10 คนดังสไตล์โดดเด่นในยุค Genderless Fashion กำลังเฟื่องฟู

10 คนดังสไตล์โดดเด่นในยุค Genderless Fashion กำลังเฟื่องฟู

Alternative Textaccount_circle

เพราะวลี “แฟชั่นไร้เพศ” กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทำให้ผู้คนยุคนี้สนุกกับการแต่งตัวที่ไม่มีขีดจำกัด แพรวจึงรวบรวม 10 คนดังที่โดดเด่นเรื่อง Genderless Fashion มาให้ชมกัน

Genderless Fashion

หลายคนอาจคิดว่าแฟชั่นไร้เพศนั้นเป็นเรื่องใหม่ แต่แท้จริงนักประวัติศาสตร์สังเกตว่า ในอดีตชายและหญิงแต่งตัวคล้ายกัน มาตรวัดเดียวที่มีคือความยาวของเสื้อคลุมที่บ่งบอกฐานะ แต่ช่วง ค.ศ. 1500 เริ่มมีการแบ่งเพศของเสื้อผ้าชัดเจนว่า ผู้ชายต้องใส่กางเกง ส่วนผู้หญิงควรใส่กระโปรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับอิสรภาพที่ทุกคนอยากได้รับ ทำให้มีการเรียกร้องสิทธิจนเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1800 ที่กลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรีเริ่มหันมาใส่กางเกงเพื่อให้สามารถทำในสิ่งที่ผู้ชายทำได้ แต่แล้วช่วง 1940 และ 1950 ความแตกต่างของเครื่องแต่งกายก็กลับมาเด่นชัดอีกครั้ง

จนกระทั่งปี 1960 และ 1970 แฟชั่นยูนิเซ็กกลายเป็นที่นิยม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟชั่นไร้เพศในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับมากขึ้น สังเกตได้จากชุดทักซิโด้ Le Smoking Tuxedo ของ Yves Saint Lauren สำหรับผู้หญิงในปี 1966 ไปจนถึงชุดกระโปรงของ Jean Paul Gautier สำหรับผู้ชายในปี 1985 ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการเปิดกว้างบนรันเวย์

TODAY

แน่นอนว่าปัจจุบันความสนุกในการแต่งตัวเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด เห็นได้จากเหล่าคนดังที่หยิบไอเท็มไม่ว่าจากคอลเล็คชั่นสุภาพสตรี หรือสุภาพบุรุษมาแมตช์เป็นลุคแสนสะดุดตาจนกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลบ่อยๆ เหมือนกับ 10 เซเลบริตี้ที่แพรวรวบรวมมาให้ชมมีทั้ง ประเทศไทย เกาหลีใต้ ไปจนถึงซีกโลกตะวันตก

RENJUN (NCT/NCT DREAM)

เริ่มต้นด้วยหนึ่งในสมาชิก NCT “เหรินจวิ้น” หรือ “อินจุน” สไตล์การแต่งตัวของเขาเรียกแสงแฟลชอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Airport Look ที่ไม่ว่าปรากฏตัวครั้งไหนก็มักเป็นที่พูดถึงจากการมิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มจาก Womenswear ได้อย่างลงตัว เช่น ลุคล่าสุดที่เขาถือกระเป๋า Lady Dior Art ผลงานจาก Duy Anh Nhan Duc ศิลปินชาวเวียดนาม แมตช์เข้ากับแจ็กเก็ตและกางเกงทวีตพร้อมเข็มขัดหนังสีขาวจากชาเนล สุดท้ายจึงคอมพลีตลุคด้วยรองเท้าบู๊ตส้นสูง รวมถึงลุคอื่นๆ เขายังสวมสร้อยคอไข่มุกเป็นเครื่องประดับ

TEN (NCT/WayV)

น้องเล็กผ่านไปแล้ว ถึงคราวพี่ใหญ่กันบ้าง เตนล์ถือเป็นอีกคนที่ไม่ว่าแต่งตัวแบบไหนก็มักได้ลุคสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นเราจึงได้เห็นเขาในหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะ หล่อเท่, ติสท์ๆ หรือเซ็กซี่ปนความเฟมินิน เหมือนกับในลุคชมแฟชั่นวีคที่เตนล์ปรากฏตัวในชุดซีทรูสีดำ มาพร้อมผ้าคลุมศีรษะ ซึ่งถือเป็นลุคที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ YSL ได้เป็นอย่างดี สมฐานะแอมบาสเดอร์ประจำแบรนด์

FELIX (Stray Kids)

ศิลปินคนต่อไปจะขาดคนนี้ไปไม่ได้กับ FELIX แร็ปเปอร์จากวง Stray Kids ที่สไตล์การแต่งตัวแสนโดดเด่นของเขาได้เข้าตาแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton จนได้รับแต่งตั้งให้เป็น Global House Ambassador อีกทั้งยังได้รับโอกาสให้ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ในคอลเล็คชั่น Fall 2024 และ Spring/Summer 2025 สำหรับการแต่งตัวของเขา เราจะเห็นการแมตช์เสื้อครอป กระโปรงทับกางเกง และเครื่องประดับไข่มุกอยู่บ่อยๆ ซึ่งถือเป็น Genderless Fashion

