เริ่มต้นที่Minions แอนิเมชั่นที่คครองใจคนทั่วโลก ต้องบอกเลยว่าน่ารักหนักมากกก สำหรับภาคนี้เพราะจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าตัวเหลืองมินเนี่ยนแบบเต็มๆ (ไม่ต้องดู Desperate Me 1-2 ก็รู้เรื่องนะ แต่ถ้าเคยดูจะร้องอ๋อได้ในตอนท้ายเรื่อง) โดยหนังจะเล่าย้อนไปถึงจุดกำเนิดของพวกมันในยุคดึกดำบรรพ์ เมื่อเหล่ามินเนี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์ที่ต้องอยู่แบบมีนาย แถมนายของพวกมันต้องมีนิสัยร้ายกาจเท่านั้นด้วยนะ การออกตามหานายจึงเริ่มต้นขึ้น
แต่ก็เหมือนโชคร้ายที่พวกมันต้องเจอเรื่องวุ่นๆ ชวนให้เปลี่ยนนายอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งมาถึงยุค 60 พวกมันยังไม่มีนายใหม่ซะที เควิน บ๊อบ และสจ๊วต สามมินเนี่ยนตัวป่วนจึงขออาสาออกไปตามหานายใหม่มาให้ การผจญภัยในเมืองใหญ่จึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้ก็คือสการ์เล็ต โอเวอร์คิล วายร้ายหญิงที่โด่งดังสุดๆ นั่นเอง (แซนดร้า บลูล็อกให้เสียงพากย์ไว้ได้แซบจริงๆ)
ตลอดหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หนังทำให้เราเพลิดเพลินบันเทิงใจ และคลายเครียดได้เยอะมากจริงๆ ฉากสวยและเก็บรายละเอียดดี คาแร็กเตอร์มินเนี่ยนหลักทั้งสาม นัลร้ากกก น่าแอนดรูว์มาร์ค น่ากอดดด (โดยเฉพาะบ๊อบ) เชื่อว่าถ้าใครได้ดูจะต้องหลงรักพวกมันแน่นอน ที่สำคัญหนังยังฮาพอสมควร (สำหรับคนเส้นตื้น) อาจจะไม่ได้ตลกเว่อร์ แต่ก็ทำให้ยิ้มตามได้ในหลายๆ ฉาก
ที่ชอบสุดๆ เห็นจะเป็นช่วงเปิดเรื่องที่พาเราไปพบกับนายที่เหล่ามินเนี่ยนเคยอยู่ด้วยนี่แหละ เฮ้ย เข้าใจคิดนะ สำหรับในส่วนของการเดินเรื่อง กระชับฉับไวดี แต่พล็อตไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ ค่อนข้างเดาเรื่องง่ายตามสไตล์แอนิเมชั่นสำหรับเด็กทั่วๆ ไป ว่าแต่เราพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่เราดูหนังจบแล้วหลงรักเหล่ามินเนี่ยนเข้าอย่างเต็มเปา ยอมใจคนคิดคาแร็กเตอร์มินเนี่ยนเลย (8/10)
มาต่อกันที่เรื่องคนเหล็ก ‘Terminator Genisys มหาวิบัติจักรกลยึดโลก’ แรกๆ ที่เห็นตัวอย่างหนังต้องบอกว่า จัดเต็มจริง อะไรจริง นี่ขอไม่พูดถึงภาคเก่าก่อนเลยละกัน เนื่องจากภาคนี้ซึ่งได้ ผกก. จากซีรี่ส์ดัง Game of Throne มากำกับ โปรดอย่าเรียกว่าภาคต่อ ภาครีเมค หรือภาครีบูตเลย ต้องบอกว่านี่คือภาครีเซ็ตเรื่องราวคนเหล็กในไทมไลน์ใหม่ โดยหนังยังคงยึดตัวละครเดิมเอาไว้ แต่มีการแต่งเติมเสริมเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ใหม่ ขณะที่ตัวร้ายอย่างหุ่นเหล็กยังละม้ายคล้ายคลึงอัลตรอนใน Avengers ภาคล่าสุดแฮะ
