- Page 299 of 471

ฉันจะไม่ลืม! 8 นางแบบ เผยความรู้สึกในการร่วมเดินแบบ ชุดไทยพระราชนิยม

หนึ่งในกิจกรรมวันแม่ที่งดงาม เป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงวันแม่ที่ผ่านมาคือการแสดงแบบ ชุดไทยพระราชนิยม The Creation of HM Queen Sirikit : The Eight Style of Thai National Dress ณ พระลานพระราชวังดุสิต ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบนี้ ประกอบด้วย ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจิตรลดา และชุดไทยเรือนต้น  ซึ่งเป็นชื่อพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการนี้มีนางแบบกิติมศักดิ์ 8 ท่านด้วยกัน ที่ได้รับเกียรติให้มาแสดงแบบชุดไทย ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ คุณเจี๊ยบ-พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ และหลังจากห้วงเวลาอันทรงค่าผ่านไป นางแบบทั้งแปดก็ได้เผยความรู้สึกผ่านอินสตาแกรม ดังนี้ คุณหน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ในชุดไทยจักรพรรดิ (ภาพ :IG@kun_jun และ looknam_makeup) “เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙ ทรงพระชนมพรรษา๘๕ พรรษา […]

นางแบบ 180 ซม. มิกิ-ชัชฎา ลูกสาว หมู-ดิลก ภูมิใจเขียนชื่อพ่อเป็นไอดอลส่งงานอาจารย์

พกความสูง 180 เซนติเมตร จนได้เป็นนางแบบของมหาวิทยาลัย สำหรับ มิกิ-ชัชฎา ทองวัฒนา ลูกสาวคนสวยขายาวของนักแสดงรุ่นเก๋า หมู-ดิลก ทองวัฒนา เห็นคุณพ่อหมูสร้างผลงานด้านการแสดงผ่านจอโทรทัศน์มาตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้เรื่องเหล่านี้ซึมซับต่อลูกสาว มิกิ-ชัชฎา ทองวัฒนา ที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และด้วยใบหน้าเฉี่ยวเก๋ บวกกับส่วนสูงถึง 180 เซนติเมตร ก็ทำให้สาวมิกิกลายเป็นนางแบบของมหาวิทยาลัย ที่มีผลงานด้านเดินแบบและถ่ายแฟชั่นเข้ามา สำหรับมิกินั้น แม้จะเป็นลูกสาวของนักแสดงชื่อดัง แต่ก็เลือกชอบที่จะอยู่นิ่งๆ ไม่ป่าวประกาศให้ใครทราบว่า ตัวเองเป็นลูกดารา ส่วนถ้าใครจะมารู้เองทีหลังนั่นก็เป็นอีกกรณีไป เพราะเธอไม่ชอบให้ใครเข้าหาเธอด้วยผลประโยชน์ และด้วยชีวิตที่เห็นคุณพ่อมีผลงานด้านจอโทรทัศน์บ่อยๆ เธอจึงได้เผยผ่านบทสัมภาษณ์กับทางแพรวดอทคอม นี้ว่า ตอนอาจารย์สั่งงานให้เขียนเกี่ยวกับไอดอลที่เป็นบุคคลสาธารณะ เธอจึงไม่คิดนานที่จะเขียนชื่อพ่อของเธอ หมู-ดิลก ทองวัฒนา ลงไป

จดจำไม่มีวันลืม “หนุ่ม สันติสุข”เศร้าสูญเสียคุณแม่ในวันแม่แห่งชาติ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเพราะชีวิตคนเราสั้น-ยาวไม่เท่ากัน เช่นเดียวกับ “หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ”ที่สูญเสียคุณแม่ผู้เป็นที่รักไปในวันแม่แห่งชาติปีนี้ กลายเป็นข่าวฮือฮาทั่วโซเชียลสำหรับข่าวคุณแม่ของนักแสดงรุ่นใหญ่“หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ”ที่ชีพจรกลับมาเต้นอีกครั้งราวกับปฎิหาริย์หลังหยุดไปนานหลายชั่วโมง แต่เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนไปนานจึงทำให้สมองเสียหาย แม้จะอาหารดีขึ้นมีการทานอาหารทางสายยางและก็หายใจมีการขยับร่างกายได้ แต่กลับไม่รู้สึกตัว โดยหลังจากย้ายจากไอซียูไปชั้นผู้ป่วยปกติได้เพียง 3 วัน คุณแม่ของนักแสดงรุ่นใหญ่จากไปในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.2560 ทั้งนี้เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาครอบครัวดารารุ่นใหญ่ได้จัดพิธีพิธีรดน้ำศพ พิธีสวดอภิธรรม ณ วัดบำเพ็ญใต้ ซ.รามคำแหง 187 โดยนักแสดงดังได้เผยเกี่ยวกับอาการของคุณแม่ก่อนที่จะลาโลกไปโดยกล่าวว่า“ครั้งนี้ไม่แล้วครับเพราะว่าชีพจรหยุดสนิทไม่มีการหายใจแล้วก็หมอเฝ้าสังเกตอาการอยู่จนกระทั่งตอนเช้าถึงได้เข้าห้องเย็น สำหรับอาการก่อนหน้านี้คุณหมอบอกว่ามีหลายเคส มันเป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้เพราะร่างกายมนุษย์มันไม่เหมือนกันในแต่ละคน บางคนก็หยุดไปนานกว่านี้ก็กลับมาได้ บางคนถึงขั้นเข้าไปในห้องดับจิตแล้วกลับมาได้ก็ยังมี แล้วในเรื่องของสมองก็แล้วแต่คน แต่ส่วนใหญ่ขาดออกซิเจน5นาทีสมองก็เสียหมด 100%แล้ว บางคนขาดไป20นาทีแต่สมองเสียหายแค่นิดเดียวก็มี แต่พี่เองก็ทำใจในระดับนึงแล้ว” “3วันที่ผ่านมาก็เครียดพอสมควร ไม่อยากให้คุณแม่เป็นอย่างนี้เพราะเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่เหมือนกับต้องทุรนทุรายหายใจ แต่โดยทางการแพทย์แล้วเขาก็ต้องรักษาไปแบบนี้ 3 พี่น้องก็ผลัดกันเฝ้าคุณแม่ไม่ได้นอน เพราะต้องดูอาการใกล้ชิดตลอดเวลา เรื่องเสียชีวิตก็เป็นปกติ จริงๆอยากให้อยู่นานๆให้อยู่ตลอดไปแต่เมื่อสังขารท่านเป็นแบบนี้ก็ไปตาม วัฏจักร เกิด, แก่, เจ็บและตายเป็นเรื่องปกติ อยากให้คุณแม่ไปสบายเพราะเราเคยขาดอากาศหายใจแป๊บเดียวยังรู้สึกทรมานเลย” เมื่อถามถึงความรู้สึกสูญเสียคุณแม่ในวันแม่นั้น “พี่หนุ่ม”กล่าวว่า “ก็จะได้ระลึกถึงคุณแม่ได้ชัดเจนที่สุด ก็ขอบคุณคุณพ่อ-คุณแม่ที่ได้เลี้ยงดูมาอย่างดี […]

