- Page 22 of 56

ปวดหัว “ไมเกรน” สามารถกินยาแก้ปวดธรรมดาได้หรือเปล่า ควรเช็คตามลิสต์นี้

ก่อนหน้านี้เคยเฉลยเรื่องที่หลายคนสงสัยว่าสรุปกินยา ไมเกรน ก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หรือไม่ เส้นเลือดจะหดตัวหรือเปล่า? รอบนี้จะมาพูดถึงเรื่องหากเวลาปวดหัวไมเกรน สามารถกินยาแก้ปวดธรรมดาที่มีติดบ้านได้หรือเปล่า จะช่วยบรรเทาได้หรือไม่ เพราะอาการปวดศีรษะไมเกรน คืออาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง ที่บริเวณด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งมักปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำๆ และมักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน รวมถึงความรู้สึกไวต่อแสงและเสียง อาการไมเกรนสามารถอยู่ได้นานหลายชั่วโมงต่อวัน อาการปวดอาจรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หากละเลยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้น ความถี่เพิ่มขึ้น ตอบสนองต่อยาที่รักษาได้ไม่ดีนัก แม้ว่าจะได้รับยาลดอาการปวดหลายชนิดก็ตาม ซึ่งคำถามที่ว่าปวดหัว “ไมเกรน” สามารถกินยาแก้ปวดธรรมดาได้ไหม ควรเช็คตามนี้ หากปวดไม่ถี่มาก (เช่น น้อยกว่า 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) สามารถรับประทานยาแก้ปวดเองได้ ควรกินยาแก้ปวดตั้งแต่เริ่มมีอาการเนิ่นๆ ในแต่ละครั้งหากทิ้งไว้นาน มักได้ผลไม่ดี ยาแก้ปวดที่สามารถรับประทานเองได้ เช่น พาราเซตามอล, ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) โดยระมัดระวังการแพ้ยา ส่วนยาแก้ปวดกลุ่มที่ออกฤทธิ์แรง (เช่นยากลุ่มเออร์โกตามีน ยากลุ่มทริปแทน ยาทรามาดอล เป็นต้น) ไม่ควรซื้อมาใช้เอง เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สังเกตอาการ เมื่อปวดถี่เกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อเนื่อง ไม่ควรกินยาแก้ปวดเอง เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงจากยา […]

อิ่มบุญด้วยการ “กินเจ” อย่างไรให้สุขภาพดี ได้สารอาหารครบถ้วน แถมไม่อ้วนด้วย

การ “กินเจ” เป็นการงดทานเนื้อสัตว์และผักมีกลิ่นบางชนิด นอกจากจะได้บุญ ลดการเบียดเบียนชีวิตสัตว์แล้ว หลายคนอาจคิดว่าเป็นการรักษาสุขภาพร่างกายไปด้วยในตัว เพราะเป็นการงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ แต่หลายคนก็มักบ่นว่า ต้องน้ำหนักขึ้นแน่นอน เพราะมีแต่เมนูแป้ง โปรตีนเกษตรผสมแป้ง อาหารประเภทผัดและทอด ทำให้หาของกินลำบาก แต่อันที่จริงแล้ว การเลือกกินอย่างถูกหลักการ ผสมผสานการออกกำลังกาย ก็ไม่ต้องกังวลว่าเราจะอ้วนนะคะ ทริคกินเจอย่างไรให้หุ่นลีนและเฟิร์ม อย่างที่บอก หากไม่ระมัดระวังในการเลือกอาหารเจรับประทาน อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าได้ประโยชน์ เพราะอาจเจออาหารเจที่ให้พลังงานสูง หรือมีไขมันสูงมาแทน อ.พญ.สมกัญญา ตั้งสง่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงมีคำแนะนำในการกินเจอย่างไรให้ได้สุขภาพที่ดีอย่างใจหวังมาฝากกัน “กินเจ” อย่างไรให้สุขภาพดี ได้สารอาหารครบถ้วน แถมไม่อ้วนด้วย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานโปรตีนดี เช่น เต้าหู้ เห็ด ถั่ว ควินัว หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด เน้นทานแบบ นึ่ง ต้ม ตุ๋น ลดอาหารแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ เพราะมีโซเดียมสูง เลือกรับประทานผักและผลไม้สดให้ได้มากที่สุด ลดการรับประทานผักผลไม้ดอง ควรพยายามทำอาหารรับประทานเองให้ได้มากที่สุด หรือเลือกซื้อจากร้านที่สะอาด ไม่ปรุงรสหวาน […]

เช็คเลย “ตกขาว แบบไหนไม่ธรรมดา” อย่าปล่อยไว้ไม่ไปหาหมอเพราะความอาย!!

