Wellness
HIITให้เป็นรูทีน เคล็ดลับ 30 นาทีปั้นหุ่นฟิตแบบเบเบ้
ใครบอกว่าวงการเบเบ้เข้าแล้วออกเลย ใจเย็นๆ ก่อนนะ ถึงคลิปออกกำลังกายที่เบเบ้แชร์ให้ดูอาจจะหนักไปสำหรับบางคน แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก อย่างเคล็ดลับการออกกำลังกายแบบ HIIT ซึ่งใช้เวลา 30 นาทีต่อวัน และวิธีนี้ใช้เวลาไม่มากด้วย การออกกำลังกายแบบ HIIT หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า ฮิต มาจากคำว่า High Intensity Interval Training คือ การออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูงแบบเป็นช่วงสั้นๆ โดยแต่ละช่วงจะถูกออกแบบให้ต่างกัน เพื่อให้เกิดอัตราการเต้นของหัวใจในระดับที่สูงและใช้พลังจากทุกส่วนของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากในระยะเวลาอันสั้น จากผลการศึกษาพบว่าการออกกำลังกายแบบ HIIT ครั้งละ 30 นาที สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบวิ่งหรือปั่นจักรยาน ถึง30% เมื่อใช้เวลาเท่ากัน HIITให้เป็นรูทีน เคล็ดลับ 30 นาทีปั้นหุ่นฟิตแบบเบเบ้ สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายด้วยวิธีนี้มาก่อน ก็อาจจะเตรียมพร้อมร่างกายด้วยการฝึกออกกำลังกายระดับเบาก่อนในช่วงแรก จากนั้นลองฝึกออกกำลังกายแบบ Interval training และค่อยๆ เพิ่มระดับความหนัก รวมถึงควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกกำลังกาย โดยแนะนำให้ออกกำลังกายแบบ HIIT ประมาณ 2 – 4 วันต่อสัปดาห์ และมีวันพักเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละคน สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานความแข็งแรงอยู่แล้วสามารถทำติดต่อกันได้ แต่ก็ควรมีวันที่พักหรือสลับวันฝึกเบาลงมาด้วย โดยท่าออกกำลังกายสำหรับมือใหม่ อาจจะฝึกจาก circuit ที่มีท่าเบาสลับกับหนักก็ได้ เช่น ท่า Burpee จำนวน 5 – 10 ครั้ง โดยใช้วิธีก้าวขาก่อน เมื่อรู้สึกเหนื่อยน้อยลงแล้วจึงเพิ่มการกระโดดเข้าไป สลับกับการย่ำเท้าหรือจ็อกกิ้งอยู่กับที่ และค่อยๆ เพิ่มความเร็วหรือเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นไป โดยสามารถปรับความหนักเบาในการออกกำลังกายให้เหมาะกับร่างกายของตัวเองได้จากอัตราการเต้นของหัวใจหรือตามความรู้สึกของเรา สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถวัดความเหนื่อยโดยใช้ความรู้สึกด้วย RPE […]
หมั่นสังเกตตนเอง ‘มะเร็งต่อมน้ำเหลือง’ เกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย พบบ่อยในคนไทย
กรมการแพทย์ชี้ “มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเองหากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย สามารถพบได้ทุกช่วงอายุแล้วแต่ชนิด โดยพบได้ประมาณ 3.000-4,000 คนต่อปี มะเร็งที่เกิดกับต่อมน้ำเหลืองเกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย ตั้งแต่บริเวณรักแร้ คอ ขาหนีบ ตามข้อพับ และในช่องอก ช่องท้อง นอกจากนี้แล้ว เซลล์ต่อมน้ำเหลืองยังมีอยู่ทุกอวัยวะในร่างกาย สามารถเกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ทั้งสิ้น เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง เป็นต้น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งประเภทออกเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) ผู้ป่วยมักจะมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอและช่องอก ให้การรักษาโดยการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสง โอกาสหายขาดสูง มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-hodgkin lymphoma) พบมาก และแบ่งย่อยออกได้อีกประมาณ 30 ชนิด แต่แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็น 2 แบบคือ – มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดรุนแรง (Aggressive lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายเกิดอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรง ดังนั้น จึงตอบสนองกับยาเคมีบำบัดซึ่งออกฤทธิ์กับเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วอยู่ค่อนข้างดี กลุ่มนี้ต้องรักษาทันที หากไม่รักษาผู้ป่วย อาจเสียชีวิตใน 6 เดือน […]
‘ไอยู’ กำลังรักษา ‘โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ’ อาการเสียงดังในหู
