แม่ลูกคู่ซี้ ศักดิ์ทิพ & รัศมี ปันยารชุน

2

หนุ่ม Perfectionist

หากใครเป็นแฟนละครช่อง 3 คงคุ้นหน้าคุ้นตานักแสดงหน้าใหม่คนนี้มาบ้าง แต่ตอนนี้เจ้าตัวบอกว่าขอพักงานหน้ากล้องชั่วคราว

“ตอนนี้ผมเรียนปริญญาโทด้าน MBA ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก่อนหน้านั้นผมเรียนอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 12 จนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ช่วงที่กลับมาเมืองไทยทำงานช่วยธุรกิจของครอบครัวเกี่ยวกับเรือสำราญประมาณ 1 ปี และผมมีโอกาสได้เล่นละครด้วย

“บังเอิญวันนั้นผมไปเล่นเทนนิสที่สปอร์ตคลับ มีพี่คนหนึ่งถามว่าสนใจอยากลองเล่นละครไหม ผมเคยผ่านงานถ่ายแบบมาบ้าง คิดว่าคงพอทำได้จึงไปลองดู ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าจะง่ายกว่านี้นะ (หัวเราะ)คือคิดจากประสบการณ์ช่วงไฮสกูลที่เคยเรียนละครเวทีมาบ้าง แต่พอแสดงจริง ๆ ยากครับ ความที่เราเป็นมือใหม่ เวลาเข้าฉากกับนักแสดงคนอื่นๆ จะรู้สึกเกร็ง ช่วงแรกโดนติเรื่องการพูดไม่ค่อยชัด คุณแม่ต้องคอยเป็นคอมเม้นเตเตอร์ส่วนตัวให้”

คุณแม่คอมเม้นเตเตอร์ให้ความเห็น “เห็นเขาในทีวีครั้งแรกก็ตื่นเต้นนะคะ ก็มีทั้งติบ้าง ชมบ้าง บอกเขาว่าตรงนี้ยังเล่นไม่ค่อยดีหรือซีนนี้ลูกต้องแสดงอารมณ์กว่านี้อีกนะ” (หัวเราะ)

แชมป์ยิ้มเขิน “ยอมรับว่าต้องฝึกค่อนข้างเยอะครับสำหรับเรื่องแรกแต่พอเรื่องที่สองสามก็โอเคขึ้น อย่างเรื่อง ทางเดินแห่งรัก คาแร็คเตอร์ค่อนข้างตรงกับตัวเอง คือเป็นเด็กนักเรียนนอกกลับมาทำงานด้านการตลาด ทำอะไรต้องเป๊ะ เป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์เหมือนผม ที่ไม่ว่าจะทำอะไรต้องให้ดีที่สุดเสมอ อย่างตอนเรียนผมก็ค่อนข้างเครียดมาก เพราะกลัวคะแนนจะออกมาไม่ดี ไม่เป็นตามที่หวัง”

คุณแม่ช่วยเสริม “แม่ไม่อยากให้เขาเครียดเกินไป จะบอกว่าให้ทำให้ดีที่สุดก็พอ นิสัยตั้งใจของแชมป์อาจเพราะแม่ค่อนข้างเข้มงวดกับเขามากกว่าน้อง (แช้ป) เพราะเขาเป็นพี่คนโต ซึ่งเขาก็ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง จบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมอันดับ 2 และถ้าจะทำอะไรสักอย่างเขาก็สามารถทำได้หมด แม่กับแชมป์ก็สนิทกันมากด้วย คุยกันได้ทุกเรื่อง สอนเขาทุกอย่าง ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต เข้าสังคมพูดกับผู้ใหญ่ควรทำตัวอย่างไร เวลาดูหนังหรือละครก็จะสอนเขาไปด้วย”

แม่ลูกนักกิจกรรม

ดูจะเป็นคู่แม่ลูกที่สนิทกันมาก..กจริง ๆ เพราะสามารถควงคู่ไปด้วยกันทุกที่ไม่ว่าจะไปเที่ยว ช็อปปิ้ง หรือเล่นกีฬา

คุณแม่ขอย้อนความให้ฟัง “เด็ก ๆแชมป์ซนมาก ไม่เคยอยู่นิ่งเลย แม่ต้องคอยวิ่งตามตลอด แต่พอโตมาเขาก็เปลี่ยนเอง เวลาญาติ ๆ มาเจอเขาตอนโตก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เหมือนตอนเด็กเลยเรียบร้อยขึ้นมาก แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ แชมป์เป็นเด็กกิจกรรม ชอบเล่นกีฬามาก”

แชมป์คอนเฟิร์ม “ใช่ครับ ผมเล่นกีฬามาตลอด ทั้งฟุตบอล ว่ายน้ำ และอย่างที่บอกว่าถ้าทำอะไรแล้วต้องทำให้สุดจากตอนแรกที่ว่ายน้ำได้ที่สุดท้ายก็พยายามฝึกจนได้ที่ 1 แต่ตอนนี้ชอบเทนนิส เริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เพื่อน ๆ ในหมู่บ้านชวนไปเล่น ความที่เล่นไม่เป็นจึงไม่ค่อยมีใครส่งลูกให้ และเล่นแพ้เขาตลอด พอกลับบ้านผมไปบอกคุณแม่ ท่านจึงพาไปเล่นที่อื่น ซ้อมกันสองคนทุกวันจนฝีมือโอเคและไปลงแข่งขันได้เลยครับ”