รวยแค่ไหนก็ยังต้องการ! 12 คุณแม่ไฮโซ กับโมเม้นต์อุ่นรักวันแม่

ข้ามคืนวันแม่ 12 สิงหาคม เปิดอินสตาแกรมแล้วเจอโพสต์อุ่นรักระหว่างคุณแม่ คุณลูก บานตะไท ดูแล้วก็สุดแสนดีใจว่าสังคมไทยยังเปี่ยมด้วยแรงกตัญญู สะดุดตาสุดคือไอจีของ คุณแม่ไฮโซ เซเลบริตี้คนดังในสังคมที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา บ้างก็คุณแม่เป็นฝ่ายอัพ บ้างก็คุณลูก แต่ล้วนดีงาม เพราะแต่ละบ้านเขามากันแบบง่ายๆ พวงมาลัย การ์ดทำมือ เค้กของหวาน ดูไม่อู้ฟู่เหมือนยอดเงินในบัญชีธนาคารเลยละ เห็นแล้วเลยอยากแชร์ เพื่อประกาศว่าไม่ว่าจะเป็น คุณแม่ไฮโซ หรือไม่ไฮโซ สิ่งที่หัวอกคนเป็นแม่ต้องการล้วนไม่แตกต่าง นั่นคือ การแสดงออกถึงความรักของลูกที่มีต่อแม่ คุณหญิงต้น มล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี กับคุณตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร ผลัดกันอัพไอจีด้วยภาพชุดเดียวกันคือใส่โททัลลุคขาวพร้อมมาลัยขาว โดยคุณแม่มาด้วยข้อความ “ลูกน้อยสุดที่รักของแม่ ขอบใจมากจ้ะ 12 สิงหาคม 2560” ส่วนคุณลูกก็ซึ้งไม่แพ้ “คืนนี้กับคุณแม่ สุขสันต์วันแม่นะคะ ขอบคุณสำหรับอ้อมกอดที่อบอุ่นเสมอ รักแม่ค่ะ” (ภาพ : IG@piyapas และchitpas) คุณแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ มอบมาลัยงามวิจิตรให้คุณแม่ยุพา พร้อมขึ้นข้อความว่า “ที่สุดของชีวิตลูก❤️ สุขสันต์วันแม่” (ภาพ : IG@panglamsam) คุณแพร-พัชรพิมล […]

ดีของลูกคือแค่มีเรา วริศรา ลี้ธีระกุล อดีตมิสเอเชีย 2531 หนีเมืองกรุง ปั้นสุข ใช้ชีวิตที่เชียงดาว

“ไม่ห่วงว่าดีที่สุดคืออะไร เพราะดีของลูกคือแค่มีเรา” หนึ่งในบทสนทนาจากหัวอกคนเป็นแม่ที่มองความสุขและชีวิตของลูกคือที่หนึ่ง โดยเจ้าของคำพูดนี้ก็คือ โรส-วริศรา มหากายี หรือ วริศรา ลี้ธีระกุล ผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายจากเวทีประกวดนางสาวไทยปี 2531 และเป็นตัวแทนสาวไทยประกวดเวทีมิสเอเชีย จนคว้าตำแหน่งมิสเอเชีย ประจำปี 2531 ที่ประเทศอังกฤษมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับการเดินเข้าสู่วงการบันเทิง รับหน้าที่พิธีกรและนักแสดง ก่อนที่จะผันชีวิตจากเมืองกรุงไปอยู่ที่เชียงดาวเพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

เบลล่า-ราณี ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างดีและมีความสุขเพราะคำสอนของแม่