นักร้องสาวร่างเล็ก ไอยู (IU) ที่แฟนๆ ต่างก็ยกให้เธอเปรียบเสมือนนางฟ้า เผยว่าเธอกำลังเข้ารับการรักษาสำหรับความผิดปกติทางการได้ยิน ซึ่งเธอยังบอกอีกว่า โชคดีที่เธอสามารถจบคอนเสิร์ตได้สำเร็จ หลังเธอรู้สึกถึงความผิดปกติจากการได้ยินมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้ว ‘ไอยู’ กำลังรักษา ‘โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ‘ อาการเสียงดังในหู นางฟ้าก็คือนางฟ้าวันยังค่ำ เพราะเธออดทนต่อความผิดปกติในร่างกาย จนทำให้คอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 17-18 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา จบลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคอนเสิร์ตที่ว่านี้คือ “The Golden Hour: Under the Orange Sun” จัด ณ Olympic Main Stadium ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชมจำนวน 40,000 คน โดยนอกจากแฟนๆ ที่รักไอยูแล้ว ยังมีเหล่าคนดังไม่ต่ำกว่า 30 คนไปร่วมคอนเสิร์ตใหญ่ของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเธอถึงกลายเป็นไอดอลในหมู่ไอดอล หลังจบคอนเสิร์ตใหญ่ ไอยูได้เผยว่า “หูของฉันมีปัญหาเล็กน้อย ดังนั้น ฉันจึงประหม่ามากขณะเตรียมคอนเสิร์ตนี้” พร้อมระบุอีกว่า “ช่วงนี้หูไม่ค่อยดี การได้ยินของฉันคล้ายกับที่คุณได้ยินเวลาหาว เมื่อฉันได้ยินตัวเองร้องเพลง มันจะดังเกินไป” โดย ไอยู เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ ตามข้อมูลของ Hopkins […]
โรคติดเชื้อแบคทีเรียทางผิวหนัง แบ่งเป็น 5 กลุ่มโรค เรียงตามความลึก และตำแหน่งการอักเสบ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ให้ความรู้โรคติดเชื้อแบคทีเรียทางผิวหนัง ที่พบบ่อย ตามความลึก และตำแหน่งของการอักเสบ พร้อมอธิบายถึงสาเหตุ และการดูแลรักษา ป้องกัน หมั่นสังเกตผิวหนังตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการผิดปกติ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยรักษาที่ถูกต้อง ผิวหนังของคนเราจัดเป็นด่านแรกที่จะทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคต่างๆ เมื่อใดที่มีปัจจัยให้ผิวหนังของเราอ่อนแอลง หรือความสมดุลของเชื้อประจำถิ่น (normal skin microbiota) เสียไป จะทำให้เชื้อโรคสามารถผ่านเข้าสู่ผิวหนัง และก่อให้เกิดโรคการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง จัดเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย หมั่นดูแลรักษาสุขอนามัย รักษาความสะอาดของร่างกาย หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าโดยไม่สวมรองเท้า รวมถึงการตัดเล็บให้สั้น ตรวจสอบเท้ารวมถึงผิวหนังของตัวเองอยู่เสมอ ถ้ามีแผลให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดพร้อมทั้งทำแผลอย่างถูกต้อง ถ้ามีผื่นโรคผิวหนังอื่นๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาเพราะรอยโรคดังกล่าวอาจะเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปก่อโรคยังผิวหนังได้ โรคติดเชื้อแบคทีเรียทางผิวหนัง จัดเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 กลุ่มโรคใหญ่ๆ เรียงตามความลึก และตำแหน่งของการอักเสบ ดังนี้ 1. โรคพุพอง (Impetigo) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียในชั้นหนังกำพร้า ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ตื้นที่สุดของผิวหนัง โรคนี้มักพบได้บ่อยในเด็ก ซึ่งอาจเป็นชนิดที่พบตุ่มน้ำร่วมหรือไม่พบก็ได้ อาการเริ่มแรก จะมาด้วยตุ่มสีแดง ที่แถวใบหน้า หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง ระยะถัดมาตุ่มจะแตกออก และพบเป็นลักษณะรอยถลอกตื้นๆที่มีสะเก็ดหนองสีเหลืองอมน้ำตาล คล้ายสี “น้ำผึ้ง” […]
ปวดท้องน้อยอย่าปล่อยผ่าน ‘ช็อกโกแลตซีสต์’ รักษาไว หายได้ด้วยยา ไม่ต้องผ่าตัด
#ปวดท้องน้อยอย่าปล่อยผ่าน รณรงค์ให้ผู้หญิงทุกคนตระหนัก และสังเกตตัวเองว่ามีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังหรือไม่ เพราะอาจเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ โรคนี้เกิดได้อย่างไรหลายคนๆ คงสงสัย เกิดมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกไปอยู่ผิดที่ จากปกติต้องอยู่ในโพรงมดลูก แต่ไปอยู่ในรังไข่ ซึ่งเราเรียกว่า เป็นช็อกโกแลตซีสต์ หากไปอยู่ในเนื้อมดลูกเกิดพังผืดมดลูก ทำให้มดลูกโต เรียกชื่อเฉพาะว่า อะดีโนไมโอซิส (adenomyosis) ซึ่งโรคนี้ถือเป็นภัยเงียบของผู้หญิง เนื่องจากมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งได้ หรือหากปล่อยทิ้งไว้นานช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงน้ำรังไข่ จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสแตกในท้อง เกิดการตกเลือดในท้อง นอกจากนี้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจไปเกิดในอวัยะอื่นได้ด้วยตั้งแต่หัวจรดเท้า บางรายไปเกิดที่สมอง ตับ ปอด สะดือ หรือลำไส้ ในกรณีเกิดที่ปอด เวลามีประจำเดือนก็จะมีอาการหายใจไม่ออก พบว่าถ้าสะสมจนขนาดใหญ่ขึ้นอาจทำให้ปอดแตกได้ กรณีเกิดที่ลำไส้ ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะการขับอาหารผ่านลำไส้ไม่ดี เป็นต้น ปวดท้องน้อยอย่าปล่อยผ่าน ‘ช็อกโกแลตซีสต์’ รักษาไว หายได้ด้วยยา ไม่ต้องผ่าตัด สาเหตุของโรค มาจากการบีบตัวไหลย้อนกลับของประจำเดือนไปอยู่ในบริเวณต่างๆ ทำให้เกิดรอยโรค เกิดเป็นซีสต์ ก้อน ถุงน้ำ หรือที่พังพืด ผู้หญิงจำเป็นต้องสังเกตตัวเอง ซึ่งอาการเด่น ๆของโรคนี้ ได้แก่ ปวดประจำเดือนรุนแรง ประจำเดือนมามากผิดปกติ แต่บางกรณีไม่มีประจำเดือนก็ปวดได้ […]
