account_circleสาวแรก หรือจะเรียกว่า ‘เด็กสาว’ เพราะเพิ่งอายุ 14 เท่านั้น พลอย-ศรนรินทร์ ที่ก้าวเข้ามารับบทนำเต็มตัวครั้งแรก กับบท “ฝ้าย” สาววัยรุ่นละแวกวัดที่การโหยหาความรักและความตื่นเต้นให้กับชีวิตตัวเองได้นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เกินเลยขอบเขตกับ “เณรซัน” (แน็ก-ชาลี ปอทเจส) และนั่นนำพาให้ทั้งคู่ต้องไปเกี่ยวข้องกับความลับดำมืดของคนในวัดอย่างไม่คาดฝัน โดยสาวพลอยพูดถึงบทบาทของเธอว่า
“ในเรื่อง ‘อาบัติ’ พลอยรับบทเป็น ‘ฝ้าย’ ค่ะ คาแรคเตอร์ก็จะเป็นวัยรุ่น มีความคิดเป็นของตัวเองสูง ภายนอกดูเรียบร้อย แต่ลึกๆ ก็อยากรู้อยากลอง อยากหาสิ่งตื่นเต้นที่ไม่เคยเจอในชีวิต ฝ้ายอาศัยอยู่กับคุณยายซึ่งชอบไปวัดทำบุญ เลยต้องตามยายไปด้วย ทำให้รู้จักกับ ‘เณรซัน’ ซึ่งอายุใกล้เคียงกัน ทำให้สนิทสนมกัน จนนำไปสู่เหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึงในตัวเขา โดยมีเรานี่แหละที่มีส่วนทำให้เขาประพฤติผิดวินัย
“ครั้งแรกที่ได้อ่านบท พลอยว่าเนื้อหาของเรื่องโดดเด่นมากนะคะ อ่านแล้วชอบเลยละ ถึงบทจะค่อนข้างแรงก็จริง แต่มันก็มีเหตุและผลของตัวละครที่ทำสิ่งต่างๆ ซึ่งนอกเหนือจากความสนุกของเรื่องราวในหนังแล้ว พลอยคิดว่าผู้ชมก็จะได้ข้อคิดในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ การยับยั้งชั่งใจ แล้วก็ผลของการกระทำที่เกิดขึ้นค่ะ อยากให้ทุกคนได้ดูค่ะ”
สำหรับใครที่กำลังคิดว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ขอบอกว่าเธอเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว มีผลงานละครมาหลายเรื่อง ส่วนมากเป็นนางเอกในวัยเด็ก มีทั้งแนวจักรๆ วงศ์ๆ อาทิ เรื่องพระทิณวงศ์, สังข์ทอง บุญผ่อง ช่องไทยพีบีเอส,เรือนกาหลง ช่อง7, คู่ปรับสลับร่าง ช่อง 3, ภาพยนตร์สั้น “Hello Stranger (เฮลโหล สเตรนเจอร์) ตอน คนแปลกหน้า”, ภาพยนตร์ “Single Lady (ซิลเกิ้ล เลดี้) เพราะเคยมีแฟน” ขณะที่ผู้กำกับของเรื่อง ฝน-ขนิษฐา ต้องถือว่า ‘หน้าใหม่’ ของจริง เพราะเพิ่งชิมรางงานกำกับหนังใหญ่ครั้งแรก โดยเธอยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นเรื่องบาปบุญคุณโทษและผลของการกระทำ อันผิดชอบชั่วดี ไม่มีเจตนาที่จะหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด
“จุดประสงค์ในการทำภาพยนตร์เรื่อง ‘อาบัติ’ ฝนเพียงมุ่งเน้นที่จะนำเสนอเรื่องราวของบาปบุญคุณโทษและผลของการกระทำที่นำ ไปสู่บาป ในรูปแบบความบันเทิงแนวหนังผีระทึกขวัญพร้อมสอดแทรกประเด็นดังกล่าวให้กับผู้ชม การคัดเลือกนักแสดง เราคัดเลือกจากความเหมาะสมในบทบาทของตัวละคร และความสามารถของนักแสดงเพียงเท่านั้น ซึ่งหน้าหนังที่ออกมาอาจจะดูแรงเกินไป แต่บทสรุปของเรื่องนี้จะตอบคำถามของหน้าหนังทั้งหมด
“ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะพิพาทใคร เพียงอยากให้หนังเป็นแรงสะท้อนกลับไปว่าบาปบุญหรือกรรมเวรที่ปัจจุบันเราหาตัวตนของมันยาก สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้มันกลับฝังอยู่ในตัวตนของพวกเรามาตลอด แค่เพียงเราเรียนรู้และยอมรับมัน ตัวอย่างหนังนำเสนอแค่เพียงเหตุ ส่วนผลของเหตุทั้งหมดอยู่ในหนังทั้งเรื่อง ฝนอยากให้ลองเปิดใจรับชมหนังเรื่องนี้ ก่อนตัดสินว่าหนังเป็นยังไงค่ะ”
ใครสนใจอยากพิสูจน์หน้าหนัง ‘อาบัติ’ แบบเต็มๆ พบกันในโรงภาพยนตร์ 15 ต.ค.นี้
ตัวอย่างภาพยนตร์