หนึ่งวันใน Munich (ตอนที่2)

มาต่อกันที่ตอนที่ 2 ครั้งนี้ก็ยังเดิมชมเมืองกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะมองไปทางไหนก็สวยงามและน่าตื่นตาไปหมด เอาเป็นว่าติดตามการเดินทางครั้งนี้ไปพร้อมๆ กันได้เลย

6
บรรยากาศรื่นเริงในโรงเบียร์ของฮอฟบราเฮ้าส์ซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์ลูกทุ่งเยอรมันนิดๆ

เดินชมตลาดแบบเยอรมันที่ Viktualienmarkt

เดินจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ไม่ไกลนักก็พบกับตลาดวิคชวล (Viktualienmarkt หรือ Victuals Market) ซึ่งเป็นตลาดกลางแจ้งและมีของขายมากมาย ทั้งของสด ของแห้ง ผลไม้และผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ถึงแม้ว่าช่วงที่ผมไปยังเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม มาเยอรมนีทั้งที แน่นอนว่าไม่ควรจะพลาดการกิน 3 สิ่งสิ่งแรกคือ ไส้กรอก ซึ่งมีร้านขายไส้กรอกแถวตลาดวิคชวลหลายร้านทีเดียว สามารถสั่งแล้วยืนกินในร้านก็ได้

11
ไส้กรอกเยอรมัน ราคาเพียง 2 – 3 ยูโร กินคู่กับมัสตาร์ด รสชาติจัดจ้าน อร่อยมากครับ

ส่วนเบียร์กับขาหมูเยอรมันก็เป็นอีก 2 สิ่งที่ห้ามพลาดเช่นเดียวกัน ผมมีโอกาสสัมผัสมื้อค่ำแบบเยอรมันแท้ ๆ ที่ฮอฟบราเฮ้าส์ (Hofbrãuhaus Mûnchen) เดินจากจัตุรัสมาเรียนปลาตซ์ประมาณ 5 นาทีก็ถึง เมื่อเข้าไปด้านในจะได้บรรยากาศโรงเบียร์แบบบ้านนอก โดยมีพนักงานเสิร์ฟแต่งชุดพื้นเมือง ลูกค้าในร้านเยอะส่งเสียงดังแข่งกับดนตรีพื้นเมืองแต่ก็ได้บรรยากาศสนุกสนานดี มาถึงที่นี่ทั้งที ผมจึงสั่งเบียร์เยอรมันแท้ ๆ เสิร์ฟมาในแก้วขนาด 1 ลิตร พร้อมกับขาหมูเยอรมันอีกหนึ่งจาน สุดท้ายกินไม่หมดครับ เพราะเสิร์ฟมาจานใหญ่จริง ๆ หลังจากอิ่มเบียร์ ทำเอาผมเดินเป๋กลับโรงแรมทีเดียว

10
มาเยอรมนีทั้งที ต้องลิ้มรสเบียร์และขาหมูเยอรมันต้นตำรับ

ชมสวนสวยที่ Hofgarten

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวในเมืองมิวนิก คือบริเวณพระราชวังเรสิเดนซ์ (Residenz) ซึ่งเป็นพระราชวังสวยงามของราชวงศ์บาวาเรีย (Bavaria) ภายในตกแต่งอย่างสวยงามอลังการ ไม่น้อยหน้าพระราชวังแวร์ซายส์ของทางฝรั่งเศสเลยละครับ ออกมาจากวังอย่าลืมไปชมสวน Hofgarten ซึ่งในอดีตก็เป็นสวนของพระราชวังเรสิเดนซ์นี่ละ บรรยากาศในวันที่ผมไปนั้นเงียบสงบและสวยงามมาก ตรงใจกลางสวนมีศาลาตั้งอยู่ จริง ๆ แล้วศาลานี้คือ วิหารแห่งเทพีไดอาน่า (Temple of Diana) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการล่าสัตว์

7
Temple of Diana ภายในสวน Hofgarten ซึ่งเป็นสวนของพระราชวัง Residenz ในอดีต ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะให้คนทั่วไปเข้าชมได้ฟรี

มิวนิกก็มีประตูชัยเหมือนกัน

ออกมาจากหน้าสวน ถ้าเดินตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนนลุดวิก (Ludwigstrae) จะเจอกับประตูชัยของมิวนิกที่ชื่อว่าซีเกสเตอร์ (Siegestor) นอกจากประตูชัยที่ปารีสอันโด่งดังแล้ว ในมิวนิกก็มีประตูชัยกับเขาเหมือนกัน เพราะคำว่าSiegestor ในภาษาอังกฤษแปลว่า Victory Gate ซึ่งหมายถึง

9
ไม่ใช่แค่ฝรั่งเศส ที่เยอรมันเองก็มีประตูชัยกับเขาเหมือนกัน

ประตูชัยนั่นละครับ สร้างโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 1 (Ludwig I) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กองทัพทหารแห่งแคว้นบาวาเรียประตูชัยแห่งนี้ได้รับความเสียหายในช่วงสงครามโลกครงั้ ที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้น มาในภายหลังความจริง ประตูชัยอยู่ในตัวเมืองมิวนิก หากไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปได้ สะดวกดี โดยลงที่สถานี Giselastrae

8
วันสบายๆ ฟ้าสวยๆ บนถนนลุดวิก

ลำพังแค่ในตัวเมืองมิวนิกยังน่าสนใจขนาดนี้ แต่ความจริงแล้ว หากยึดมิวนิกเป็นที่พักหลายวันหน่อย เราสามารถจัดทริปสั้น ๆ แบบ One day trip ไปได้มากมาย อย่างเช่นเส้นทางยอดนิยมคือ ปราสาทนอยชวานสไตน์ หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศเยอรมนี ปราสาทแห่งนี้ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของปราสาทในดิสนีย์แลนด์กันเลยทีเดียว หรือจะไปเมืองรอเตนเบิร์ก (Rothenburg) เมืองเล็ก ๆ น่ารัก ที่ยังคงเสน่ห์ในยุคกลางได้เป็นอย่างดี หากชอบชมความสวยงามของเมืองในรูปแบบกอทิกต้องไม่พลาดเมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นบาวาเรีย รวมถึงการเดินทางข้ามไปยังออสเตรียไปยังเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคีตกวีอย่างโมซาร์ท เมืองนี้สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกก็สามารถไปเช้ากลับเย็นได้เช่นกันครับ

หากมีโอกาสไปเยอรมนีทั้งที อย่าลืมแวะมิวนิกนะครับแล้วจะหลงเสน่ห์มิวนิกเหมือนผมแน่นอน

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรว ฉบับ 871 ปักษ์ที่ 10 ธันวาคม 2558

Praew Recommend

keyboard_arrow_up