‘เบญ-เรวิญานันท์’ เคยป่วยหนัก ‘โรคแพนิค’ เครียดจากการซึมซับบทละครมากเกินไป
เคยเป็นนางร้ายในจอมาก่อน จนฝีมือเข้าขั้นขึ้นแท่นเป็นนางเอก เบญ-เรวิญานันท์ ทาเกิด ล่าสุดในรายการ “วัน เดย์ วิท แมทธิว หนึ่งวันมันดี ตีซี้คนดัง (One Day With Matthew)” ของทางช่อง MONO29 สาวเบญได้เผยว่าตัวเองรักการเล่นกิจกรรมผจญภัย เพราะเคยรักษาโรคแพนิคให้หายขาด ‘เบญ-เรวิญานันท์’ เคยป่วยหนัก ‘โรคแพนิค‘ เครียดจากการซึมซับบทละครมากเกินไป “เล่นละครมา 9 ปี ช่วงหลังไม่ว่าจะรับบทไหน คนดูส่วนใหญ่จะคุ้นเคยเราในภาพนางร้ายตลอดค่ะ พอก้าวขึ้นมาเป็นนางเอก มันก็เป็นบทบาทที่เราชอบเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าชอบอันไหนมากกว่า เบญขอตอบว่าชอบทุกบทบาทเลยค่ะ เพราะมีความรู้สึกว่าเมื่อเราเป็นนักแสดง ก็ต้องจริงจังตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเล่นให้ได้ทุกบทเพื่อคนดู ไม่ได้ฟิกว่าตัวเองจะรับบทร้ายหรือดีอย่างเดียว อย่างบทร้ายเบญก็ไม่ได้เล่นดีมาตั้งแต่แรก แต่ว่าศึกษาพี่ๆ นักแสดงรุ่นก่อน ไล่เปิดดูผลงานของพวกเขาว่าต้องร้ายแบบไหน “ส่วนชีวิตจริงถามว่าเราร้ายไหม อันนี้ขอให้ผู้ชมพิจารณาเองดีกว่าค่ะ (หัวเราะ) ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิตเบญค่ะ แต่ละบทที่เคยเล่นไม่ซ้ำกันเลย เราเลยอยากเล่นละครเพื่อพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ในอาชีพนักแสดง มันมีทั้งความเครียดความสนุก เมื่อก่อนเบญเป็น Panic Attack เครียดสะสม ตอนนั้นเป็นอยู่ 6 เดือน หมอบอกว่าเป็นผลจากการที่เราเครียดจากการทำงาน ในการซึมซับบทละครจนดึงตัวเองออกไม่ได้ สมัยนั้นแต่ละบทก็ต้อง ท้อง แท้ง ติดยา หนักๆ ทั้งนั้นค่ะ จนบางทีเราสลัดไม่ออก ทำให้เราติดมาเครียดกับชีวิตจริง “ตอนนั้นหมอรักษาเราด้วยการกินยาจนดีขึ้น แล้วก็มาหายขาดด้วยการทำสิ่งที่รักคือการวาดรูป […]
7 อาหารที่คน ‘นอนดึกเป็นประจำ’ ควรกินเพื่อบำรุงสุขภาพ
เราต่างก็รู้ การนอนดึกทำให้เสียสุขภาพ นอนดึกไม่ดีโทรมเร็ว แต่รู้ทั้งรู้ว่าการ นอนดึก นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพสัญญาณเบื้องต้นอาจเริ่มจากอาการมึนหัว ขอบตาคล้ำ ผิวพรรณไม่สดใส เป็นหวัดง่าย ภูมิแพ้กำเริบ กินอาหารเยอะขึ้น ไปจนถึงเรื่องของระบบต่างๆ ภายในร่างกายที่พลอยจะรวนไปเสียหมด อย่างเช่นเรื่องระบบการย่อยอาหาร ระบบการเผาผลาญและการดูดซึมสารอาหารที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ รวมไปถึงฮอร์โมนบางตัวอย่างเช่น growth hormone ที่จะลดปริมาณการหลั่งจนส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วอีกด้วย 7 อาหารที่คน ‘นอนดึกเป็นประจำ‘ ควรกินเพื่อบำรุงสุขภาพ เราจึงไม่แนะนำให้นอนดึก แต่บางอาชีพก็เลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องนอนดึกนี่นา จะทำอย่างไรได้ เราจึงขอแชร์ความรู้ด้านโภชนาการที่เป็นประโยชน์สำหรับคนนอนดึกโดยเฉพาะมาฝาก ลองมาดูประโยชน์ของอาหารแนะนำแต่ละประเภทกัน 1. โปรตีนสีขาว อย่างเนื้อปลา อกไก่ ไข่ขาว เต้าหู้ : โปรตีนเหล่านี้จะช่วยในเรื่องการสร้างเคมีในสมองอย่าง โดพามีน เอพิเนฟริน ที่จำเป็นในการบำรุงสมองของคนที่นอนดึก 2. ถั่วเหลือง ไข่แดง : ร่างกายต้องการสารเคมีที่ทำงานเชื่อมโยงกันภายในสมองนั่นก็คือ “โคลีน” ซึ่งโคลีนนี้ จะช่วยในเรื่องความจำ ช่วยป้องกันอาการความจำเสื่อม ช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น ความจำดีขึ้น นอกจากนั้นในไข่แดงยังมี ไบโอตินที่ช่วยบำรุงสมองและเส้นผมอีกด้วย 3. ข้าวกล้องงอก […]
เหตุผลที่ไม่แนะนำให้ติด ‘ขนตาปลอม’ เสี่ยงแพ้ อักเสบ ถึงขั้นอาจตาบอด
จักษุแพทย์ เตือนการนำ ‘ขนตาปลอม‘ หรือสิ่งแปลกปลอมมาติดที่ขนตา มีความเสี่ยงอันตรายต่อดวงตาทำให้สิ่งสกปรกสะสมบริเวณหนังตา นำมาสู่การติดเชื้อเข้าสู่ดวงตา เกิดการแพ้ อักเสบ เสี่ยงถึงขั้นตาบอด การติดขนตาปลอมที่ดวงตาเพื่อช่วยเสริมเสน่ห์ใบหน้า หรือเสริมให้ตาโตแบบตุ๊กตา มีความเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา เนื่องจากการนำสิ่งแปลกปลอม วัสดุต่างๆ มาติดอาจทำให้สิ่งสกปรกสะสมบริเวณหนังตา และหากเก็บรักษาขนตาปลอมไม่ถูกวิธี ไม่สะอาด เมื่อนำมาติดที่ขอบตา ซึ่งติดกับขนตาจึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ดวงตา ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง อักเสบ มีโอกาสเสี่ยงถึงขั้นตาบอดได้ เหตุผลที่ไม่แนะนำให้ติด ‘ขนตาปลอม‘ เสี่ยงแพ้ อักเสบ ถึงขั้นอาจตาบอด