วันนี้มีบทความดีๆ มีประโยชน์ แต่สาวๆ หลายคนมักมองข้ามหรือไม่ให้ความสำคัญมาฝากค่ะ เรื่องของ ตกขาว หรือระดูขาว เป็นของเหลวที่ถูกขับออกจากช่องคลอดของผู้หญิงทุกคน ซึ่งปกติจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องเจอกับตกขาวผิดปกติและปล่อยไว้ไม่ไปหาหมอเพราะความอาย!! ตกขาว แบบไหนต้องไปหาหมอ ปริมาณตกขาวของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องเปรียบเทียบกับตัวเอง ว่าแต่เดิมเคยมีปริมาณตกขาวช่วงก่อนมีรอบเดือน กลางรอบเดือน และหลังรอบเดือนเป็นอย่างไร หากมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณมากขึ้นจนผิดสังเกต ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นการตกขาวผิดปกติ ลักษณะเปลี่ยนไป ปกติตกขาวจะเป็นน้ำขุ่นๆ แปรตามช่วงรอบเดือน โดยช่วงก่อนและหลังประจำเดือนจะขุ่นมากกว่าช่วงกลางรอบเดือน แต่ถ้าตกขาวมีลักษณะขุ่นมากขึ้น จนบางครั้งอาจข้นเหมือนแป้งเปียกหรือคราบนม ตกขาวนี้อาจเกิดจากเชื้อรา สี โดยทั่วไปควรเป็นสีขาวขุ่น อาจมีเหลืองนวลๆ หรือขาวเหลืองนิดๆ แต่ถ้าเริ่มเหลืองเขียว ออกเป็นหนอง ถือว่าไม่ปกติ ตกขาวสีเหลือง เกิดจากติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด มักมีสีเหลืองแต่ไม่ข้นมาก บางครั้งมีฟอง มีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ส่วนใหญ่เกิดจากโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์หรือจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หรืออุปกรณ์ทางเพศ เป็นต้น ตกขาวสีเหลืองหรือสีขาวขุ่น มีสาเหตุมาจากเชื้อรา ลักษณะตกขาวมีความข้น กลิ่นคล้ายนมบูดเมื่อปัสสาวะจะมีอาการแสบคัน เพราะช่องคลอดเกิดการระคายเคือง อาจลุกลามจนเกิดอาการแสบแดงบริเวณขาหนีบ ตกขาวลักษณะนี้มักเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะหรือในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น ตกขาวสีเขียว เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโรค เช่น โรคหนองใน เป็นต้น ตกขาวมีสีเขียวหรือสีเหลืองปนเขียว มีกลิ่นเหม็นคาวปลา บางรายมีอาการคันและปวดแสบขณะปัสสาวะ ตกขาวสีน้ำตาล ส่วนใหญ่เกิดจากผนังมดลูกลอกตัวช้า มักพบหลังจากมีประจำเดือน ซึ่งในช่วงที่มีประจำเดือนผนังมดลูกยังไม่ทันลอกตัวหมด หรือบางทีไม่ลอกตัวออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้ตกขาวกลายเป็นสีน้ำตาล […]

อีกหนึ่งทางเลือก วิธีตรวจคัดกรองยีน BRCA ดูปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็น “มะเร็งเต้านม”

ทุกวันที่ 7 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันมะเร็งเต้านมสากล” โดยโรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลงานวิจัยความถี่ของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงนั้น ในเอเชียจะพบได้ประมาณ 18-26 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และในรายงานจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าโรคมะเร็งเต้านมเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในหญิงไทย โดยคิดเป็น 28.6 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และส่งผลให้มะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตในกลุ่มโรคมะเร็ง ดร. พงศธรณ์ ไชยทรัพย์ ผู้จัดการด้านอณูพันธุศาสตร์ ห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลาร์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) ให้ข้อมูลว่า ยีน BRCA1 และ BRCA2 เป็นยีนที่อยู่ในกลุ่มสร้างโปรตีนช่วยซ่อมแซม DNA จึงมีบทบาทช่วยให้ DNA ในเซลล์มีความเสถียร เมื่อมีการกลายพันธุ์ (Mutation) ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 อาจส่งผลให้เซลล์มีโอกาสเกิดความผิดปกติของพันธุกรรมได้สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การกลายเป็นมะเร็ง โดยพบว่าการกลายพันธุ์ของยีน BRCA มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่แบบถ่ายทอดทางพันธุกรรม สำหรับโอกาสที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งเต้านมในคนปกติมีประมาณ 12% (120 คนในประชากร 1,000 คน) แต่ในกลุ่มที่มีความผิดปกติของยีน BRCA1 หรือยีน BRCA2 จะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมถึง 60% (600 คนในประชากร 1,000 คน) ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีประวัติทางครอบครัวหรือมีญาติเป็นโรคนี้ เป็นผู้ป่วยที่เป็นทั้งมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ มีญาติเป็นมะเร็งตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป เป็นต้น การตรวจการกลายพันธุ์ในยีน BRCA1 และ BRCA2 จึงเป็นทางเลือกในการดูปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่สามารถทำได้ก่อนที่จะเกิดโรค ยีน BRCA1 […]

