จากเด็กผู้หญิงสามจุกหน้าตาจิ้มลิ้ม ตัวกระปุ๊กลุก ขวัญใจพี่จ๋าเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ น้องมะลิ-พาขวัญ สหวงษ์ ลูกสาวพ่อ ปอ ทฤษฎี โตขึ้นเป็นสาวน้อยที่เดินตามรอยคุณพ่อเข้าวงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเดิมบทนางเอกตอนเด็กในละคร “ฟ้าเพียงดิน” ทางช่องวัน 31 งานนี้แม้จะเหนื่อย แต่หนูน้อยบอกจะอดทน ถ้าพ่อไหวหนูก็ไหวค่ะ
น้องมะลิ-พาขวัญ เข้าวงการตามรอยพ่อปอ ทฤษฏี โชว์ฝีมือการแสดงใน ฟ้าเพียงดิน
โดย น้องมะลิ พาขวัญ ได้ควงคุณแม่โบว์ แวนด้า สหวงษ์ มาให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมเผยถึงละครเรื่องแรกของหนูน้อยให้ได้ฟังด้วย
ช่วงที่ผ่านมาน้องมะลิเรียนออนไลน์เป็นอย่างไรบ้าง?
“โบว์คงเหมือนกับคุณแม่หลายๆ คนที่ต้องฟื้นทักษะหลายด้านการเรียน ก็ลำบากนิดหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเราก็ต้องปรับตัวให้อยู่ให้ได้ ทำยังไงก็ได้ให้มะลิมีความสุขกับการเรียนออนไลน์ มะลิช่วงแรกๆ เขาก็จะเบื่อ มีบ่นอยากเจอเพื่อน อยากมีกิจกรรมกับเพื่อน อยากเจอกันแบบตัวเป็นๆ มากกว่า พอทางโรงเรียนเขามีการสอนที่เขาปรับทำกิจกรรมในแบบออนไลน์ เขาก็ไปได้เรื่อยๆ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้มือถือสำคัญ แม่โบว์มีวิธีการสอนลูกในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?
“โบว์ว่าผู้ปกครองทุกคนมีความกังวลอยู่แล้ว แต่เราจะกลัวจนไม่ให้ลูกทำอะไรเลยมันก็ไม่ได้ เราก็มั่นใจทางโรงเรียนว่าเขาจะมีมาตรการต่าง รวมไปถึงการตรวจหาเชื้อ ส่วนเรื่องหลายบ้านอยู่กับมือถือเยอะ จริงๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ แต่เราก็จะพยายามอยู่กับเขาตลอด จำกัดเวลาในการดูให้กับเขา คอยดูเนื้อหาในสิ่งที่เขาดู เราต้องคอยอยู่ข้างๆ เขา คอยบอกว่าตรงไหนได้ ตรงไหนที่ไม่ได้”
“ถามว่าหลีกเลี่ยงได้ไหม หลีกเลี่ยงไม่ได้ โซเชียลตอนนี้มันเยอะ มันมีทั้งดีและไม่ดี มันยากที่จะควบคุม สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพูดและสอนลูกก็คือเรื่องความจริง ต้องสอนจริงๆ เลย ไม่ต้องโกหกเขา คำพูดแบบนี้ไม่ดี เราไม่อยากให้ลูกเราเรียนรู้จากสื่อโซเชียลว่าทำไมคนนี้ทำแบบนี้แล้วเขาดัง แต่ด้วยคำพูด เราก็ต้องบอกว่ามันเป็นสไตล์ของเขา อันไหนที่ไม่ดีก็ไม่ควรเลียนแบบ เห็นแล้วไม่อยากให้เด็กรู้สึกว่ามันชินชา เป็นความเคยชินว่าพฤติกรรมแบบนี้สามารถทำได้”
“โบว์ว่าเด็กวัยนี้และในทุกๆ วัยเริ่มจำ ยิ่งเด็กสมัยนี้จำเร็ว มีพฤติกรรมเลียนแบบค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นผู้ปกครองก็ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างมะลิเรียนออนไลน์เสร็จ ก็จะมีเวลาผ่อนคลาย 1 ชั่วโมง จะสลับกับกิจกรรมอื่น เพื่อนก็จะมี เพื่อนปู เพื่อนโบว์ เพื่อนออโต้ คอยหากิจกรรมให้เขาเล่น พอตอนเย็นเขาก็จะไปเล่นหน้าหมู่บ้าน ขี่จักรยาน ซึ่งถ้าให้เขาออกจากจอมือถือ เขาก็ไม่มีงอแงค่ะ แต่จะมีต่อรอง”
ในอนาคตน้องจะมีงานในวงการบันเทิงบ้างหรือเปล่า?
“ละครมะลิมีทางละครติดต่อมา แล้วก็ไปเวิร์กช็อปแล้ว ก็ถามเขาก่อนว่าอยากเล่นไหม แต่โบว์ก็บอกก่อนว่าการเล่นละครเหนื่อยมาก ร้อนมาก เขาก็บอกว่าหนูอยากเล่น เราก็โอเค ตอนนี้ก็เปิดโอกาสเลย เขาอยากดูก็ให้เขาดูเลยค่ะ ให้เขาดูทุกอย่าง เขามีข้อสงสัยอะไร สิ่งที่ทำได้คืออธิบายความจริง ให้เขาเรียนรู้ให้ได้”
ซึ่ง “น้องมะลิ” ก็ได้กล่าวเสริมว่า “อยากค่ะ หนูอยากเป็นคุณพ่อบ้าง ตอนนี้หนูกำลังถ่ายละคร ฟ้าเพียงดิน หนูดีใจมากที่ได้เล่นละครเรื่องแรก คุณแม่บอกว่าให้อดทน เวลาไปถ่ายละครเหนื่อยค่ะ แต่หนูคิดว่าไหวค่ะ ถ้าพ่อทำไหวหนูก็ต้องทำไหว เพราะหนูมีคุณพ่อเป็นกำลังใจ และไอดอล รวมถึงพี่ ลิซ่า Blackpink หนูอยากเป็นนักร้องแล้วก็อยากแสดงด้วย อยากเก็บเงินให้แม่ ฝากพี่จ๋าดูละครหนูกันเยอะ ๆ เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ”
ถ้าลูกเข้าวงการบันเทิงจริงๆ มีความกังวลใจอะไรไหม?
“สิ่งหนึ่งที่โบว์ห่วงมากที่สุดคือสภาพจิตใจ ว่าแกร่งพอไหมที่จะอยู่วงการนี้ได้ รับอะไรหลายๆ อย่างที่มาจากโซเชียล ในเรื่องของดังไม่ดัง หรือจะประสบความสำเร็จไหมโบว์ไม่ได้แคร์ตรงนั้น แต่โบว์แคร์ในเรื่องของความรู้สึกมากกว่า ถ้าวันหนึ่งเข้าไปแล้วเป็นคนสาธารณะแล้ว แล้วถ้ามีคนคอมเมนต์แรงๆ คือมีคนชอบก็มีคนเกลียด ลูกเราจะรับไหวไหม ลูกเราจะทนได้ไหม สิ่งนี้คือที่ห่วงที่สุดค่ะ”
ภาพจาก : Bo Vanda Sahawong , @vanda29