัญในเชิงจิตวิทยาในระดับเบาๆ ไม่ถึงขั้นเขย่าจิตจนชวนให้อึ้งตามในบทสรุปของเรื่อง แต่ก็ชอบตอนจบนะที่เดินทางมาสู่เบอร์นี้ ประหนึ่งเป็นหนังของคงเดช (ผกก. กอด, Snap แค่..ได้คิดถึง) เลยล่ะ
คะแนน 7/10
เรื่อง : คิมคานา
ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่
www.facebook.com/praewmagazine
Instagram : @praewmag
และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
- Praew E-magazine
- NaiinPann
- Ookbee