การติดขนตาปลอม คือวิธีหนึ่งในการเสริมเสน่ห์ให้กับดวงตาของหญิงสาว แต่บางครั้งก็อาจต้องแลกมาด้วยความอันตราย ถึงขั้นตาบอดได้ การติดขนตาปลอมจะต้องใช้กาวเหนียวๆ ที่ใช้ติดขนตาปลอม ขณะดึงขนตาปลอมออกอาจทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย หากทำบ่อยครั้งจะสร้างความกระทบกระเทือนต่อขนตาจริง เป็นเหตุให้ขนตาหลุดร่วง หรือเปราะบาง หักง่าย และไม่แข็งแรง ส่งผลให้การงอกของขนตาผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งเดิมบริเวณเปลือกตา เกิดอาการขนตาคุด ขนตางอกผิดทิศทางได้ ทั้งนี้ ขนตาตามธรรมชาติมีความสำคัญมาก มีหน้าที่ปกป้องดวงตาจากอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เช่น ป้องกันฝุ่นผง ฝุ่นละออง และเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่ดวงตา โดยธรรมชาติขนตาของมนุษย์จะมีขนตาบนมากกว่าขนตาล่าง โดยที่โคนขนตาแต่ละเส้นจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไปหล่อเลี้ยงในดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื่น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง นอกจากนี้เปลือกตาเป็นผิวที่บอบบางมาก […]
โยคะร้อน กับโยคะปกติต่างกันอย่างไร? และช่วยให้รูปร่างดีขึ้นจริงหรือไม่
หลายคนที่กังวลเกี่ยวกับรูปร่าง มักจะเริ่มควบคุมอาหารแบบผิดๆ เพราะไม่ชอบออกกำลังกายหนักๆ จึงอยากแนะนำการฟิตหุ่นให้มีรูปร่างดีด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบ โยคะ ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่คนรักสุขภาพ เพราะนอกจากจะได้รูปร่างที่ดีและร่างกายก็แข็งแรงอีกด้วย แต่โยคะที่จะแนะนำครั้งนี้จริงๆ คือ “โยคะร้อน” ซึ่งเป็นหนึ่งในโยคะที่คุ้นเคยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โยคะร้อน แตกต่างจากโยคะทั่วไปอย่างไร? โยคะร้อน คือ โยคะในร่ม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย ซึ่งแตกต่างจากโยคะปกติตรงที่ทำในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิห้อง 36 ถึง 40 องศา และความชื้นประมาณ 60% เนื่องจากท่าเล่นโยคะร้อนจะยืดหยุ่นได้ดีมากในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น แม้แต่ท่าที่แข็งทื่อก็สามารถเพิ่มระยะการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นได้ ประโยชน์ด้านสุขภาพและความงามของการทำโยคะร้อน 1. ดีท็อกซ์ ทำให้ร่างกายอบอุ่นจากภายใน ขับของเสียและสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองทั่วร่างกาย น้ำส่วนเกินจะถูกขับออกด้วยเหงื่อและอาการบวมก็ดีขึ้นเช่นกัน 2. ผิวสวย เนื่องจากการเล่นโยคะร้อนจะมีเหงื่อออกมาก สิ่งสกปรกและของเสียที่อุดตันในรูขุมขนจึงไหลไปด้วยเหงื่อ ทำให้ผิวของเรียบเนียน 3. ปรับปรุงความไวต่อความเย็น ท่าโยคะในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นช่วยให้เส้นใยกล้ามเนื้อยืดได้ง่ายกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิห้อง หากขณะที่เล่นโยคะร้อนเคลื่อนไหวอย่างสบาย การไหลเวียนของเลือดในร่างกายจะถูกกระตุ้น เลือดจะไหลเวียนไปยังทุกมุมของร่างกาย และร่างกายจะมีโอกาสเป็นหวัดน้อยลง 4. บรรเทาอาการเมื่อยไหล่และปวดหลัง ความฝืดและความเจ็บปวดเกิดขึ้นในบริเวณที่ความเหนื่อยล้าสะสมได้ง่ายและเกิดความตึงเครียด การทำท่าโยคะและการหายใจลึกๆ ช่วยให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ดังนั้น โยคะร้อนจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการไหล่แข็งและปวดหลังได้ 5. บรรเทาความเครียด โยคะร้อนไม่มีท่าที่หนักหน่วงมากนัก การหายใจเข้าอย่างสงบและช้าๆ […]
สาเหตุการเกิด ‘ภาวะปากแห้งน้ำลายน้อย’ จนอาจลามถึงมะเร็งช่องปากในผู้สูงอายุ
สุขภาพช่องปากเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ เนื่องจากปัญหาสุขภาพในช่องปากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ประกอบกับผู้สูงอายุส่วนใหญ่ประสบปัญหาสุขภาพร่างกาย มีโรคประจำตัว ทำให้มีความเปราะบางและซับซ้อนต่อการทำทันตกรรม ดังนั้น ทันตกรรมในผู้สูงอายุ จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์เฉพาะทาง สาเหตุการเกิด ‘ภาวะปากแห้งน้ำลายน้อย‘ จนอาจลามถึงมะเร็งช่องปากในผู้สูงอายุ ทพญ.