5 สารธรรมชาติ ช่วยป้องกันการติดเชื้อผ่านทางลำคอ

“หมอท๊อป” หรือ “นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน” อาจารย์ศัลยแพทย์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้าได้เผยแพร่คลิปให้ความรู้เกี่ยวกับ “5 สารธรรมชาติที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อผ่านทางลำคอ” ผ่านทางช่องยูทูป Doctor Top โดยระบุข้อความในวีดีโอคลิปว่า เรื่องการติดเชื้อในลำคอไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ หลายคนก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ทราบหรือไม่ว่ามีสารธรรมชาติบางชนิดที่จะช่วยลดการติดเชื้อที่ลำคอได้ด้วย และสารชนิดนี้จะมีอะไรบ้าง หาคำตอบไปพร้อมๆ กันกับ 5 สารธรรมชาติลดการติดเชื้อที่คอ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับภูมิคุ้มกันของคนเราก่อน แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ภูมิคุ้มกันส่วนแรกคือ เกราะป้องกันต่างๆ ที่เราเห็นจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นเยื่อบุจมูก เนื้อเยื่อบุคอ เนื้อเยื่อบุช่องปาก เรียกว่าเป็นปราการด่านแรก ถ้าปราการด่านแรกเราดี เราก็สามารถที่จะลดโอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด หรือแม้แต่โควิดก็ตาม ก็มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าคนอื่น ถ้าภูมิคุ้มกันเบื้องต้นเราดี ภูมิคุ้มกันส่วนที่ 2 คือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้น จากการทานอาหารถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ ภูมิคุ้มกันเหล่านี้ที่อยู่ในร่างกาย ก็จะช่วยป้องกันอีกส่วนหนึ่ง ภูมิคุ้มกันส่วนที่3 คือการได้รับวัคซีนต่างๆ ที่ตรงกับโรคนั้นๆ เช่น เวลามีไข้หวัดใหญ่ก็ต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามแต่ละสายพันธุ์  เป็นโควิดก็ต้องฉีดวัคซีนโควิด ให้ตรงกับโควิดแต่ละสายพันธุ์ และ […]

9 โรคติดต่อและอันตรายที่มาจาก “น้ำท่วม” และวิธีป้องกันเบื้องต้น

ตอนนี้สถานการณ์น้ำท่วมไม่สู้ดีนักในหลายพื้นที่ ประชาชนหลายจังหวัดทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางเผชิญกับภัยน้ำท่วม รวมถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ได้ออกมาเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนในพื้นที่ 7 เขต ได้แก่ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และคลองสาน เตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูงแล้ว 9 โรคติดต่อและอันตรายที่มาจาก “น้ำท่วม” และวิธีป้องกันเบื้องต้น ดังนั้น นอกจากการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และในพื้นที่เสียงควรเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง ประชาชนในหลายจังหวัดที่กำลังเผชิญกับภัยน้ำท่วม ต้องระวังเรื่องโรคติดต่อและอันตรายที่มาจากน้ำท่วม และนี่คือ 9 โรคเสี่ยงในภาวะน้ำท่วม พร้อมวิธีป้องกันเบื้องต้น 1.โรคน้ำกัดเท้าจากเชื้อราและแผลพุพองเป็นหนอง เกิดจากการย่ำน้ำหรือแช่น้ำที่มีเชื้อโรคหรืออับชื้นจากเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ไม่สะอาดเป็นเวลานาน โดยจะมีอาการเท้าเปื่อย เป็นหนอง และเริ่มคันตามซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย จากนั้นผิวหนังจะพุพอง นิ้วเท้าหนาและแตก มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนคือผิวหนังอักเสบ ป้องกันด้วยการเช็ดเท้าให้แห้ง หากมีบาดแผลควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดแล้วทาด้วยยาฆ่าเชื้อ 2. โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อได้ทุกเพศทุกวัย แพร่กระจายในลมหายใจ เสมหะ น้ำลาย อาการมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ไอจาม อ่อนเพลีย ป้องกันด้วยการใช้ผ้าปิดปากเวลาไอจาม […]

“หินปูนในหูหลุด” คืออะไร? อาการหลัง “ตู่ ปิยวดี” สลบศีรษะฟาดพื้น จนถูกหามส่งร.พ.

