หมิว-ณัชชา

ทำความรู้จัก หมิว-ณัชชา สาวน้อยตากลม ทายาทธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู

account_circle
หมิว-ณัชชา
หมิว-ณัชชา

บอกเลยว่า ใครเผลอจ้องตาสาวน้อยคนนี้อาจโดนตกหัวใจได้ง่ายๆ ครอบครัวของ หมิว-ณัชชา เตชะมงคลาภิวัฒน์ ทำธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ Audi และ Subaru รวมถึงธุรกิจโรงแรม CHANN BANGKOK-NOI ขณะที่เธอมีความชอบเกี่ยวกับความสวยความงาม ทั้งแฟชั่น เครื่องสำอางและงานในวงการบันเทิง  

ทำความรู้จัก หมิว-ณัชชา สาวน้อยตากลม ทายาทธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู และ ธุรกิจโรงแรม

จังหวะ+โอกาส

“หมิวเรียนที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School) จึงคุ้นกับระบบของโรงเรียนแบบอังกฤษ เดิมจึงตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ เพราะพี่ชายเรียนอยู่ที่นั่น

“แต่ช่วงมัธยม 4 หมิวลองสอบ IGCSE (International General Certificates of Secondary Education) และเรียน A-Level (Applied Knowledge Level) เพื่อใช้คะแนนทั้ง 2 อย่างรวมกันเพื่อยื่นศึกษาต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างนั้นหมิวใช้คะแนน IGCSE สอบเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนวัตกรรมบูรณาการ Bachelor of Arts and Science in Integrated Innovation (BAScii) รุ่นที่ 1 ด้วย ซึ่งเป็นการเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การทำสตาร์ทอัพ ซึ่งครอบครัวของหมิวทำธุรกิจกันหมด คุณพ่อ (คุณวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์) นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เจ้าของโชว์รูม Audi pattaya Subaru Pattaya Subaru Rama 3 และ Royde Autohaus รวมถึงธุรกิจ CHANN BANGKOK-NOI (โรงแรมชาน บางกอกน้อย) ทีแรกทุกคนงงว่าคณะนี้คืออะไร เนื่องจากเป็นรุ่นที่ 1 จึงยังไม่เห็นภาพ แต่พอหมิวอธิบายทุกคนก็สนับสนุนค่ะ

“ปรากฏว่า หมิวสอบติดที่นี่ตั้งแต่มัธยม 5 ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทุกในบ้านดีใจกันหมดเลยค่ะ

ค้นพบความหลากหลาย

“พอเข้ามาเป็นเฟรชชี่ปี 1 ได้รับเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74 สนุกมากเลยค่ะ แม้ตอนซ้อมจะเหนื่อยกันนานกว่าสามเดือน เพื่อให้ลีดทั้ง 15 คน เต้นพร้อมเพียงกัน ระดับมือเท่ากัน พอถึงวันแสดงจริงๆ รู้สึกดีมาก ได้กำลังใจจากหลายๆ คนที่มาเชียร์ แต่น่าเสียดายที่หมิวได้เป็นลีดรุ่นสุดท้ายแล้วค่ะ

“ช่วงเรียนปี 2 เกิดสถานการณ์โควิด-19 ต้องเรียนออนไลน์อย่างเดียวไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย กระทั่งปี 3 เทอม 2 สถานการณ์ดีขึ้น หลักสูตรของคณะให้เลือกระหว่างฝึกงาน หรือเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ 4 เดือน โดยเราสามารถติดต่อมหาวิทยาลัยที่สนใจแล้วไปเรียนด้วยตัวเอง หรือเลือกจากสถาบันที่คณะจัดไว้ให้ ซึ่งหมิวเลือกติดต่อเองไปที่ UAL (University of the Arts London) ประเทศอังกฤษ สาขา London college of fashion ความที่เรียนอินเตอร์มา และเพื่อนๆ มัธยมกำลังจะไปเรียนที่อังกฤษกันพอดี พี่ชายก็อยู่ที่นั่น ทำให้ตัดสินใจเลือกไม่ยากค่ะ

“แพสชั่นหนึ่งของหมิวตั้งแต่เด็กคือ ชอบแต่งตัว ดูแลตัวเอง ชอบของสวยๆ งามๆ หลายคนอาจเข้าใจคำว่าแฟชั่นคือเครื่องแต่งกายเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับหมิวคือการนำธุรกิจ แฟชั่น และลักซ์ชัวรี่ ทุกสิ่งที่หมิวชอบมารวมไว้ด้วยกัน ยิ่งเมื่อได้เรียนยิ่งรู้สึกว่าชอบด้านนี้จริงๆ ดีไซเนอร์ชื่อดังของไทยหลายคนก็จบจากมหาวิทยาลัยนี้ ประเทศอังกฤษยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบ้านของแฟชั่นที่สำคัญ หมิวรู้ตัวเลยว่าจะกลับมาเรียนต่อปริญญาโทที่นี่แน่นอน

“การได้ออกมาท่องโลกคนเดียวยังถือเป็นช่วงที่ได้ค้นพบตัวตนหลายด้าน เพราะนอกจากเรื่องเรียน หมิวยังได้ลองทำช่องยูทูบ @MIUNATSHAA ติดตามชีวิตการเรียน แฟชั่น เครื่องสำอางและท่องเที่ยวที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งหมิวอยากทำตั้งแต่เด็ก แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อม ไม่มีความมั่นใจ ตอนนี้โตขึ้นมีความกล้ามากขึ้น และการตอบรับก็ดีด้วยค่ะ

“ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกและเปิดโลกใหม่ ได้เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่าง เหมือนสถานการณ์ต่างบังคับให้ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวและปรับตัวเพื่อผ่านมันไปให้ได้

พันธสัญญา

“พอกลับมาเรียนปี 4 ทำวิทยานิพนธ์ (Capstone Project) เกี่ยวกับธุรกิจครอบครัว โดยจับกลุ่มกับเพื่อน 4 คนแล้วเลือกธุรกิจของเพื่อนในกลุ่มที่ยินดีให้เข้าไปศึกษางานที่บริษัท ค้นหาอุปสรรค หรือข้อบกพร่องที่ทำให้การทำงานติดขัด เพื่อนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าไปช่วยให้การทำงานของเขาราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มของหมิวเลือกศึกษาบริษัท อุดมโชคพลาสติก จำกัด จากนั้นก็สมัครฝึกงานเพิ่มเติมด้วยตัวเองที่ Sephora Thailand ประมาณสามเดือน ตำแหน่ง Social Media Marketing ดูแลเพจต่างๆ และหาคอนเทนต์ใหม่ๆ มานำเสนอ รวมถึงทำกราฟิก  เลือกฝึกงานที่นี่เพราะเป็นองค์กรขนาดใหญ่และหมิวชอบเครื่องสำอางมาก ในอนาคตเป้าหมายสูงสุดก็อยากมีธุรกิจเครื่องสำอางของตัวเองด้วย

“คุณพ่อขอหมิวไว้ว่าทันทีที่จบปริญญาตรีท่านอยากให้เรียนต่อปริญญาโทเลย เพราะกลัวหมิวจะสนุกกับการทำงานแล้วไม่ยอมกลับไปเรียน ท่านหวังดีอยากให้หมิวสามารถเลือกทำงานที่ดีได้ค่าตอบแทนสูงๆ เป็นสิ่งเดียวที่คุณพ่ออยากให้หมิวทำให้สำเร็จ จะเรียนอะไรหรือกลับมาทำอะไรคุณพ่อให้อิสระในการเลือกเลยค่ะ ซึ่งหมิวตั้งใจว่าหลังเรียนจบปริญญาโทจะสมัครทำงานบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอางเพื่อเก็บประสบการณ์ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง

“หมิวยังไม่ได้เล่าถึงโอกาสในการทำงานที่เข้ามาด้วยค่ะ สมัยเด็กด้วยความที่ชอบดูละครมาก แม้คุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบให้ดูนั่งโทรทัศน์นานๆ ก็ใช้วิธีแอบไปดูกับคุณยายบ่อยๆ จนวันนี้มีโอกาสได้มีผู้ใหญ่หยิบยื่นโอกาสที่จะทำงานในวงการบันเทิง ติดปัญหาที่ทางบ้านไม่สนับสนุน จึงทำให้ต้องปฏิเสธโอกาสที่ดีไปหลายๆครั้ง แต่ในช่วงเวลาเหล่านั้นก็ได้มีโอกาสได้ไปแสดงนางเอกเอ็มวีเพลงแอบ ของพี่แหนม รณเดช บวกกับได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในสายนี้มากยิ่งขึ้น”

“การทำงานในสายอาชีพนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว คุณพ่อมีโปรเจ็คท์ถ่ายโฆษารถยนต์ซูบารุกับนักกีฬาทีมชาติ จากนั้นคุณพ่อก็เกิดไอเดียให้หมิวเป็นนางเอกโฆษณาโปรโมทรถยนต์ออดี้บ้าง ปรากฏว่าฟีดแบคดี จึงเป็นจุดที่ทำให้คุณพ่อได้เห็นว่าหมิวชอบจริงและทำได้ จากนั้นก็มีผู้ใหญ่ในวงการที่เป็นเพื่อนของคุณพ่อชักชวนให้เป็นนักแสดง แต่หมิวต้องเรียนพื้นฐานการแสดงก่อน ทีแรกคุณพ่อก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นห่วงหลายอย่าง เช่น หากวันหนึ่งโดนกระแสดราม่า หมิวจะรับไหวไหม ไหนจะเรื่องการเรียน และอื่นๆ หมิวจึงสัญญากับคุณพ่อว่าหลังเรียนจบปริญญาตรีไม่ว่าตอนนั้นจะทำอะไรอยู่ก็จะไปเรียนปริญญาโทแน่นอน บอกท่านว่าเรื่องการแสดงเป็นสิ่งที่หมิวสนใจ จึงอยากลองทำให้เต็มที่ก่อน ซึ่งการทำงานในวงการจะเปิดโอกาสให้ได้รู้จักผู้คน ได้สร้างสัมพันธ์ที่ดี และเสริมสร้างประสบการณ์ สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต จึงเริ่มต้นเรียนการแสดง เพื่อเตรียมตัวลงละครค่ะ

“วันนี้หมิวจึงก้าวออกจากเซฟโซน เริ่มลงมือทำสิ่งต่างๆ ที่อยากทำตามจังหวะและโอกาสที่ผ่านเข้ามา ผลจะเป็นอย่างไรถือเป็นประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 989

Praew Recommend

keyboard_arrow_up