ลึกลับ ณ โตเกียว! ชี้เป้าร้าน INUA (อินนัว) หนึ่งเดียวในญี่ปุ่น ล้ำทุกรสชาติจนต้องไปลอง

ลึกลับ ณ โตเกียว! ชี้เป้าร้าน INUA (อินนัว) หนึ่งเดียวในญี่ปุ่น ล้ำทุกรสชาติจนต้องไปลอง…ลืมภาพเดิมๆ เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วคุณต้องนึกถึงแต่ร้านซูชิ ชาบู ปิ้งย่าง ที่เหล่า Youtuber เขาการันตีไปก่อนได้เลย เพราะวันนี้แพรวดอทคอมจะพามาร้านอาหารที่ลึกลับที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว และเป็นร้านเดียวในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าแต่ละเมนูที่ออกมาว้าว…ตั้งแต่ยังไม่ได้ชิม

ไม่ใช่ใครจะได้ชิมกันง่ายๆ สำหรับร้านอาหารที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในกลุ่มคนที่รักการกินระดับโลก เพราะร้านอาหารที่ชื่อว่า INUA (อินนัว) แห่งนี้ เพิ่งจะตกลงตัดสินใจมาเปิดที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้ไม่นาน หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการทำร้านอาหาร NOMA ซึ่งอยู่ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ให้กลายเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งของโลกมาหลายสมัยแล้ว

เชฟ Thomas Frebel

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ร้านอาหารสัญชาติเดนมาร์กแห่งนี้เข้ามาเปิดที่ญี่ปุ่นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ เคยมาฝากฝีมือที่โแรงแรมแมนดารินโอเรียลเต็ลของญี่ปุ่น จนติดใจกันมาแล้ว และด้วยรสชาติที่การันตีความเป็น Best of the world จากนักชิมทั่วโลก ทำให้ทางบริษัทคาโดคาวะ จากญี่ปุ่นถึงขั้นขอซื้อลิขสิทธิ์จากทางร้าน NOMA มาเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ โดยใช้ชื่อว่า INUA (อินนัว) ที่กรุงโตเกียว โดยดึงตัวเชฟ Thomas Frebel หนึ่งในเชฟฝีมือดีจากร้านต้นตำรับมารับหน้าที่สร้างสรรค์เมนูทั้งหมด

ร้านอาหาร INUA (อินนัว) อาจจะไม่ใช่ร้านอาหารในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะแต่ละเมนูเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ของอาหารแบบสแกนดิเนเวียน ซึ่งเป็นต้นตำรับที่ทางร้านคงเอกลักษณ์จากร้าน NOMA ที่เดนมาร์ก มาเข้ากับวัตถุดิบของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกล่อมลงตัว โดยวัตถุดิบแต่ละชนิดที่นำมาใช้ ทางเชฟโทมัสจะนำไปทดลองปรุงในห้องครัวทดลองก่อน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดของญี่ปุ่นนั้นเหมาะกับการนำมาปรุงรสชาติในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งถ้าใครได้มาที่ร้านนี้ต้องบอกก่อนว่าอาหารแต่ละจาน เชฟจะเสิร์ฟในสไตล์ Chef’s Choice  ไล่ระดับรสชาติกันตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อยไปจนจบที่ของหวาน

เริ่มกันที่เมนูแรกเป็นเมล็ดทานตะวันในน้ำซุปเพื่อเปิดต่อมรับรสเรียกความสดชื่นก่อน ตามมาด้วยเกาลัดทานคู่กับซอส กินคู่กับทรัฟเฟิลคัสตาร์ด และเมนูที่ทำจากหน่อไม้ญี่ปุ่นรสชาติกลมกล่อม

Pumpkin seeds,ginkgo nuts and squid broth
Marinated chestnut with truffle custard
Grilled bamboo and haskap

มาต่อที่เมนูเห็ดที่รสชาติถูกปากมากๆ โดยวัตถุดิบหลักที่เชฟนำมาทำก็คือ เห็ดไมตาเกะ ซึ่งนำไปรมควันและเคี่ยวจนเปื่อย