ในตอนเด็กๆเราอาจจะไม่ค่อยใส่ใจกับคำสั่งสอนสักเท่าไหร่ แต่พอเติบโตขึ้นเราถึงตระหนักได้ว่าคุณพ่อ-คุณแม่เห็นภาพในอนาคตเราได้ชัดเจนกว่าใคร และทำให้เราเข้าใจว่าคำที่ท่านเคยบอกไว้คือเรื่องจริง เช่นเดียวกับ เบลล่า-ราณี แคมเปน นางเอกชื่อดังที่เล่าให้ฟังว่าคำสอนของแม่ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข บางสิ่งบางอย่างเราเรียนรู้ได้จากในห้องเรียน แต่บางครั้งประสบการณ์ตรงก็สามารถสอนอะไรให้เราได้มากกว่าการศึกษาในห้องสี่เหลี่ยม โดยเฉพาะการใช้ชีวิตซึ่งผู้ที่คอยแนะนำได้ดีที่สุดก็คือคุณพ่อ-คุณแม่ ซึ่ง เบลล่า-ราณี แคมเปญ นางเอก ได้เปิดเผยว่าเธอเติบโตมาเพราะคำสอนที่ดีและเข้าใจโลก “ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวเราก็จะสนิทกับคุณแม่มากเวลามีเรื่องอะไร”เบล”ก็จะเล่าให้แม่ฟังทุกๆอย่างและคุณแม่เป็นคนที่สอน “เบล”ให้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างดีและมีความสุข คุณแม่ค่อนข้างใจกว้างและรับฟังปัญหาทุกเรื่อง “เบล”รู้สึกว่า”เบล”โตมาเพราะคำสอนที่ดีและเข้าใจโลกและเข้าใจผู้คนจริงๆ” “ถามว่าตอนนี้รู้สึกห่วงคุณแม่ในเรื่องไหนบ้าง? “เบล”คิดว่าเรื่องเดียวที่ห่วงคือเรื่องสุขภาพและก็แอบมีห่วงกลัวคุณแม่จะเหงาเพราะคุณพ่อเพิ่งจากไปไม่นาน ตอนนี้คุณแม่มีกิจกรรมให้ทำและมีน้องหมามาให้เลี้ยงให้แบบคุณแม่ได้มีความสดใสในบ้าน จริงๆกับคุณแม่บอกรักกันบ่อยมากก่อนนอนก็ต้องหอมแก้ม และตื่นเช้ามาคุณแม่ก็จะอวยพรก่อนไปทำงาน เราค่อนข้างผูกพันกันมากๆอยู่แล้วเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน รักแม่ทุกๆวันรักแม่ที่สุดในโลกเลยนะคะ” ภาพจาก @bellacampen  

อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ 4 คุณแม่นางงามเลี้ยงเดี่ยว เหนื่อยก็ทน เพราะรักลูกเต็มหัวใจ

ผู้หญิงจะเข้มแข็งมากที่สุดตอนไหน หากถามสาวๆ หลายคนอาจได้หลายคำตอบ แต่หนึ่งในคำตอบส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น ช่วงเวลาของการเป็นคุณแม่ที่ต้องเสียสละตั้งท้องนานถึง 9 เดือน พิถีพิถันเรื่องการดูแลตัวเอง การทานอาหารอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วถ้าหากต้องพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลายเป็นซิงเกิลมัม เป็นทั้งคุณแม่และคุณพ่อให้ลูกดังเช่น 4 คุณแม่นางงามเลี้ยงเดี่ยว ตามด้านล่างนี้ คงไม่ต้องพูดถึงว่า พลังความเข้มแข็งของพวกเธอต้องดับเบิ้ลทวีคูณแค่ไหน เพราะตัวเองเหนื่อยอย่างไร ก็ขอให้ลูกได้เติบโตอย่างสบาย มีอนาคตที่ดี เป็นที่รักของผู้คน และเป็นคนดีเข้ากับสังคมได้ก็เพียงพอ

โมเมนต์สุดน่ารักของ “เป๊ก – ผลิตโชค” กับคุณแม่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและกำลังใจสำคัญ

เป๊ก – ผลิตโชค พูดชื่อนี้แล้วนึกถึงอะไรกันบ้าง นักร้องเสียงดี หน้ากากจิงโจ้ คุณหลวง เฮีย สามี หรือว่า อ้วน อุ้ย! ฮาๆๆ หลายคนคงชินกับบทบาทของผู้ชายคนนี้บนเวทีที่ถือไมค์ร้องเพลง โยกตัวไปมาตามจังหวะดนตรี แต่ภาพความเป็นส่วนตัว ถ้าไม่ใช่นุชของเฮียเป๊กแล้วก็อาจจะไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะโมเมนต์ที่หนุ่มเป๊กอยู่กับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนๆ วันนี้เราขอพานุชไปเจอกับความน่ารัก ความอ่อนโยนในอีกมุมของผู้ชายคนนี้ ซึ่งนุชทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าเฮียเป็นคนยังไง แต่เนื่องในโอกาสวันแม่ แพรวดอทคอมอยากจะนำเสนอเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างหนุ่มเป๊กกับคุณแม่ เพื่อตอกย้ำความรักของแม่ลูกคู่นี้ให้อบอวลไปด้วยความอบอุ่นในวันแม่อีกครั้ง ดูเป็นแม่ลูกที่สนิทกันดีจัง สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่รู้จักหนุ่มเป๊กในมุมนี้มากนัก หรือพูดได้ว่าคนนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับอาจไม่รู้เรื่องนี้เลยก็ได้ เรื่องราวของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่หนุ่มเป๊กมีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง เลยเลือกอยู่กับคุณพ่อ เพราะคุณแม่แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่ประเทศฮอลแลนด์ ถึงแม้ตัวจะห่าง แต่ใจใกล้กันเสมอ ไม่ว่ามีเรื่องอะไร หนุ่มเป๊กจะเล่าให้คุณแม่ฟังตลอด จนมีครั้งหนึ่งที่หนุ่มเป๊กเลือกจะปิดบังและมีความลับกับคุณแม่ครั้งแรก จนทำให้คุณแม่ต้องหลั่งน้ำตา ฟังแล้วเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเลยเนอะ แต่ผิดคาด เพราะกลับเป็นเรื่องราวที่ได้ฟังก็เต็มไปด้วยความประทับใจ ลูกชายที่เล่นกับแม่แบบนี้มีเสน่ห์เนอะ น่ารักกกก หนุ่มเป๊กอยากจะไปเซอร์ไพร้ส์คุณแม่ที่ฮอลแลนด์ ทั้งที่ปกติจะไปก็ต้องบอกคุณแม่ทุกครั้ง เพราะคุณแม่จะมารับที่สนามบินและจัดการให้ทุกอย่างแม้แต่จองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งรอบนี้หนุ่มเป๊กกะจะไปทำให้คุณแม่ประหลาดใจ เลยลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนกำลังดำเนินการจะโทร.เช็กกับคุณแม่บ่อยกว่าปกติ จนคุณแม่สงสัยว่าลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้ถามบ่อยจัง ถามแม้กระทั่งสภาพอากาศที่ฮอลแลนด์ ฮาๆๆ หลังจากเครื่องบินแลนดิ้ง หนุ่มเป๊กออกมาตรงด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยความมั่นใจ […]

ทำเลย ไม่น่าอาย “ญาญ่า” หนึ่งใน 11.88% ลูกตัวอย่างที่ชอบบอกรักคุณแม่ทุกวัน

หลายปีที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างรณรงค์ให้คนในครอบครัวได้บอกรัก แสดงความรักต่อกัน โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษๆ เช่น วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ มักจะมีแคมเปญดีๆออกมาให้ได้ร่วมสนุก ซึ่งทำให้ลูกที่โตๆแล้วหลายคนเปิดใจที่จะบอกรักคุณแม่เพิ่มมากขึ้น ถึงการแสดงความรักต่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะมีหลากหลายวิธี แต่วิธีแบบเบสิกน่าจะเป็นอะไรที่ประทับใจคุณแม่มากที่สุด ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้นิด้าโพลได้เปิดเผยตัวเลขความถี่ในการบอกรักแม่ของคนไทยออกมา ซึ่งผลปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 28.17 ระบุว่า ไม่เคยบอกรักเลย รองลงมาร้อยละ 21.43 ระบุว่า บอกรักนานๆครั้งในรอบ 1 เดือน ร้อยละ 20.95 ระบุว่า บอกรักนานๆครั้งในรอบ 1 ปี ร้อยละ 12.60 ระบุว่า บอกรักกันเป็นบางครั้ง 1 – 3 วัน/สัปดาห์ ร้อยละ 11.88 ระบุว่า บอกรักกันทุกวัน และร้อยละ 4.97 ระบุว่า บอกรักกันเกือบทุก 4 – 6 วัน/สัปดาห์ และจากผลสำรวจนี้ทำให้เห็นว่าลูกๆเริ่มที่จะบอกรักคุณแม่กันมากขึ้น ซึ่ง “ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์” […]

เจาะลึกหญิงแกร่ง คุณแม่ฟูลไทม์ ก้าวข้ามทุกข้อจำกัด ปั้นธุรกิจด้วยใจรัก สร้างรายได้หลักล้านต่อเดือน