รัฐนันท์ โล่ศุภกาญจน์ ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมผู้สูงอายุ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทันตกรรมในผู้สูงอายุ พร้อมอธิบายถึงเหตุปัจจัยที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เมื่อผู้สูงอายุต้องเข้ารับการทำทันตกรรมภายในช่องปาก ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงในช่องปากของผู้สูงอายุ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เมื่ออายุมากขึ้น อวัยวะทุกอย่างก็เสื่อมลง จากผลการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 50 มีโรคเรื้อรังอย่างน้อยหนึ่งโรค และมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่มีโรคเรื้อรังหลายโรค ดังนั้น การดูแลทางทันตกรรมในผู้ป่วยสูงอายุนอกจากจะต้องคำนึงถึงสุขภาพช่องปากที่มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติแล้ว ยังต้องคำนึงถึงภาวะแทรกซ้อนจากยาและการรักษาอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งทันตแพทย์จะต้องประเมินสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม และควรมีการปรึกษาร่วมกันระหว่างทันตแพทย์กับแพทย์ผู้ทำการรักษาโรคประจำตัวของผู้สูงอายุ การซักประวัตินอกเหนือจากประวัติทางทันตกรรมแล้ว หากทราบชื่อโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ด้วยก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้สูงอายุและญาติควรเตรียมประวัติทางการแพทย์ รายชื่อยาที่ได้รับทั้งแบบกินและยาฉีด รวมถึงขนาดยาและความถี่ที่ได้รับ เพื่อแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ ปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคฟันผุ ฟันสึก โรคเหงือก ปัญหาการสูญเสียฟัน ภาวะปากแห้งน้ำลายน้อย รวมถึงรอยโรคในช่องปากและมะเร็งช่องปาก ซึ่งปัญหาสุขภาพช่องปากหลายอย่างมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และยังสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกายทั่วไปด้วย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคปอดอักเสบจากการสำลัก ภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น นอกจากนี้ […]
เปิดสาเหตุ ‘ภาวะเสียชีวิตกะทันหัน’ แม้ภายนอกดูสุขภาพแข็งแรง
ความแข็งแรงของร่างกายภายนอกไม่อาจบ่งบอกปัญหาการทำงานภายในร่างกายได้ โดยเฉพาะความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบสำคัญต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่ ‘ภาวะเสียชีวิตกะทันหัน’ เปิดสาเหตุ ‘ภาวะเสียชีวิตกะทันหัน’ แม้ภายนอกดูสุขภาพแข็งแรง พญ.วริษฐา เล่าสกุล แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคหัวใจ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ภาวะเสียชีวิตกะทันหัน โดยจำแนกหัวข้อ ‘ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน’ มาอธิบายให้ฟังในอันดับแรก พร้อมแจกแจงปัจจัยเสี่ยง แนวทางการป้องกัน รวมทั้งวิธีรับมืออย่างเหมาะสมและทันท่วงที ‘ภาวะเสียชีวิตกะทันหัน’ ในผู้ที่สุขภาพแข็งแรงมาก่อน สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุ แต่ก่อนอื่นนั้นอาจต้องดูว่าผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติอะไร ในความเป็นจริงแล้วมีโรคประจำตัวอะไรซ่อนอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นอันตรายต่อหลายระบบสำคัญในร่างกาย เช่น ระบบหลอดเลือดหัวใจ และระบบประสาท เป็นต้น โดยการเสียชีวิตเฉียบพลันนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุของอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ และปัจจัยทางสุขภาพของแต่ละคน เช่น หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Death) หลอดเลือดปอดอุดตันเฉียบพลัน (Pulmonary Embolism) หลอดเลือดสมองตีบ หรือ แตกเฉียบพลัน (Stroke) โดยวันนี้จะกล่าวถึง ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden cardiac death) คือการที่หัวใจหยุดทำงานฉับพลัน ทำให้ไม่สามารถบีบเลือดให้ไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ […]
แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม (LAAB แอสตร้าเซนเนก้า) ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาโควิด-19 ที่ญี่ปุ่น ประเทศแรกในโลก
ยาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม AZD7442 (ส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีสองชนิดได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab) หรือ LAAB ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาในประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้สำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 และการรักษาโควิด-19 แบบมีอาการ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติยานี้เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อการรักษา แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม (LAAB แอสตร้าเซนเนก้า) ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาโควิด-19 ที่ญี่ปุ่น ประเทศแรกในโลก กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น (MHLW) ได้อนุมัติใช้ยา LAAB ในกรณีฉุกเฉินสําหรับผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม โดยจะใช้กับผู้ป่วยที่ไม่แนะนําให้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 และผู้ที่อาจมีการตอบสนองต่อวัคซีนป้องกันโควิด-19ไม่เพียงพอ เนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยผู้รับยา LAAB เพื่อการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อจะต้องไม่เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อในขณะรับยา หรือเพิ่งสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในด้านการรักษา ยา LAAB ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม โดยเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 รุนแรงซึ่งไม่ต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ คาซึฮิโระ ทาเทดะ แห่งภาควิชาจุลชีววิทยาและโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยโทโฮ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “โควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในวงกว้าง ประชากรในประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก รวมทั้ง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัว และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 ยา LAAB จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่จําเป็นยิ่งในการป้องกันในระยะยาวแก่ผู้ที่มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ไม่เพียงพอหลังการฉีดวัคซีน และจะช่วยป้องกันอาการรุนแรงจากโรคโควิด-19 และลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อได้” ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ อิตารุ มัตสึมูระ […]
‘ส้ม มารี’ เผยสาเหตุที่เกิด ‘กระดูกสันหลังคด’ และจะสามารถรักษาหายได้หรือไม่
หลังจากที่นักร้องสาวสวย ‘ส้ม มารี‘ (มารี เออเจนี เลอเลย์) โพสต์ภาพนั่งหันหลังชมวิวแม่น้ำ และเสื้อที่สวมก็แหวกด้านหลังจนทำให้เห็นแนวกระดูกสันหลังที่คดผิดรูป เหล่าแฟนคลับหลายคนจึงเป็นห่วง ซึ่งสาวส้มก็ได้เผยว่า “หมอยืนยันไม่อันตราย” ‘ส้ม มารี’ เผยสาเหตุที่เกิด ‘กระดูกสันหลังคด‘ และจะสามารถรักษาหายได้หรือไม่ และสาวส้มก็ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ตอบคำถามที่หลายคนเป็นห่วงถามไถ่อาการเข้ามาว่า “ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ ตั้งแต่ลงรูปนั้นไป คนทักแบบ dm แตกมากๆ ดีใจที่มีคนรักและเป็นห่วงเยอะขนาดนี้ จริงๆ รู้เรื่องหลังตัวเองคดมานานมากๆ แล้ว เคยเอ็กซ์เรย์เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตอนนั้นคุณหมอคนก่อนก็บอกเหมือนกันว่า ไม่ได้อันตราย ไม่ได้คดเยอะ ใช้ชีวิตต่อไปได้ปกติ” พร้อมโพสต์ภาพที่เอ็กซเรย์กระดูก ตรวจที่รพ.เฉพาะทาง ซึ่งหมอยืนยันว่าไม่อันตราย แต่จะทำให้กลับมาตรงก็คงทำไม่ได้ โดยสาวส้มยังเผยอีกว่า “เคล็ดลับเอวเอส..วัยรุ่นกระดูกคด จริงๆ รู้ตัวมาหลายปีแล้วว่ากระดูกสันหลังคด เคยตรวจมาก่อน คุณหมอก็บอกว่าไม่ได้ต้องทำอะไร วันนี้ลองมาตรวจอีกสักที สรุปก็คล้ายเดิมฮะ คุณหมอบอกว่า 14 องศาไม่ได้อันตราย และด้วยอายุขนาดนี้ไม่น่าคดเพิ่มแล้ว คุณหมอบอกว่าไม่ต้องทำอะไรค่ะ ใช้ชีวิตไปปกติได้เลย ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การจะทำให้มันกลับมาตรง คือทำไม่ได้นะคะ เพราะร่างกายเราปรับไปกับโครงสร้างของเราแบบนี้ไปแล้ว และการจัดกระดูกไม่ช่วยอะไร” และคลิปด้านล่างนี้ สาวส้มได้เผยว่า […]
3 น้ำมันหอมระเหย ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนที่นิยมในสาวญี่ปุ่น
ก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ผู้หญิงหลายคนมักเกิดอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ สาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงก่อนมีประจำเดือน ซึ่งอาการ PMS มักเป็นตัวการที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้หญิงหลายคนเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้หญิงหลายคนปวดประจำวันจนบางครั้งทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนล้า ซึ่งกลิ่นหอมอโรมาจะค่อยๆ ออกฤทธิ์ช่วยผ่อนคลายต่อจิตใจและร่างกายได้ ครั้งนี้เลยขอแนะนำกลิ่นหอมจาก น้ำมันหอมระเหย 3 ชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีจากงานวิจัย 3 น้ำมันหอมระเหย ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนที่นิยมในสาวญี่ปุ่น 1. กลิ่นลาเวนเดอร์ ลาเวนเดอร์เป็นที่นิยมมากที่สุด ช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลายและนอนหลับสบาย บัณฑิตวิทยาลัยการแพทย์คันไซ กล่าวกันว่า ลาเวนเดอร์กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยลดความตึงเครียดของเส้นประสาทซิมพาเทติกของเส้นประสาทอัตโนมัติและทำให้เส้นประสาทพาราซิมพาเทติกโดดเด่น มีผลเช่น การผ่อนคลาย