หนังเปิดฉากโลกในยุคอนาคต ซึ่งถูกยึดครองโดยหุ่นเหล็ก ขณะที่เหล่ามนุษย์ถูกกดขี่ แต่แล้ววันหนึ่งกลับปรากฏผู้กล้านามว่า จอห์น คอนเนอร์ ที่มาปลุกระดมกลุ่มคนให้ลุกขึ้นมาไฝว้กับพวกผู้ร้าย และก่อนที่จะทุกอย่างจะพังพินาศลงไปมากกว่านี้ เขาได้ทำการส่งมือขวาอย่างไคล์ รีสกลับไปยังปี 1984 เพื่อปกป้องซาร่า คอนเนอร์ แม่ของจอห์น ไม่ให้ถูกคนเหล็กฝั่งผู้ร้ายตามฆ่าเธอสำเร็จก่อนที่เธอจะให้กำเนิดจอห์น นั่นก็เพื่อไม่ให้อนาคตเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่หารู้ไม่ว่า เธอเองก็มีคนเหล็กที่ถูกตั้งโปรแกรมให้เป็นฝั่งดีคอยปกป้องอยู่
ในส่วนของการแสดงของนักแสดงหลักทั้งสี่อย่างอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์กับบทคนเหล็กสูงวัย ใจดี แม้จะดูมีความเป็นมนุษย์มากไปหน่อย แต่ก็ถือว่าภาพลักษณ์คนเหล็กที่สั่งสมมาในอดีตช่วยเสริมให้บทบทของเขาดูมีน้ำหนักมากขึ้น ขณะที่นางเอกอย่างซาร่า คอนเนอร์ ซึ่งรับบทโดยเอมิเลีย คลาร์ก (นางเอก Game of Throne) ก็ขอมาแนวท้าชน ถือว่าสอบผ่านนะ แต่บทยังไม่บู๊สะใจอย่างที่ควรจะจัดเต็มได้มากกว่านี้ เช่นเดียวกับไคล์ รีสซึ่งรับบทโดยไจ คอร์ทนีย์ (ตัวร้ายจาก Divergent) ก็ยังดูเป็นพระรองอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่คือพระเอกนะ
อีกสองคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือฝั่งตัวร้ายอย่างจอห์น คอนเนอร์ที่รับบทโดยเจสัน คลาร์ก รายนี้เล่นดีอยู่แล้ว แต่ขัดใจอย่างหนึ่งคือคาแร็กเตอร์ในตอนแรก มองยังไงก็ดูร้ายน่ะ ทั้งๆ ที่ตอนแรกต้องเล่นเป็นคนดี ส่วนอีกคนคือหุ่นเหล็กหลอมละลายที่รับบทโดยลีบยองฮุน ก็ไม่มีไรมาก แค่มาเล่นรับเชิญในซีนต้นเรื่องเท่านั้น นอกจากนี้ในหนังยังแอบสอดแทรกกิมมิกที่เชื่อมโยงกับภาคเก่าก่อน แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร
ในส่วนของการเดินเรื่อง โอเคงานบู๊ต้องมา งานดราม่าต้องมี แต่ที่น่าสนใจดีคือการใส่ซีนโรแมนติกเข้ามาได้เข้ากับบางประเด็นในหนัง หากแต่เรื่องราวแอบชวนงงๆ ไปบ้างกับเรื่องไทม์ไลน์ และยังชวนให้นึกถึงหนังที่เล่าเรื่องแนวให้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตหลายๆ เรื่อง สรุปโดยรวมคือไม่ค่อยมีอะไรเซอร์ไพรส์ แอบเดาทางได้ง่าย ฉากบู๊ส่วนใหญ่โดนตัดมาให้เห็นในตัวอย่างเกือบหมดแล้วเลยไม่ค่อยตื่นตา นักแสดงนำบทยังไม่ส่งเท่าที่ควร แอบเนือยๆ บ้างบางช่วง แต่ถ้าใครชอบรื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับหนังที่เคยดูตอนเด็กๆ แล้วเขาเอามาทำใหม่ ก็จะซึมซับได้ถึงความคลาสสิกและเสน่ห์ของตัวหนังพอสมควร ว่าแต่…นี่เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่คนเหล็กกลายเป็นรุ่นปู่แล้ว (7/10)
เรื่อง : คิมคานา