เมื่อวานนี้ทางผู้จัดคนเก่ง “ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์” ได้อัพเดตอาการ หลังถูกหามส่งโรงพยาบาล ตั้งแต่ช่วงวันที่ 29 กันยายน 2564 โดยเจ้าตัวเผยว่า “ที่หายไปหลายวัน ไม่ได้ไปไหน อยู่ที่โรงพยาบาลตลอดเลย ซึ่งสาเหตุที่ป่วยในครั้งนี้ เริ่มจากมีอาการแพ้ยา ทำให้ความดันตกจนวูบหมดสติล้มหัวฟาดพื้น และ หินปูนในหูหลุด จนบ้านหมุน ส่วนตอนนี้หมอพยายามเอาหินปูนกลับเข้าที่ ซึ่งยังเข้าที่ได้ไม่ดีนัก จึงยังกลับบ้านไม่ได้” ทำเอาเหล่าแฟนคลับเป็นห่วงกันยกใหญ่ และเชื่อว่าหลายคนต้องสงสัยแน่ว่า “หินปูนในหูหลุด“ คืออะไร เราจะมาทำความรู้จักกัน โดยชื่อเต็มของโรคนี้คือ โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือโรค BPPV (Benign Paroxysmal Positional Vertigo) บางคนอาจเคยมีอาการวิงเวียนศีรษะ โคลงเคลง หรือที่เราเรียกกันว่า “บ้านหมุน” กันอยู่บ้าง ซึ่ง “โรค BPPV” ก็อาจเป็น 1 ในสาเหตุของอาการดังกล่าวได้ ภายในหูชั้นในจะมีอวัยวะควบคุมการทรงตัว ได้แก่ Utricle, Saccule และ Semicircular canal ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับท่อครึ่งวงกลม ในส่วน utricle จะมีตะกอนหินปูน (Otoconia) […]

เปิดเทรนด์บิวตี้มาแรง “ยกกระชับใบหน้าด้วย โบทูลินัม ท็อกซิน Dysport” by หมอขนม

หากจะพูดถึงตัวช่วยแห่งแวดวงบิวตี้ “โบทูลินัม ท็อกซิน” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ซึ่งอยู่เคียงคู่กับสาวๆ มานานนับทศวรรษแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับความดีงามของโบทูลินัม ท็อกซินที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน แถมยังถือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงสำหรับสาวๆ ยุคนี้เลยก็ว่าได้ นั่นคือ “การยกกระชับใบหน้าด้วยโบท็อกซ์ Dysport” ซึ่ง “หมอขนม” หรือ “พ.ญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์” แพทย์ความงามชื่อดังแห่ง Roselin Wellness Center ได้เล่าให้ แพรว ฟังว่า “อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าโบทูลินัม ท็อกซินโดดเด่นในการช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้กระชับ รวมถึงช่วยลดกรามและปีกจมูกให้เล็กลง แต่ปัจจุบันโบท็อกซ์ได้พัฒนาไปอีกระดับ เรียกว่า โบทูลินัม ท็อกซิน Dysport ซึ่งสามารถช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความสนใจจากบุคคลในวงการความงาม รวมถึงสาวๆ ที่รักสวยรักงามเป็นอย่างมาก” แค่เกริ่นยังดูน่าสนใจขนาดนี้ เอาเป็นว่าตามไปรู้จักกับ “การยกกระชับใบหน้าด้วยโบทูลินัม ท็อกซิน Dysport” แบบเต็มๆ จากคุณหมอขนม แห่ง Roselin Wellness Center กันเลยค่ะ เปิดเทรนด์บิวตี้มาแรง “ยกกระชับใบหน้าด้วย โบทูลินัม ท็อกซิน Dysport” […]

เช็ค อาหารต้องห้าม ของคนมีโรคประจำตัว กินดีได้ยา กินไม่ดีได้โทษ!