แค่เพียงจุดเล็กๆของเรื่องราวบางเรื่องในชีวิตที่บางคนมักมองข้ามอย่างเรื่องสุขภาพร่างกายของตัวเราเองก็สามารถทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งทำตามฝันจนประสบความสำเร็จได้ วันนี้ แพรว มีบทสัมภาษณ์เจาะลึกของ “หญิง – จิระนันท์ พิพัฒน์ปฏิภาณ” เวิร์คกิ้งวูแมนโปรไฟล์ไม่ธรรมดา วิสัยทัศน์ดีมาเล่าสู่กันฟังแบบละเอียดยิบ อ่านกันเพลินๆ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ที่อยากทำธุรกิจแล้วมีข้ออ้างในชีวิตหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการไม่มีเวลา ต้องดูแลลูก ทำงานเหนื่อย กลัวความเสี่ยงในการลงทุนจนไม่ได้ริเริ่มทำตามความฝันของการเป็นเจ้าของธุรกิจ เคยเป็นแอร์โฮสเตสมาก่อน ทำไมถึงเบนเข็มมาทำธุรกิจ “ช่วงที่หญิงทำงานแอร์โฮสเตสต้องบินไปต่างประเทศเป็นประจำ บินรอบหนึ่งก็ต้องอยู่ 1-2 สัปดาห์ ทำให้มีโอกาสเจอครอบครัวและแฟนน้อยมาก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ มาสามปี จนวันหนึ่งตัดสินใจแต่งงาน สามีเลยให้ออกจากงานมาช่วยดูพวกเอกสารบัญชีธุรกิจส่วนตัวของเขา เลยมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แรกๆ ก็สบาย แต่พอมีลูกทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะงานบัญชีที่ทำต้องใช้ความละเอียดมาก ใครมีลูกคงนึกภาพออกนะคะว่าตอนลูกเล็กๆ ต้องตื่นตลอดเวลาทุก 2–3 ชั่วโมง แต่หญิงก็ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้ามีลูก หญิงจะใส่ใจดูแลเขาให้ดีที่สุดด้วยตัวเอง ประกอบกับต้องแบ่งเวลาทำงานด้วย ยิ่งไม่มีเวลาดูแลตัวเองเข้าไปใหญ่ อาหารก็ไม่ค่อยมีเวลากิน พอลูกหลับสี่ห้าทุ่มถึงจะมีเวลาเคลียร์งานเสร็จเกือบตีหนึ่งตีสองตลอด พอลูกตื่นก็ต้องตื่นตาม หญิงก็ปล่อยตัวโทรมเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเกือบสองปี จนเริ่มรู้สึกว่าตอนเป็นแอร์โฮสเตสผิวพรรณและสุขภาพดีกว่านี้ เริ่มทนไม่ไหวกับสภาพตัวเองต้องอาศัยเข้าศูนย์ความงามทำทรีทเมนต์ซ่อมแซมผิว ถึงแม้จะได้ผิวดีขึ้นแต่สุขภาพกลับแย่เหมือนเดิม หญิงยังรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลาทำงานเริ่มไม่ค่อยไหว ผมร่วงปวดหัวไมเกรน สามีเลยให้หญิงหยุดช่วยงานที่บริษัทเขาแล้วเลี้ยงลูกอย่างเดียว “ช่วงนั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นทำให้พอมีเวลาศึกษาหาความรู้เรื่องการดูแลตัวเองด้วยวิตามินเสริมมากขึ้น ตัดสินใจหาหนังสือสุขภาพมาอ่านอย่างจริงจัง เกี่ยวกับการดูแลตัวเองตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ และหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสารอาหารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณ จนรู้สึกมั่นใจว่าแท้จริงแล้วร่างกายเราสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ทั้งผิวพรรณและสุขภาพภายในจากสารอาหารธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ […]

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก…จากผืนฟ้าสู่มาตุภูมิ (ตอนที่30)

หม่อมเจ้าการวิก เสด็จกลับเมืองไทยเป็นครั้งแรก หม่อมเจ้าการวิก ก็ทรงกระโดดร่มเข้าเมืองไทยอย่างปลอดภัย  โดยเป็นการเสด็จกลับเมืองไทยเป็นครั้งแรก หลังจากเสด็จไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศสตั้งแต่ยังทรงเยาว์  นับเป็นเวลานานกว่าสิบปี ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์บ้านเมืองอย่างมากมาย เมื่อพันโท ฮัดสัน หรือ ไอ้สบู่ ที่พวกเราตั้งชื่อให้ กลับถึงอังกฤษแล้ว แทนที่จะไปเป็นที่ปรึกษาทางทหารกลับอาสามากระโดดร่มเข้าเมืองไทย เพราะว่ามีความชอบพอกับพวกเราและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก เมื่อเขามาถึงเมืองไทยแล้วก็อยู่กับชาวบ้านได้ดี แม้เขาจะเป็นคนแข็งแกร่ง แต่กับท่านชิ้นแล้ว เขายอมโอนอ่อนผ่อนตามทุกอย่าง จนท่านเรียกว่า ‘ไอ้ผู้หญิงโซฟี่’ เท่าที่ผมจำได้ เขาเคยขัดท่านอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่อยู่เมืองมัทราส ท่านโซฟี่ และผมเดินตามถนนไปยังที่แห่งหนึ่ง ระยะทางค่อนข้างจะไกล แต่ท่านทรงขี้เกียจเดิน และอากาศก็ร้อน ท่านจึงเรียกรถลากคันหนึ่ง โซฟี่เห็นเข้าบอกว่า “อย่าไปทรมานเขา ตัว (แขก) เล็กนิดเดียวยังต้องลากทั้งรถที่หนัก และท่านเองก็ตัวใหญ่ ท่านควรเดินไปเองดีกว่า” แต่ท่านก็ทรงขึ้นนั่งบนรถลากเฉย… ก่อนจะไปฝึกกระโดดร่ม ท่านเคี่ยวเข็ญมากทั้งผมและโซฟี่ รับสั่งว่า “ไอ้โซฟี่อยู่หน้า อั๊วอยู่กลาง ลื้ออยู่ข้างหลัง หรือใครจะอยู่หน้าหรืออยู่หลังก็ได้ แต่อั๊วต้องอยู่กลาง แล้วโดดพร้อมกัน” ผมก็ทูลท่านว่า “ไม่มีอะไรหรอก โดดมาปั๊บ จับกางเกงให้ดีๆ แล้วทำตัวให้ตรง อย่าถ่างขา กางแขน […]

สะใภ้มโนรู้ไว้ หล่อแค่ไหนก็ไม่อวย! เลี้ยงลูกชายสไตล์แม่ปิ่น หนุ่มบ้านวรรธนะสินต้องเป็น “สุภาพบุรุษ”