Smoked and braised maitake mushroom

จานที่ 5และุ 6  เป็นอีกหนึ่งรสชาติเบาๆ แต่ลงตัว ด้วยวัตถุดิบที่ทางเชฟนำมาผสมผสานกันอย่างดี ทั้งผักใบเขียวที่นำไปนึ่งและปรุงอย่างพิถิพิถัน ห่อด้วยฟองเต้าหู้ เป็นการเพิ่มรายละเอียดให้กับจานนี้ละมุนลิ้นตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ก่อนจะเริ่มจานต่อไปเป็นสลัดผักที่แสนจะเรียบง่าย แต่รสชาติล้ำลึกมาก

Steamed greens wrapped in yuba
Grilled snap beans and semi dried fruits

ในจานที่ 7,8และ9 เนื้อสัตว์ชนิดแรกที่เชฟเลือกเสิร์ฟให้ก็คือกุ้งหวาน โดยนำมาทำเป็นเมนูกินคู่กับสาหร่ายญี่ปุ่นดอง ถือเป็นการเริ่มต้นจานหลักได้ดี จากนั้นต่อด้วยเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบชั้นเลิศจากท้องทะเลอย่าง King Crab ที่โรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสไลด์บาง ตามด้วยเมนูก้านเห็ดเข็มทองราดซอสไข่แดง ซึ่งห่อด้วยใบแนซเทอร์ชัม ได้รสชาติของผักสดที่เข้ากับเห็ดและซอสเต็มๆ คำ ก่อนจบจานหลักด้วยเมนูข้าวผัดเนื้อปูและดอกไม้ โดยเมนูนี้ยังเพิ่มลูกเล่นในการกินด้วยซุปแบบกรอบรสเป็ด ซึ่งผ่านกรรมวิธีจากการนำน้ำซุปเป็ดไปเคี่ยวจนเข้มข้น จากนั้นนำไปอบจนแข็งตัวเป็นแผ่น ปิดท้ายด้วยการตัดความเลี่ยนด้วยซากูระดองให้กินเพื่อปรับรสชาติในเมนูต่อไป

Pickled seaweed and Ama Ebi
King crab and white truffle
Enoki, egg yolk sauce and nasturtium leaf
Rice,King Crab and flowers

จบจากจานหลักมาต่อกันที่ของหวานเมนูแรก เป็นการนำเอาขนมญี่ปุ่นอย่างโมจิมาคลุกเคล้ากับข้าวบาเลย์เคลือบคาราเมล ได้ทั้งความหอม ความนุ่ม และกรุบกรอบ เป็นเมนูที่กินเข้าไปแล้วมีหลากหลายของTexture และลงตัวมาก ตบท้ายด้วยลูกแพร์คลุกกับเกลือญี่ปุ่น เรียกความสดชื่นก่อนจบมื้ออาหาร

Mochi and caramelized barley
Fresh seasonal pear

นอกจากความพิถิพิถันของอาหารทุกจานที่เชฟคิดขึ้นมาแล้ว เรื่องบรรยากาศของร้านก็ถูกดีไซน์ขึ้นมาพิเศษ ในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ถูกส่งตรงมาจากเดนมาร์กทั้งหมด เพื่อคงเอกลักษณ์ของร้านดั้งเดิม

ส่วนถ้วยชามต่างๆ ที่ใช้ในร้านก็มีการออกแบบพิเศษโดยศิลปินญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติของศาสตร์และศิลป์ในการทำอาหารที่มีความชัดเจนและไม่เหมือนใคร

ใครที่เดินทางไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หากอยากลองกินอาหารที่อร่อยได้สุขภาพที่ดี และเข้าถึงรสชาติของวัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ๆ ก็ควรจะหาโอกาสไปลองที่ร้าน INUA (อินนัว) กันสักครั้ง แต่ต้องขอบอกก่อนว่าถ้าจะวอล์คอินเข้าไปเลยอาจจะยาก เพราะด้วยความที่เมนูอาหารของร้านถูกปากทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมาก ทำให้ต้องจองคิวกันเป็นเดือนๆ เอาเป็นว่านอกจากวางแผนการเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว อย่าลืมวางแผนเรื่องการจองคิวล่วงหน้าที่นี่ https://inua.jp/en/reservations/?fbclid=IwAR2p-USLwOnfXOtJjZwmhxCjYCcCKl60rQs5yP-YRq_phL0B7A6lrt-VJM8 กันด้วยนะ

 

เรื่อง/ภาพ : แพรว

 

 

 

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up