อาหารที่เราทานกันทุกวัน นอกจากจะให้พลังงาน และสารอาหารที่จำเป็น รวมถึงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำหน้าที่เสมือนยารักษาโรคแล้ว ในบางครั้งก็กลับจะให้โทษได้เหมือนกันนะคะ หากว่าเราทานอาหารนั้นๆ ไม่ถูกจังหวะ โดยเฉพาะในช่วงที่สุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายอ่อนแอ โรคภัยถามหา ก่อนจะทานอะไรคงต้องเลือกกันซักหน่อย วันนี้มาดูกันค่ะว่าเวลาป่วย หรือใครที่มีโรคประจำตัว มี อาหารต้องห้าม หรือเมนูอะไรที่เราควรหลีกเลี่ยงกันบ้าง กินดีได้ยา กินไม่ดีได้โทษ! เช็ค อาหารต้องห้าม ของคนมีโรคประจำตัว ไมเกรน ปวดหัวจี๊ดๆ ข้างเดียวเป็นประจำ ควรงดเมนูขนมหวาน ขนมเค้ก ชานม น้ำผลไม้หวานๆ น้ำอัดลม เพราะอาหารหวานที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะทำให้น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ จะเพิ่มสูงขึ้น และลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโรคไฮโปโกลซีเมียหรืออาการที่น้ำตาลในเลือดต่ำได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนค่ะ นอกจากนั้นยังควรลดปริมาณการทานเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เพราะโปรตีนจากเนื้อสัตว์เหล่านี้มักมีสารพิษตกค้างจากฮอร์โมนต่างๆ ในกระบวนการเลี้ยง ทั้งยังมีกรดแอมิโนไทโรซิน ที่ทำให้ปวดหัวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อาการข้ออักเสบ ปวดข้อ ปวดเข่า จะลุกนั่งก็ลำบาก ลองงดน้ำแข็ง อาหารเย็นๆ ดูค่ะ เพราะความเย็นจะทำให้กระเพาะอาหารของเราทำงานหนักขึ้น และระบบไหลเวียนของเลือดยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ที่สำคัญ ควรลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องใน […]

แพทย์ผิวหนังชี้การ ‘ฉีดสารแปลกปลอม’ เข้าสู่ผิวหนัง อาจเกิดอันตรายได้

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ชี้ผลข้างเคียงจากการฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ผิวหนัง เนื่องจากปัจจุบันได้มีความนิยมในการฉีดสารเติมเต็มหรือ ฉีดสารแปลกปลอม เข้าสู่ผิวหนังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้หากใช้ผิดวัตถุประสงค์ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีความนิยมในการ ฉีดสารเติมเต็ม หรือสารแปลกปลอมเข้าสู่ผิวหนังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อเสริมความงาม โดยที่สารแปลกปลอมนั้นอาจเป็นสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สำหรับ “ทา” ที่ผิวหนังชั้นบน แต่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ด้วยการนำไปฉีดเข้าผิวหนัง หรือสารที่ใช้สำหรับ “ฉีดเข้าหลอดเลือด” โดยตรง ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมา ดังนี้ แพทย์ผิวหนังชี้การ ‘ฉีดสารแปลกปลอม‘ เข้าสู่ผิวหนัง อาจเกิดอันตรายได้ 1. เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง มีอาการผิวหนังบวม แดง กดเจ็บที่ผิวหนัง หรือเป็นหนอง อาจเกิดขึ้นทันทีภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการฉีด หรืออาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว 2. เกิดก้อนที่ใต้ชั้นผิวหนัง ที่เรียกว่า กรานูโลม่า (Granuloma) มีอาการบวมเป็นก้อน อาจมีหรือไม่มีการอักเสบร่วมด้วยก็ได้ 3. เกิดภาวะตีบตันของเส้นเลือด อาจมีอาการปวดหรือชา ที่บริเวณที่ได้รับการฉีด หรือบริเวณใกล้เคียง 4. บริเวณที่รับการฉีดมีสีผิดปกติ อาจม่วงช้ำ หรือขาวซีด 5. มีอาการแสบ […]

3 เฮลท์กูรู แนะวิธีดูแลสุขภาพแบบ Healthy Inside Out ป้องกันโรคก่อนเกิด

3 เฮลท์กูรู แนะวิธีดูแลสุขภาพแบบ Healthy Inside Out ป้องกันโรคก่อนเกิด หมอตั้ม-นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข หมอหนุ่มสุดหล่อจากรายการ Master Chef Thailand และเจ้าของเพจดูแลสุขภาพชื่อดัง EAT Matters : by หมอตั้ม มาร่วมพูดคุยเคล็ดลับดูแลสุขภาพกับ ภญ.พิพรรษา แววหงษ์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์ และคุณอรพรรณ พงศ์พานิช Head of Customer Experience บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย มาแนะนำ New Medicine Service อัปเกรดบริการการให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์ โดยผลสำรวจโดยกรมควบคุมโรค เผยว่า 5 อันดับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยในยุคปัจจุบัน ได้แก่ 1) โรคความดันโลหิตสูง 2) โรคเบาหวาน 3) โรคหลอดเลือดสมอง 4) โรคหลอดเลือดหัวใจ 5) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดปกติ จนกลายเป็นภัยเงียบและปัญหาเรื้อรัง นอกจากนี้ […]

เช็ค 5 โรคอันตราย ภัยจาก WFH นั่งๆ นอนๆ เกิดเป็น “ภาวะขี้เกียจไม่เคลื่อนไหว”