กรี๊ดกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนลูกทั้ง 3 ของครอบครัววรรธนสินเริ่มโตเป็นหนุ่มกันแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังคอยดูแลหนุ่มๆบ้านนี้ก็มีแค่ผู้หญิงคนเดียวนั่นก็คือ แม่ปิ่น-เก็จมณี เธอเป็นภรรยาของแร็พเตอร์รุ่นเก๋า พ่อเจ-เจตริน และเป็นคุณแม่ของ 3 หนุ่ม 3 เจ้า

ชาตินี้ไม่มีวันลืม นัท มีเรีย ซึ้งในน้ำพระทัย สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เล่าเรื่องแม่ป่วยโรค ALS

นอกจากนัท มีเรียจะมีประสบการณ์ใกล้ชิดพระองค์ท่านในฐานะศิลปินที่ได้ทำงานถวายแล้ว ในส่วนของคุณแม่ (จินดา เต็งมีศรี) ก็ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยเป็นคนไข้ในพระราชินูปถัมภ์

10 ปี นัท มีเรีย ไม่เคยได้ยินเสียงคุณแม่ แต่ยังจดจำคำบอกรักครั้งเก่าได้ไม่ลืม

“วันแม่ปีนี้ ก็เป็นปีที่ 10 แล้ว ที่แม่ยังนอนป่วยอยู่ ทุกๆวันคาดหวังให้แม่หายดี อยากได้ยินเสียงพูดดังลั่นบ้านเหมือนเมื่อก่อน อยากมีคนมาเจ้ากี้เจ้าการให้ต้องกินโน่นกินนี่ ทุกๆ วันก็ยังคงบอกรักแม่ ถึงแม้แม่จะไม่สามารถตอบคำว่ารักกลับมา แต่คำว่ารักของแม่ยังคงก้องอยู่ในความรู้สึกของลูกเสมอมา” ข้อความสุดซึ้งที่ปรากฏนี้คือโพสต์ล่าสุดในอินสตาแกรมของนักแสดงสาวชื่อดัง นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้ ลูกสาวคนเก่งของ “คุณแม่จินดา” ที่ถ่ายทอดความรักและความเจ็บปวดเป็นตัวอักษรเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ แม้เป็นข้อความสั้นๆ แต่กลับบีบหัวใจเป็นอย่างยิ่ง จึงมีแฟนๆ เข้าไปให้กำลังใจ นัท มีเรีย เป็นจำนวนมาก สำหรับอาการป่วยของ“คุณแม่จินดา” นั้น นัทได้เคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารแพรวฉบับ 839 ว่า “คุณแม่ป่วยเป็นโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษา มีเพียงยาที่ช่วยประคองอาการ เราเคยทดลองรักษาด้วยการทำสเต็มเซลล์ แต่ไม่ได้ผล อาการของโรคนี้คือผู้ป่วยจะไม่มีแรง ซึ่งคุณแม่ของนัทเองก็มีอาการเซลล์ประสาทไขสันหลังเสื่อมอยู่แล้ว ทำให้ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการขยับปาก การกลืน การรับประทานอาหาร และยังรวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่ไม่สามารถบีบรัดเองได้ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหัวใจ และสมอง “หลังจากนัทดูแลอาการป่วยของคุณแม่ได้ประมาณ 3 ปีกว่า พี่ตุ๊ก – เดือนเต็ม […]

เอาใส่ใจและคิดถึงคนอื่น แม่นิด สร้างลูกคุณภาพ แต้ว นางเอกขวัญใจมหาชน

สมบัติใดจะล้ำค่าเท่าคำสอนจากบิดา-มารดา ซึ่งถือเป็นพรอันประเสริฐนำทางให้แสงสว่างสดใสกับชีวิตของลูกๆ เช่นเดียวกับ แม่นิด รวงทอง ผู้เป็นที่รักและเคารพของนางเอกดัง “แต้ว-ณฐพร” ที่บอกว่าคำสอนสำคัญความสุขของตัวเราและคนรอบข้างต้องรู้จักเอาใจใส่และให้คิดถึงคนอื่นด้วย นักแสดงหญิงแห่งปี “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” นางเอกดังจากละครฮิต “นาคี” กวาดรางวัลในฐานะนักแสดงนำหญิงยอมเยี่ยมควบคู่กับรางวัลขวัญใจมหาชนมาอย่างมากมาย ซึ่งความสำเร็จที่เห็นนอกเหนือจากการพัฒนาตนเองแล้ว เบ้าหลอมที่ทำให้ “แต้ว” เป็นที่รักและมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างในวันนี้ก็เพราะคำสอนจาก แม่นิด รวงทอง เตมีรักษ์ นั่นเอง “แพรวดอทคอม” ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่ของนักแสดงสาวคนดัง ที่ตอนนี้มีชื่อเสียงดังไกลทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งคุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่า “แต้ว” เป็นคนที่ไม่เคยนำความลำบากใจมาให้คุณแม่เลย ตั้งแต่เด็กเป็นคนมีเหตุผลเสมอ “น้องแต้วเป็นเด็กที่มีเหตุผลมาก จะว่าดื้อหรือไม่ดื้อ ถ้าเขาเข้าใจแล้วมันก็ไม่ยาก สำหรับคำสอนของแม่ แม่คิดว่าในเรื่องของความสุขและจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราและให้คิดถึงคนอื่น แต่ไม่ขนาดที่ว่าเคี้ยวเข็ญ เพราะจากที่ดูๆแล้ว ‘พี่แต้ว’ มีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว สิ่งที่เขาเป็นตัวของตัวเอง ฟอร์มตัวเป็นตัวเขา เป็นสิ่งที่แม่ภูมิใจมาก” กับวันแม่แห่งชาติที่จะถึงนี้ “แต้ว” มีเกริ่นๆเรื่องเซอร์ไพร้ส์บ้างไหม? “จริงๆเราไม่ได้โฟกัสว่าวันไหนเป็นวันพิเศษ เพราะทุกวันเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นในวันพิเศษคือวันที่เราจะมีความสุขด้วยกัน ที่มีเวลาให้กันมากๆ” อาหารโปรดฝีมือคุณแม่ของ “แต้ว” คืออะไร? “จริงๆแม่ไม่ได้มีโอกาสทำอาหารมากหรอกนะคะ แต่เมื่อตอนเด็กๆเราอยู่ในกลุ่มคนมอญ คุณย่าทวดเป็นมอญ […]

