หรูหราสุดพลัง! ‘คาเทียร์’ เผยโฉม ‘นาฬิกา’ รุ่นคลาสสิกในรูปแบบใหม่

นาฬิกา จากคาร์เทียร์ถือเป็นเรือนเวลาที่มีดีไซน์หรูหราและแปลกใหม่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน คาร์เทียร์สานต่อจิตวิญญาณของนาฬิกาข้อมือคอลเล็คชั่นเบญนัวร์ (Baignoire) ซานโตส เดอ คาร์เทียร์ (Santos de Cartier) และปองแตร์ (Panthère) ด้วยการเปิดตัวโฉมใหม่ของนาฬิการุ่นคลาสสิกของคาร์เทียร์ทั้ง 3 คอลเล็คชั่น

นาฬิกาของคาร์เทียร์เน้นลายเส้นที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยสไตล์ที่งดงามและสานต่อเอกลักษณ์ของเรือนเวลาด้วยการผสานความประณีตและความหรูหราที่เป็นตำนานไว้อย่างลงตัว

ความตระการตาที่ถูกกำหนดไว้ด้วยประณีตศิลป์และแต่งแต้มด้วยความวิจิตรคอลเล็คชั่นนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดที่คาร์เทียร์นำมาจัดแสดงในงานนี้นั้น สรรสร้างขึ้นตามปรัชญาการผลิตนาฬิกาของเมซงคาร์เทียร์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์ นั่นคือความงามสง่าที่สะท้อนความเป็นสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ

 

งานออกแบบที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ : นาฬิกา ฝังอัญมณีที่รังสรรค์ดุจงานศิลป์ 

 

คอลเล็คชั่นคาร์เทียร์ลิเบรอ (Cartier Libre) : เมื่อหน้าปัดแปลกตามาประดับบนเรือนนาฬิกาคลาสสิก

คาร์เทียร์ลิเบรอ (Cartier Libre) เป็นนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีอย่างสมบูรณ์แบบ โดยตัวเรือนหน้าปัดวงรี (oval shape) ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด คาร์เทียร์ลิเบรอผลิตเป็นจำนวนจำกัดและมีการสลักหมายเลขประจำแต่ละตัวเรือน การเพิ่มลูกเล่นบนเรือนนาฬิกาตระกูลเบญนัวร์ (Baigniore) และแครช (Crash) ทำให้คาร์เทียร์ได้ก้าวออกจากแพทเทิร์นดั้งเดิม แทนที่ด้วยการออกแบบที่รุ่มรวย อัญมณีสูงค่าหลากชนิด และการใช้สีสันที่โดดเด่นตัดกัน

คาร์เทียร์ลิเบรอ (Cartier Libre) รังสรรค์อยู่ภายใต้แรงบันดาลใจที่จะเล่นกับรูปทรงคลาสสิกของเรือนนาฬิกา โดยหน้าปัดได้ถูกยืดหดหรือเปลี่ยนรูปทรงไปตามความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ จึงไม่แปลกใจนักที่นาฬิการุ่นคาร์เทียร์ลิเบรอ (Cartier Libre) ดึงดูดใจบรรดานักสะสมนาฬิกาและได้รับการยกย่องให้เป็นรุ่นที่ควรค่าแก่การสะสม

 

นาฬิกาคาร์เทียร์เรเวลาซิยง (Révélation) : นวัตกรรมทางเทคนิคปลุกชีวิตให้เสือแพนเธอร์โลดแล่น

คาร์เทียร์เรเวลาซิยง (Cartier Révélation) บรรจุกลิ่นอายของนาฬิการองเด หลุยส์ คาร์เทียร์ (Ronde Louis Cartier) หน้าดุดันของเสือแพนเธอร์โลดแล่นบนหน้าปัด ด้วยกลไกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาทราย เมื่อพลิกข้อมือทองเม็ดเล็กๆ จะประกอบขึ้นเป็นใบหน้าของเสือแพนเธอร์บนเรือนหน้าปัดอย่างอัศจรรย์ ก่อนจะเลือนหายไป และปรากฏอีกครั้งเมื่อพลิกข้อมือกลไกนี้เป็นเสมือนมนต์วิเศษของการผลิตนาฬิกาอันเป็นเอกสิทธิ์ที่คาร์เทียร์คงไว้นับตั้งแต่การกำเนิดของแบรนด์สืบทอดจนมาถึงปัจจุบัน