ทำงานอยู่ที่บ้าน นั่งๆ นอนๆ เพราะเราสามารถทำตัวตามสบายได้ นั่งก็อาจนั่งเลื้อยๆ อยากนอนได้ก็นอน นั่งๆ นอนๆ อยู่แบบนี้เคลื่อนไหวน้อย วันๆ หนึ่งคงเดินไม่กี่ก้าว สภาพนี้เรียกกันว่า Inactivity ซึ่งก็คือ ภาวะขี้เกียจไม่เคลื่อนไหว กลายเป็นพฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary behavior) เป็นการวัดพลังงาน-อัตราการเผาผลาญในร่างกายที่เกิดขึ้นน้อยมาก ซึ่งเรียกว่า ค่า MET (Metabolic Equivalent of task )ถ้าค่านี้น้อยกว่า 1.5 MET ก็คือพฤติกรรมเนือยนิ่ง คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้อธิบายความหมายเพิ่มเติมของค่า MET ว่า “ค่า MET คือการใช้พลังงานในการทำกิจกรรมทางกาย (Physical Activity) เปรียบเทียบกับการใช้พลังงานขณะนั่งนิ่งๆ ซึ่งภาวะนี้ เมื่อสะสมนานจะทำให้ร่างกายทุกระบบย่ำแย่ เนื่องจากร่างกายต้องการการเคลื่อนไหว การขยับ ทำให้กล้ามเนื้อได้ทำงาน เพื่อให้เกิดการไหลเวียน และเป็นการกระตุ้นทุกระบบ […]

สูตินรีแพทย์ห่วงหญิงไทยเสี่ยงโรค “ช็อกโกแลตซีสต์” ย้ำไม่หายขาด อาจเป็นซ้ำ

สูตินรีแพทย์ชื่อดัง ร่วมวงเสวนา ‘Expert Treat Expert Talk’ ออกโรงเตือนผู้หญิงไทยจำนวนมาก มีโอกาสเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ ถ้ามีสัญญาณอันตราย เช่น อาการปวดท้องน้อยอย่างต่อเนื่อง รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย ระบุเป็นภาวะเรื้อรังเสี่ยงเกิดซ้ำได้อีกแม้ผ่าตัดแล้ว พร้อมเปิดตัว Endo Diary แอปพลิเคชันบันทึกช่วยจำสำหรับผู้ป่วย เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดียิ่งขึ้น ‘โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่’ เป็นโรคที่ผู้หญิงไทยเป็นกันไม่น้อยและวิตกกังวลเกี่ยวกับการรักษา โดยสูตินรีแพทย์ชื่อดัง 3 ท่าน มาร่วมพูดคุยประเด็นนี้ว่า นพ.อรัณ ไตรตานนท์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ผู้หญิงทุกคนต้องหมั่นสังเกตตัวเองเสมอ เพราะคนไข้ส่วนใหญ่ที่พบมักมีความเข้าใจผิด คิดว่าการที่ประจำเดือนไม่มาเป็นเรื่องไม่ดี หรือเมื่อไม่มีอาการปวดแล้วก็มักจะไม่มาพบแพทย์ตามนัด แต่จริงๆ การไม่มีประจำเดือนที่เกิดจากการรับประทานยาเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้ และแม้ว่าจะไม่มีอาการปวดแล้วก็ควรจะมาพบแพทย์ตามนัด เนื่องจากอาจมีโรคแทรกซ้อนอยู่ ขอย้ำว่าโรคนี้ป้องกันอาการรุนแรงได้ด้วยการทานยา ให้รีบมารักษาแต่เนิ่นๆ หากปล่อยไปอาจเกิดโรคอื่นตามมา เช่น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ฯลฯ สำหรับยาหลักๆ ที่แพทย์ใช้รักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก็คือ กลุ่มเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสติน (Progestin) โดยทั่วไปอยู่ในรูปของยาเม็ดคุมกำเนิดหรือยาฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งที่ผ่านมาเกิดความเข้าใจผิดว่าเมื่อทานยาฮอร์โมนแล้วจะมีบุตรยากหรือยาไปกระตุ้นเซลล์จนเกิดเป็นเนื้องอก แต่จากรายงานผลศึกษาทั้งในและต่างประเทศพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน “กรณีคนไข้เข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่แล้ว 90% ดีขึ้น แต่หลายครั้งรอยโรคยังอยู่ แต่คนไข้กลับเลิกกินยา ทำให้ถุงน้ำรังไข่ ช็อกโกแลตซีสต์ […]