การนอนไม่หลับ ความดันโลหิตลดลง และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ มีรายงานผลการทดลองด้วยว่าคลื่นอัลฟาที่ทำให้อารมณ์ในสมองคงที่เพิ่มขึ้นและมีผลการผ่อนคลายสูง กล่าวกันว่าบรรเทาอาการระคายเคืองก่อนมีประจำเดือน ความวิตกกังวล นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ และปวดประจำเดือน นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง จึงแนะนำสำหรับผู้หญิงที่เป็นสิวและผิวหยาบกร้าน 2. กลิ่นคลารี่ เซจ กล่าวกันว่า Clary Sage มีหน้าที่ในการบรรเทาอาการเฉพาะของผู้หญิง ในการทดลองเกี่ยวกับการใช้กลิ่นหอม ผู้หญิงที่อาบน้ำด้วยคลารีเซจก่อนมีประจำเดือนจะเห็นได้ว่าพวกเธอมีจิตใจที่มั่นคง ผลการวิจัยมีการเผยแพร่เอกสารหลายฉบับเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ตอนปลายและสตรีวัยหมดประจำเดือน และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Clary Sage […]
ทำไมยิ่ง “ลดน้ำหนัก” ถึงยิ่ง “อ้วน” มีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรแก้
หลายคนที่กำลังลดน้ำหนักอาจจะยังสงสัยว่าทำไมยิ่งลดน้ำหนักถึงยิ่งอ้วน ทาง พญ. น้ำทิพย์ พันธ์ทิพทวี สูตินรีแพทย์ จะมาไขข้อสงสัยให้กระจ่างในประเด็นนี้ ก่อนอื่นต้องขอบอกอุปสรรคที่ทำให้อ้วนคือ ความหิว และปัจจัยที่ทำให้เกิดความหิว คือ ฮอร์โมนควบคุมความหิว หรือที่เรียกว่า “Hunger Hormone” มีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้ 1. ฮอร์โมนเลปติน (Leptin hormone) เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่ม จะถูกสร้างจากเซลล์ไขมันและถูกกระตุ้นไปสมองทำให้อิ่ม ยิ่งมีไขมันเยอะก็จะมีเลปตินที่เยอะ ในทางตรงกันข้ามในภาวะที่มีเลปตินสูงก็จะทำให้เกิดภาวะดื้อเลปติน ทำให้เลปตินทำงานไม่ได้ เมื่อเลปตินสร้างสารไปกระตุ้นที่สมองจึงทำให้สมองไม่รู้สึกอิ่ม จะพบว่าในคนอ้วนจะมีเลปตินสูงกว่าคนผอมถึง 318 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม และสามารถรับประทานอาหารได้เรื่อยๆ คล้ายกับคนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีการดื้ออินซูลิน 2. ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin hormone) เป็นฮอร์โมนที่ทำงานตรงกันข้ามกับเลปติน เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิวสร้างมาจากกระเพาะอาหาร เมื่อกระเพาะว่างจะส่งสัญญาณไปที่สมองทำให้รู้สึกหิวและรับประทานอาหาร ในคนอ้วนพบว่าเกรลินจะต่ำลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์กว่าในคนผอม จึงทำให้รับประทานอาหารเข้าไปเยอะ อย่างไรก็ตามคนอ้วนก็ยังรับประทานอาหารเยอะ เนื่องจากการทำงานของเลปตินและเกรลินทำงานไม่สมดุลกัน เมื่อมีภาวะดื้อเลปตินจึงไม่รู้สึกอิ่มและทำให้ยิ่งรับประทานอาหารเข้าไป 3. ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol hormone) หลายท่านอาจจะเคยรู้สึกว่ายิ่งเครียด ยิ่งรับประทานอาหารเยอะ เนื่องมาจากการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล […]
ผิวมัน ขนดก สิวเยอะผิดปกติ เกิดจาก ‘โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ’ หรือไม่?
ผู้หญิงที่มีสิวขึ้นเยอะกว่าปกติ และรักษาหายยาก พร้อมทั้งมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย อาทิ หน้ามัน, ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ, กินจุ, น้ำหนักตัวเยอะ, ขนดก แม้ว่าพันธุกรรมในครอบครัวไม่มีขนมากนัก อาจเป็นอาการของ โรคถุงน้ำในรังไข่ ควรเข้ารับการตรวจเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เป็นความผิดปกติที่เกิดมี ถุงน้ำในรังไข่ หรือถุงน้ำเล็กๆ มากมายกระจายอยู่ในรังไข่ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “ซีสต์ในรังไข่” พบมากถึง 1 ใน 10 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ผิวมัน ขนดก สิวเยอะผิดปกติ เกิดจาก ‘โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ’ หรือไม่? สาเหตุถุงน้ำในรังไข่ รังไข่มีหน้าที่เป็นแหล่งผลิตไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของเพศหญิง นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนเอสโทรเจน ควบคุมลักษณะต่างๆ ของเพศหญิง เช่น มีหน้าอก สะโพกผาย และมีประจำเดือน เป็นต้น และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำหน้าที่กระตุ้นมดลูกให้เตรียมรับไข่ เพื่อให้พร้อมรับการฝังตัวของรกเมื่อตั้งครรภ์ หรือหากไม่เกิดการตั้งครรภ์จะกลายเป็นประจำเดือน อาการของโรคถุงน้ําในรังไข่หลายใบที่พบได้ทั่วไป บางรายอาจแสดงอาการออกมาชัดเจน แต่บางรายก็แทบไม่แสดงอาการใดๆ ให้เห็น อีกทั้งอาการของโรคไม่รุนแรง ส่วนมากไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ หลายคนจึงมองข้ามสุขภาพของตัวเองไป […]