คุณแม่ช่วยยืนยันอีกเสียง “เขาเล่นแบบเอาจริงเอาจังมาก ไปแข่งขันได้ถ้วยกลับมาแทบทุกรายการ ทำให้ทุกวันนี้เทนนิสเป็นกีฬาโปรดที่เราแม่ลูกเล่นเป็นประจำ แต่จริง ๆ แล้วลูกเล่นอะไร แม่ก็เล่นด้วยทุกอย่างนะ ทั้งว่ายน้ำ ต่อมวย สเกตน้ำแข็ง บางอย่างเล่นไม่เป็นก็อาศัยฝึกไปพร้อม ๆ กับลูก ครั้งหนึ่งแชมป์อยากปีนเขาแล้วชวนแม่ไปด้วย สรุปว่าวันนั้นแม่ปีนถึงก่อนเขาอีก เอาเป็นว่าลูกอยากทำอะไรขอให้บอก แม่ไปด้วยได้ทุกที่” (หัวเราะ)

แชมป์มีเรื่องเล่าเสริม “เราชอบดูหนังกันครับ ส่วนมากจะไปพร้อมกันทั้งครอบครัว วันหนึ่งน้องไม่ว่าง ผมกับคุณแม่จึงไปกันสองคนดูเรื่อง รักจัง ซึ่งมองไปทางไหนในโรงก็มีแต่คู่รัก แต่ผมไปกับแม่”(หัวเราะ)

1

คุณแม่หวง…คุณลูกห่วง

เพราะความใกล้ชิดและสนิทสนมกันมาก จึงทำให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกมีเรื่องให้ต้องหวงและห่วงกันเป็นธรรมดา

คุณแม่เริ่มห่วงก่อน “เขาเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็ก กลับมาบ้านเฉพาะช่วงปิดเทอม หรือบางทีแม่ก็บินไปหาบ้าง แต่ถ้าช่วงที่เขาเรียนแรก ๆ แม่จะไปอยู่กับเขานานหน่อย ไปช่วยเก็บกวาดบ้าน ทำอาหารให้แต่พอกลับมาเมืองไทยก็อดเหงาไม่ได้ เริ่มซึม คิดถึงลูก โทร.ไปบางครั้งเขาติดเรียน แม่ก็ส่งข้อความไปว่าคิดถึงนะ รักลูกนะ โทร.หาแม่หน่อย”

แชมป์ยิ้มอาย ๆ “แต่ผมไม่ค่อยกล้าตอบอะไรหวาน ๆ กลับไปครับเพราะเขิน (ยิ้มเขินจริงจัง) ถ้าถามว่าผมติดคุณแม่ไหม ก็คิดว่าติดนะครับเพราะไปด้วยกันทุกที่ตลอด ซึ่งถ้าเลือกระหว่างไปเที่ยวกับเพื่อนหรือไปกับแม่ ผมก็เลือกคุณแม่ จะได้คอยเป็นบอดี้การ์ดให้ท่านด้วย คอยมองซ้ายมองขวามองหน้ามองหลัง (หัวเราะ) กลัวใครจะมาทำอะไรแม่เรา

“เวลามีอะไรผมจะเล่าให้คุณแม่ฟังทุกเรื่อง ทั้งเรื่องงาน ความรักจำได้ว่าผมเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่ง แอบซื้อของไปให้เขา ซึ่งพอคุณแม่เห็นคงจะรู้ว่าเราชอบ จึงช่วยแนะนำวิธีจีบสาวให้ด้วย”

คุณแม่หัวเราะก่อนแซวลูกชาย “แม่สอนเขาว่าคุยกับผู้หญิงต้องพูดจาอย่างไร หรือผู้หญิงชอบของแบบไหน หรือต้องพูดแบบไหนเพื่อดูใจอีกฝ่าย และไม่ว่าแชมป์จะจีบใครอยู่ แม่รู้หมด เรียกว่าไม่มีสาวคนไหนที่แม่ไม่รู้จัก ถ้าถามว่าหวงลูกชายไหม ตอบเลยว่ามากค่ะ(หัวเราะ) และที่ห่วงเขามากสุดก็เรื่องผู้หญิงนี่แหละ

“ก็แม่ดูแลเขามาตลอด แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ อย่างลูกชอบกินปลาทอดก็คอยเลาะก้างออกให้ กินก๋วยเตี๋ยว แม่ก็ปรุงให้นะ เพราะอยากให้ลูกได้กินอร่อย ๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังทำให้ ฉะนั้นคนที่จะมาเป็นแฟนลูกก็ต้องดูแลเขาให้ได้เหมือนแม่ บางคนที่แชมป์พามาเจอโดนแม่สกัดตั้งแต่ด่านแรกก็มีนะ เพราะแม่ค่อนข้างตรง ถ้าคนไหนโอเคจะบอกเลยว่าแม่ชอบ แม่รักคนนี้ คือสาวคนไหนจะได้ใจลูกต้องผ่านด่านแม่ก่อน”

แชมป์พยักหน้าเชิงเห็นด้วย “จริง ๆ ผมว่าถ้าดูแลเราได้ครึ่งหนึ่งของคุณแม่ก็โอเคแล้วครับ เพราะคุณแม่ช่วยดูแลผมในทุกเรื่องจริง ๆส่วนสเป็คผมชอบผู้หญิงผมยาวและขาสวย แต่หลัก ๆ คงต้องดูที่นิสัยถ้าเลือกได้ ขอให้เป็นเหมือนคุณแม่ครับ”

 

ที่มา : คอลัมน์ LIVE STORIES นิตยสารแพรว ฉบับที่ 863 ปักษ์วันที่ 10 สิงหาคม 2558

บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น

Praew Recommend

keyboard_arrow_up