10 ยาสามัญประจำบ้าน ที่ทุกบ้านต้องมีเพิ่มความอุ่นใจสไตล์ New Normal

ในช่วงที่หลายคนต้องกักตัวทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค Covid-19 แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังต้องออกไปเสี่ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แถมช่วงนี้ยังเป็นฤดูฝนที่อากาศทั้งเย็นและชื้นมากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยกันได้ง่าย ใครที่กำลังเจอสถานการณ์แบบนี้อยู่และกังวลเรื่องสุขภาพว่าควรเตรียมรับมืออย่างไร หากมีอาการเจ็บป่วย วันนี้จะมาแนะนำยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดเอาไว้เพิ่มความอุ่นใจ เรามาดูกันว่ายาตัวไหนบ้างที่เป็นตัวสำคัญและยาแต่ละประเภทมีสรรพคุณเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมเช็คลิสต์ไปพร้อมๆ กันว่าคุณมีหรือยัง? 10 ยาสามัญประจำบ้าน ที่ทุกบ้านต้องมีเพิ่มความอุ่นใจสไตล์ New Normal 1. ไพรานา (Pyrana) ไพรานา(Pyrana) หรือที่คุ้นหูกับชื่อ พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยลดไข้ โดยนิยมใช้เพื่อรักษาอาการปวดทั่วไป อาการปวดศีรษะ หรือไข้หวัดใหญ่ โดยพาราเซตามอลสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ แต่อย่าลืมว่าในการใช้ยาแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างกันทุกๆ 4-6 ชั่วโมง และปริมาณที่ควรใช้ต่อครั้งไม่ควรเกิน 500-1,000 มิลลิกรัม 2. มีโนเพน (Menopain) มีโนเพน(Menopain) หนึ่งในกลุ่มยาแก้ปวด ยาลดไข้ และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เรียกสั้นๆ ว่า ”ยาเอ็นเสด” ที่คุณผู้หญิงนิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน ใช้บรรเทาอาการปวดและการอักเสบที่มีความรุนแรงเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง ทั้งอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ ปวดหลังการผ่าตัด โดยตัวยานี้มีจุดเด่นในการออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ ไซโคลออกซีจีเนส ที่มีหน้าที่สังเคราะห์สารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ในร่างกาย และสารพรอสตาแกลนดินบางส่วนจะถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เกิดบาดเจ็บหรือได้รับความเสียหาย ตัวยาจึงช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบได้ 3. เวนซิกซ์ (Vensix) เวนซิกซ์(Vensix) เป็นยาใช้ป้องกันและรักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และวิงเวียนศีรษะ หรือภาวะป่วยที่อาจเกิดจากการเดินทาง เช่น เมารถ เมาเรือ โดยจะส่งผลต่อการทำงานของสมองและช่วยลดอาการดังกล่าวได้   4. […]

สลัดความเชื่อเดิมๆ คุณแม่ ‘ตั้งครรภ์’ และ ‘หลังคลอด’ ออกกำลังกายได้ ถ้ารู้สูตรที่ถูกต้อง

ความเชื่อที่ว่าคุณแม่ ตั้งครรภ์ ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจเกิดอันตรายต่อเด็กในครรภ์ แม้แต่คุณแม่มือใหม่หลังคลอดการออกกำลังกายอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ ประเด็นดังกล่าวหากไม่ศึกษาข้อมูลให้มากพอ อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ แท้จริงแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกระยะและคุณแม่หลังคลอด สามารถออกกำลังกายได้ แต่ต้องเลือกรูปแบบการออกกำลังกายให้ถูกต้องกับอายุครรภ์หรือปัญหาของตัวเอง ที่สำคัญการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงกลุ่มนี้มีประโยชน์มากกว่าที่คิด The American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG) สมาคมสูตินรีแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า การออกกำลังกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีรูปแบบและความถี่ที่เหมาะสมกับอายุครรภ์จะปลอดภัยทั้งกับคุณแม่และทารกในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยลดอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ เช่น ปวดศีรษะ ปวดหลัง เป็นตะคริว ท้องผูก เป็นต้น ช่วง 3 เดือนแรก คุณแม่มักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงส่งผลให้นอนหลับไม่ดี โยคะหรือพิลาทิสจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมความสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมน ช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้นและนานขึ้น พอเข้าไตรมาสที่สอง อายุครรภ์ 4-6 เดือน เป็นช่วงที่อาการแพ้ท้องเริ่มดีขึ้น ความเหนื่อยล้าต่างๆ ลดลง สามารถเพิ่มระยะเวลาเป็นสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 30-40 นาที รวมถึงปรับรูปแบบการออกกำลังกาย […]