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก…เล่าถึงท่านชิ้น-หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ (ตอนที่29)

หม่อมเจ้าการวิก ในห้วงยามที่สงครามโลกในเอเชียใกล้จะสิ้นสุดลง หม่อมเจ้าการวิก ในห้วงยามที่สงครามโลกในเอเชียใกล้จะสิ้นสุดลง หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ  สวัสดิวัตน์ ได้เตรียมเดินเดินทางเข้ามาปฏิบัติการในเมืองไทย แต่ทางอังกฤษสงสัยว่า จะทรงได้รับการต้อนรับจากเสรีไทยในเมืองไทยหรือไม่ เพราะสถานะความเป็นเจ้าของท่าน กับผู้นำเสรีไทยในเมืองไทย ที่เคยเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อพ.ศ.2475 ผมขอย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ในปีพ.ศ.2488 ซึ่งในปีนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นความหวังของคนทั่วโลกที่อยากจะเห็นความสงบสุขกลับคืนมาอีกครั้ง แต่กว่าจะบรรลุถึงจุดนั้นมิใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว ทรัพยากรอันมีค่ารวมถึงชีวิตของมนุษยชาติต้องถูกสังเวยในเปลวเพลิงแห่งสงครามเหลือนับคณา… เย็นวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2488 คณะซาวันนา (SAVANA) นำโดยทศ (หัวหน้าคณะ) จีริดนัย (ช่างวิทยุ) และบุญส่ง (ผู้ช่วย) ได้รับคำสั่งให้ขึ้นเครื่องบินลิเบอเรเตอร์ (B-24) เพื่อกระโดดร่มเข้าเมืองไทยที่ภูกระดึง จังหวัดเลย โดยมีเสนาะ ประโพธ และเทพ พร้อมสมาชิกเสรีไทยในประเทศจำนวนหนึ่งมารอรับ ก่อนหน้านั้น ทางอังกฤษพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะติดต่อกับไทยหรือให้ไทยส่งคนมาติดต่อ จนตอนหลังถึงตัดสินใจเลือกหาบุคคลที่อาสาเข้ามาประเทศไทยเพื่อติดต่อกับ ‘รู้ธ’ (นายปรีดี) หลังจากที่ทราบว่า ทางอเมริกันติดต่อไทยได้แล้ว และกำลังจะส่งนายทหารอเมริกันเข้าไทย แต่ทาง S.O.E. ลอนดอนไม่ยินยอมให้กิลคริสต์ ซึ่งเคยทำงานในสถานทูตอังกฤษที่กรุงเทพฯและพูดไทยได้เข้ามา เพราะระแวงว่าทหารฝรั่งในกองกำลัง 136 มีความชอบพอลำเอียงต่อคนไทยและเชื่อคนไทยง่ายๆ ปู่จุดกับกิลคริสต์จึงต้องเสียเวลาค้นหานายทหารอังกฤษที่มีคุณสมบัติเหมาะสม คือต้องเป็นคนอังกฤษ มีสุขภาพดีพอจะกระโดดร่มได้ รู้จักเมืองไทยและสถานการณ์ในประเทศพอควร และต้องมีความรู้ทางทหารพอที่จะพิจารณาแผนการทางทหารในระดับสูงได้ ทั้งกับฝ่ายไทยและกองบัญชาการสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตร […]

“ซูโม่”แชมป์ “The Mask Singer ซีซั่น2″ด้านรอง“บี”เผย“ทุเรียน”คือแรงบันดาลใจให้มาแข่ง