เช็คอาการ ‘ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง’ เสี่ยงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ เผยโรคมาลาเรียเกิดจากการที่ยุงก้นปล่องเพศเมียเป็นพาหะนำโรคเข้าสู่ร่างกาย หลังจากปล่อยเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะพัฒนาทำให้เกิดเป็นโรคมาลาเรียทำให้มีไข้สูง ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงคือ “ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง” การติดเชื้อโรคมาลาเรียถือเป็นปัญหาสำคัญของระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยแถบเส้นศูนย์สูตร แม้ว่าจะมีการรู้จักและเข้าใจโรคมาลาเรียมากขึ้น แต่ปัจจุบันยังมีผู้เสียชีวิตในระดับหลักล้านคนต่อปีทั่วโลก เช็คอาการ ‘ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง‘ เสี่ยงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง ถือว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของการติดเชื้อมาลาเรีย โดยปกติจะมีแค่เชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัม ที่ทำให้เกิดโรคมาลาเรียขึ้นสมอง โรคมาลาเรียเกิดจากเชื้อที่เรียกว่า พาสโมเดียม ซึ่งในมนุษย์มีเชื้อมาลาเรียที่ติดต่อได้ทั้งหมด 4 ประเภทได้แก่ 1.เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมฟัล ชิปารัม 2. เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมไวแวกซ์ 3. เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมมาลาเรอิ 4. เชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมโอวาเล และอาจพบเชื้ออีกชนิดที่มาจากลิงสู่คนเรียกว่าเชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียมโนไซ ซึ่งในทั้งหมดเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัม เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสุด ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในหลายระบบจนถึงอาการทางสมองและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะผ่านจากไปยังเซลล์ตับและเข้าไปอาศัยในเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างผิดปกติ ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงที่มีเชื้อมาลาเรียไปอุดกั้นระบบไหลเวียนขนาดเล็ก ทำให้สมองขาดเลือดไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ ในบางรายมีลักษณะความดันในสมองเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการผิดปกติเช่น มีพฤติกรรมสับสน ภาวะเพ้อ เกิดอาการชัก ในกรณีนี้แม้จะมีการอุดกั้นเกิดขึ้น แต่ลักษณะการอุดกั้นไม่ใช่เส้นเลือดใหญ่ จึงไม่ได้พบผู้ป่วยที่มีลักษณะแขนขาอ่อนแรงเหมือนในผู้ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ อาการอย่างอื่นที่สามารถพบได้ เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อตามตัว คอแข็ง บางรายอาจมีอาการกัดฟันค้าง ไม่เปิดปาก หรืออาจมีอาการเกร็งของร่างกายผิดปกติ อาการอย่างอื่นที่อาจตรวจเจอร่วมได้แก่ […]
อย่าหาทำตาม! แพทย์เตือนอันตรายเทรนด์ Vabbing น้ำหอมธรรมชาติจากจุดซ่อนเร้น
กลายเป็นเทรนด์ที่ไม่น่าทำตาม เมื่อ เทรนด์ Vabbing กลายเป็นกระแสไวรัลใน TikTok ต่างประเทศ ที่มีคลิปหญิงสาวหลายคนหันมาทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเทรนด์นี้ โดยการใช้มือล้วงเข้าไปในบริเวณจุดซ่อนเร้นของตัวเอง เพื่อแต้มตกขาวแล้วนำมาแตะบริเวณหลังใบหูและต้นคอเหมือนฉีดน้ำหอม เพราะเชื่อว่าสิ่งที่แต้มนั้นเป็นกลิ่นหอมธรรมชาติที่มีสารฟีโรโมน ช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม โดยชื่อ เทรนด์ Vabbing มาจากคำว่า อวัยวะเพศหญิง (Vagina) รวมการป้าย แต้ม หรือแตะเบาๆ (Dabbing) นั่นเอง อย่าหาทำตาม! แพทย์เตือนอันตรายเทรนด์ Vabbing น้ำหอมธรรมชาติจากจุดซ่อนเร้น สูตินรีแพทย์ในกรุงลอนดอน เผยว่าการทำลักษณะนี้อาจทำให้อวัยวะเพศอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ หากมือและซอกเล็บไม่สะอาด หรือแม้แต่ภาวะมีบุตรยาก ซึ่งเทรนด์นี้จริงๆ เคยปรากฏตั้งแต่ปี 2019 เมื่อ ชาน บูแดรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศและนักเขียน เผยว่าตนเองใช้วิธีนี้ดึงดูดผู้ชายมานานกว่า 10 ปี เพราะเชื่อว่าเป็นน้ำหอมธรรมชาตินั้น อีกทั้งเธอยังเขียนลงหนังสือเกมแห่งความปรารถนาของตัวเองว่า “ฉันแน่ใจว่าทุกครั้งที่ฉันใช้วิธีนี้ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นเทพธิดาที่หลงใหลในความลับที่แสนเแซ่บ” โดยหลังจากเทรนด์นี้เป็นกระแส จนเริ่มมีคนทำตามเยอะขึ้น ก็มีทั้งแพทย์ออกมาเตือนถึงสุขอนามัย และอาจเสี่ยงติดเชื้อโรค พร้อมทั้งมีคนทำคลิปออกมาเตือนว่าถึงความไม่เหมาะสม และแนะว่าควรใช้น้ำหอมที่จำหน่ายทั่วไปจะดีกว่า ข้อมูล : dailymail.co.ukภาพ : TikTok […]