แพทย์ผิวหนัง เผย “โรคหูด” ติดต่อทางการสัมผัส แต่ไม่อันตราย รักษาได้หลายวิธี

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เผย โรคหูด เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อทางการสัมผัสได้ แต่ไม่อันตราย การรักษาหูดมีหลายวิธี หากสงสัยว่าเป็นโรคหูด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา รวมถึงป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและการกลับมาเป็นซ้ำอีก นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคหูด เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิด Human Papillomavirus ซึ่งเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของผิวหนัง มีหลายชนิดและหลายขนาด รูปร่างจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็น หูดอาจจะมีรอยโรคเดียวหรือขึ้นหลายรอยโรคก็ได้ สามารถเกิดตามเยื่อบุและตามผิวหนังของร่างกาย โดยมักจะขึ้นที่มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมทั้งที่อวัยวะเพศได้ พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเด็กวัยเรียน หายแล้วก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้ หูดสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสได้ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล ส่วนใหญ่รอยโรคมักจะไม่มีอาการ นอกจากทำให้ดูไม่สวยงาม น่ารำคาญ ผู้ป่วยน้อยราย มักจะมีอาการเจ็บบริเวณตำแหน่งที่มีการกดทับ เช่น หูดที่ฝ่าเท้า ถ้าเสียดสีมากๆ อาจจะมีเลือดออกที่รอยโรคได้ และถ้ารอยโรคมีขนาดใหญ่จะเจ็บทำให้ไม่สามารถใส่รองเท้าได้ ประมาณสองในสามของหูดจะหายไปเองได้ในเวลา 12-24 เดือน โดยไม่ทิ้งรอยแผลไว้ และเมื่อหายแล้วก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้อีก หากเป็นหูดที่อวัยวะเพศควรปรึกษาแพทย์ การรักษา โรคหูด มีหลากหลายวิธี แพทย์หญิงมิ่งขวัญ […]

แพทย์แนะ ผู้ป่วยมะเร็ง สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้ทุกชนิด และควรเร็วที่สุด

นายแพทย์ธนุตม์ ก้วยเจริญพานิชก์ แนะนำให้ ผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงต่อการมีภาวะเทรกซ้อนจากการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งผู้ดูแลและผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยมะเร็ง ให้รีบรับวัคซีนทันที หรือเร็วที่สุด โดยสามารถรับวัคซีนได้ทุกชนิดที่มีอยู่ในขณะนี้ และไม่ควรรอวัคซีนเฉพาะชนิดใดชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยมะเร็ง รวมถึงผู้ที่กำลังอยู่ในกระบวนการรักษามะเร็ง เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงที่จะรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น จึงไม่ควรรอวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่ง และควรฉีดวัคซีนทันที จากแนวทางปฏิบัติของ NCCN ยังได้แนะนำอีกว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด หรือกำลังรับการรักษาด้วยยาพุ่งเป้า และรังสีบำบัด ก็สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้ทันทีที่สามารถทำได้ ยกเว้นผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างกระบวนการเปลี่ยนถ่ายสเต็มเซลล์ และการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบําบัดควรต้องรอหลังการรักษาดังกล่าวอย่างน้อย 3 เดือน จึงจะสามารถรับวัคซีนได้ “ด้านอาการข้างเคียง และอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ป่วยมะเร็งนั้น จากรายงานพบว่าไม่มีความแตกต่างจากอาการที่เกิดกับบุคคลทั่วไป เช่น หน่วงแขน อ่อนเพลีย หนาวสั่น ปวดศีรษะ มีไข้ และมีอาการแพ้วัคซีนซึ่งพบน้อยมาก ทั้งนี้ หลังรับวัคซีน ทั้งผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ดูแลและผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ยังคงต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 – 2 เมตร หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ หรือหลังสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีผู้อื่นใช้งานร่วมกัน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น แออัด หรือพื้นที่ปิด” นายแพทย์ธนุตม์ กล่าวทิ้งท้าย   บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อรักษาหายเสี่ยง กล่องเสียง […]

แพทย์แนะอย่าวิตก กรณีรักษาโควิด-19 หายแล้ว แต่เกิด “ผมร่วง” หลุดเป็นกระจุก

จากกรณีผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 มีไข้สูง ไอ เหนื่อย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะนี้หายดีเป็นปกติ ไม่ไอ ไม่เหนื่อย แต่เส้นผมเริ่มร่วงหลังจากหายป่วยทั้งตัวเองและลูกสาวที่รักษาจนหายป่วยโควิด-19 นั้น ทาง นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ได้บอกไว้ว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลายๆ คนมีปัญหา ผมร่วง หลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 2-3 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้สูง ความเครียด ความวิดกกังวล ที่เป็นอาการที่พบได้จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปกติแล้วเส้นผมคนเราจะร่วงวันละประมาณ 100 เส้น หลังจากหายป่วยจากโรคโควิด 2-3 เดือน ผมอาจร่วงได้ถึงวันละ 300 เส้น ตลอดระยะเวลา 6 เดือนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อยๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนก่อนป่วยในระยะเวลา 6-9 เดือน […]

keyboard_arrow_up