นาฬิการุ่นพิเศษนี้มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มาพร้อมหน้าปัดสีดำ เขียวและแดง เรือนนาฬิกาทำจากทองพิงค์โกลด์ฝังเพชรและเม็ดมะยมทำจากเพชร มรกต หรือทับทิมตามสีของหน้าปัดเรือนเวลา

 

นาฬิกาที่สะท้อนความเป็นสุภาพสตรี : ความอ่อนช้อยวิจิตรของนาฬิกาข้อมือในตระกูลปองแตร์

นาฬิกาข้อมือตระกูลปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthère de Cartier) ในปี 2018 ผสานสไตล์ที่สะท้อนความเป็นผู้หญิงไว้หลายจุด สวยงามด้วยสายข้อมือที่มีให้เลือกทั้งแบบพัน 2 รอบและ 3 รอบสื่อถึงความละเมียดละไมและแรงปรารถนาโดยสายทำมาจากทอง 3 ชนิด เยลโลโกลด์พิงค์โกลด์และไวท์โกลด์ ที่ผิวสัมผัสละมุนรับกับข้อมือได้เป็นอย่างดี นาฬิกาปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์มีหลากหลายรูปแบบ เฉกเช่น หน้าปัดฝังเพชรที่สะท้อนสไตล์วินเทจจากช่วงปี 1980

 

นาฬิกาแห่งความเป็นสุภาพบุรุษ : นาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ ตำนานคลาสสิกสู่ยุคปัจจุบัน

นาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1904 เพื่อผลิตขึ้นให้แก่ซานโตส-ดูมงต์ นักบินชื่อดังแห่งยุคสมัย นาฬิกาคอลเล็คชั่นนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานนาฬิกาของเมซงคาร์เทียร์และคาร์เทียร์ยังคงพัฒนานาฬิการุ่นนี้เพื่อให้เกิดความร่วมสมัยแต่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ ในรุ่นใหม่ในปี 2018 นี้ ผู้สวมใส่จะสามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของนาฬิการุ่นนี้เลยทีเดียว

ฝ่ายดีไซน์ของคาร์เทียร์ได้ออกแบบนาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ รุ่นใหม่ให้สวมใส่ได้สบายขึ้น แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิม ความสง่าในแบบสุภาพบุรุษไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือการใช้สกรู 8 ตัวเพื่อยึดหน้าปัดกับตัวเรือน นอกจากนี้ยังปรับกรอบนาฬิกาให้รับกับลายเส้นบนตัวเรือนและสายนาฬิกามากยิ่งขึ้น ซึ่งลายเส้นเพรียวบางนี้จึงทำให้นาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์มีความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังกระชับกับข้อมือของผู้สวมใส่แต่ละท่านโดยใช้การคำนวนอย่างแม่นยำตามหลักสรีรศาสตร์

นาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์รุ่นใหม่นี้ใช้นวัตกรรมสายนาฬิกาข้อมือแบบใหม่ที่ออกแบบให้ทันสมัยมากขึ้น นวัตกรรมคาร์เทียร์ ควิกสวิตช์ (Car­tier QuickSwitch system) อำนวยให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนสายได้ตามต้องการ โดยมีสายให้สั่งเพิ่มตามแต่ความชอบ ไม่ว่าจะเป็นสตีล ทอง หนังลูกวัวและหนังจระเข้ โดยกลไกของระบบนี้ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับโครงสร้างตัวเรือนอย่างแนบเนียน (อยู่ในระหว่างกระบวนการจดสิทธิบัตร) คุณสมบัติใหม่อีกประการหนึ่ง คือคุณสมบัติสมาร์ทลิงก์ (SmartLink) ที่สามารถปรับความยาวของสายโลหะให้พอดีกับข้อมือได้ด้วยตัวเองโดยมิต้องใช้เครื่องมือช่วยใดๆ (อยู่ในระหว่างกระบวนการจดสิทธิบัตร)