เรียกว่าเปิดศึกดวลลูกคอรอบสุดท้ายกันอย่างเข้มข้น สำหรับการแข่งขัน”The Mask Singer ซีซั่น2″ศึกแข่งขันรอบตัดเชือกระหว่าง “หน้ากากจากัวร์”ที่ใครๆก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือ “บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง” กับ“หน้ากากซูโม่”ที่ใครๆก็ว่าน่าจะเป็นเจ้าหญิงอาร์แอนด์บี โดยในวันนี้“หน้าซูโม่”มาในเพลง “Nobody’s Perfect จากศิลปิน Jessie J”ขณะที่”หน้ากากเสือจากัวร์” เลือกเพลงI’M SORRY (สีดา) จากศิลปิน The Rube มาแข่งขัน ซึ่งผลปรากฏว่าหน้ากาก ซูโม่ คว้าแชมป์ The Mask Singer ซีซั่น2 ไปได้สำเร็จในขณะที่รองแชมป์ตกเป็นของ“หน้ากากจากัวร์”ซึ่งเมื่อถอดหน้ากากกอดแฟนต้องตบเข่าดังฉาดเพราะเขาคือ“บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง”นักร้องหนุ่มชื่อดังผู้มีเสียงเป็นเอกลักษณ์ แทบว่าไม่พลิกโผไปจากความคิดเลย โดยหลังจากได้รองแชมป์ “บี-พีระพัฒน์” ได้เผยว่า “รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเวลา5เดือนที่ต้องแถไปเรื่อยๆรู้สึกคันปากมากเลย จริงๆแล้วผมเลี้ยงแมว ถ้าใส่หน้ากากแมวมันก็จะดูน่ารักไป”และกล่าวเสริมว่า “จริงๆผมโทรมาหารายการเองเพราะผมร้องเพลงมานานมากแล้ว10กว่าปีมีอาชีพเดียวด้วย ที่ผ่านมารู้สึกว่าวงการดนตรีไม่ค่อยสนุก จึงอยากมีหัวใจเต้นเหมือนตอนเข้าวงการใหม่ๆ กระทั่งถูกทักว่าเป็นหน้ากากทุเรียนผมก็เปลี่ยนความคิด ยิ่งหลังๆก็คนเอ่ยชื่อผมบ่อยจนภรรยาบอกว่าไปเถอะ ใจผมรู้สึกว่าอยากมาผมก็เลยมา” สุดท้าย “บี”ยังได้กล่าวขอบคุณที่เชียร์ทุกคนอีกด้วยโดยบอกว่า “ขอบคุณที่ทุกคนโหวตให้ผม ขอบคุณจริงๆผมไม่คิดว่าจะมาถึงรอบนี้ได้คิดว่า4คนก็หรูแล้ว มันจะเป้นพลังให้ผมกลับไปทำงานต่อไปในอาชีพของผม ผมอยากใครที่คิดว่าเราตัวเล็ก แต่เรามีพลัง แต่อาจจะไม่กล้าที่จะทำความฝันของตัวเอง ผมเคยเป็นคนที่ถูกมองข้าม เป็นคนที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำอะไรแบบนี้ได้ แต่ความรักในสิ่งที่อยากจะทำ […]

ชำแหละ OST.“เพลิงบุญ”ร้อนแรง! ไม่แพ้ละคร เนื้อเพลงคมกริบดั่งมีดกรีดใจ

ไม่ว่าจะหนังหรือละครปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงประกอบมีส่วนสำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ เพราะมีส่วนช่วยให้ผู้ชมเห็นภาพสะท้อนของตัวละครไม่ว่าจะพระเอก,นางเอก หรือตัวร้าย ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเพลงประกอบละครในปัจจุบันที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อละครเรื่องนั้นๆ มีส่วนช่วยส่งเสริมและบางครั้งก็ทำให้หลายซีนของละครกลายเป็นฉากที่น่าจดจำของผู้ชมได้ ดังนั้นหลายครั้งเราจึงได้เห็นเพลงที่ทำให้ละครดัง และละครที่ทำให้เพลงดังด้วยเหมือนกัน สำหรับ“เพลิงบุญ”ละครซึ่งถูกจับตามองมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะเปิดกล้อง เมื่อนางเอก “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์”ตอบรับบท “ใจเริง”นางร้ายของเรื่องขณะที่คู่พระเอก-นางเอกคือ “ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” รับบท “ฤกษ์”และ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” รับบท “พิมาลา”โดยเพลงประกอบละคร “เพลิงบุญ”อยู่ในการดำเนินการของเจ้าพ่อเพลงประกอบละคร “หนึ่ง ณรงค์วิทย์”แห่ง Chandelier Music ซึ่งเป็นผู้ดูแลเพลงประกอบละครของช่อง 3 และมีข่าวว่าวางไว้ 4 เพลงด้วยกัน 1.“แน่ใจเหรอ” เป็นเพลงที่สะท้อนตัวตนของ”ใจเริง”ได้ดี เห็นได้จากเนื้อหายียวนกวนโมโห เล่นลิ้นอยากจะบอกแต่เอ๊ะไม่บอกดีกว่า โดยเล่นกับคำว่า “แน่ใจเหรอ” ขับร้องโดย “ปนัดดา เรืองวุฒิ” “แน่ใจเหรอ ว่าเขาคือคนที่ใช่ แน่ใจเหรอ ว่าเขานั้นรักเธอจริง แน่ใจเหรอ ว่าเธอนั้นเป็นทุกสิ่ง หากมันเป็นความจริงไม่เห็นจะต้องวุ่นวายใจ แน่ใจเหรอ ว่าเขาเป็นคนเชื่อได้  แน่ใจเหรอ ว่าเขารักเดียวใจเดียวแน่ใจเหรอ ว่าเขาไม่เคยข้องเกี่ยว และมีเธอคนเดียวไม่เคยนอกใจใคร ถ้าอย่างนั้นที่เขานั้นหายไป ในคืนนั้นที่เธอต้องกลุ้มใจ […]

keyboard_arrow_up