G-Dragon

คนที่ 4 ขอยกให้เจ้าพ่อแฟชั่นแห่งวงการ K-POP อย่าง G Dragon ที่เป็นถึงแอมบาสเดอร์คนแรกของ CHENEL ในประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เราได้เห็นเขาปรากฏตัวในเบลเซอร์ผ้าทวีต ปกคอเสื้อตกแต่งระบายเหมือนตุ๊กตา โบยักษ์ หรือเสื้อกลิตเตอร์อยู่เสมอ เรียกว่าเป็นหนึ่งตัวอย่างของบุคคลที่แต่งตัวด้วยนิยามคำว่า “แฟชั่นไรเพศ” ได้ดีทีเดียว

นะ Polycat

ในฝั่งเอเชีย ประเทศไทยของเราก็ไม่แพ้ใคร เพราะมีนักร้องนำจากวง Polycat นั่นคือ “นะ-รัตน จันทร์ประสิทธิ์” ที่ไม่ว่า On Stage หรือ Off Stage เขาก็สามารถครีเอทลุคออกมาได้น่าจับตามอง ไอเท็มที่เห็นเขาหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์อยู่บ่อยๆ มีทั้ง เสื้อลูกไม้ เดรสลายดอกไม้ เสื้อเชิ้ตขนนก สร้อยคอไข่มุก ไปจนถึงเสื้อถักโครเชต์ลายดอกไม้

Jeff Satur

เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินเจ้าของเพลงฮิตหลายเพลงก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เอาอยู่ทุกสไตล์ แม้กระทั่งความเฟมินินของถุงมือลูกไม้ สเวตเตอร์โครเชต์ ไปจนถึงปกคอเสื้อดีไซน์ระบายสุดน่ารัก เหตุเพราะการเปิดรับและสนุกกับแฟชั่นทุกรูปแบบของเขาจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมถึงคว้าตำแหน่งแอมบาสเดอร์ ประจำ Valentino ของประเทศไทยไปครองได้สำเร็จ

Alessandro Michele

สำหรับ Alessandro Michele ไม่ใช่เพียงหัวเรือใหญ่ของ Valentino (ปัจจุบัน) และ Gucci (อดีต) แต่เขายังเป็นผู้ผลักดัน Genderless Fashion ในแบรนด์หรู ที่เราเห็นได้จากงานออกแบบคอลเล็คชั่นแรกของเขาใน Gucci Fall/Winter 2015 ที่นายแบบสามารถสวมเดรสหรือกระโปรงได้ และผู้หญิงก็ยังสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ได้เช่นกัน รวมถึงเขายังนำดีเทลของแฟชั่นยุค Renaissance, Baroque และ Victorian ที่เคยใช้สำหรับผู้หญิง มาปรับให้เป็นแฟชั่นสำหรับทุกเพศ และอีกผลงานที่เด่นชัดที่สุด คือ Gucci ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่น “Mx” โดยใช้โมเดลเป็น androgynous และ Non-Bibary ในการเดินแบบ

Alessandro Michele (ขวา)
Alessandro Michele (ซ้าย)

Harry Styles

ถ้าพูดถึง Alessandro Michele แล้วไม่พูดถึง Harry Styles ก็คงแปลก เพราะเขาเป็นศิลปินที่ใกล้ชิดกับดีไซเนอร์ชื่อดังและร่วมงานกันมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งสไตล์ของเขามักประกอบไปด้วยไอเท็มแสดงถึง Soft Masculinity เช่น กางเกงขาบาน, กระโปรง, สูทลายดอกไม้, เสื้อคอระบาย, เครื่องประดับไข่มุก ทั้งนี้เขายังเคยได้เปิดเผยความคิดเกี่ยวกับการแต่งตัวไว้ว่า “Clothes are there to have fun with and experiment with and play with” – เสื้อผ้ามีไว้ให้สนุกด้วยการทดลองและเล่นไปกับมัน

Timothée Chalamet

แม้ Timothée Chalamet จะไม่ได้สวมเดรสหรือกระโปรงเหมือนคนอื่น แต่สไตล์ของเขายังผสมผสานดีเทลความเฟมินินในชุดผู้ชายไว้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่มีเลื่อมและกลิตเตอร์ หรือชุดเปิดหลังสีแดง Backless Halter Top จาก Haider Ackermaann ที่เขาใส่ใน Venince Film Festival 2022 จนกลายเป็นไวรัล ด้วยดีไซน์นี้จะพบบ่อยในเดรสผู้หญิงมากกว่า

Jaden Smith

ส่งท้ายด้วย Jaden Smith ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Louis Vuitton คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2016 Womenswear โดยลุคโดดเด่นที่เขาสวมใส่ในแคมเปญคือ กระโปรงพลีตสีดำ ซึ่งเป็นไอเท็มหลักประจำซีซั่น การปรากฏตัวของเขาครั้งนั้นจึงถือเป็นสัญญาณของการที่ผู้ชายใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงในวงการไฮเอนด์เป็นเรื่องปกติ

Jaden Smith (คนที่ 4 นับจากซ้าย)

ข้อมูล: beyondtalentrecruitment.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up