บุ้ง ใบหยก

สำคัญมากกว่าสินสอดคือความรัก”เวฟ”ควง”บุ้ง ใบหยก”แถลงวิวาห์ฝ่ายหญิงปลื้มแหวนแต่งงานเป็นมรดกตกทอด

Alternative Textaccount_circle
บุ้ง ใบหยก
บุ้ง ใบหยก

ชื่นมื่น “เวฟ-วิภพ บางยี่ขัน” ควงทายาทใบหยก “บุ้ง-สะธี”
แถลงข่าวก่อนเข้าพิธีในวันที่ 12 พ.ย นี้

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2560 ที่ Baiyoke Sky Hotel นักแสดงหนุ่ม”เวฟ-วิภพ บางยี่ขัน”ได้ควงหวานใจไฮโซ”บุ้ง-สะธี ใบหยก” ซึ่งคบหาดูใจกันมานาน 5 ปี จัดงานแถลงข่าวเปิดใจ ก่อนจะเข้าประตูวิวาห์ในวันที่ 12 พ.ย.2560

โดย”เวฟ”เผยว่าได้จัดงานแถลวข่าวเพื่อเชิญพี่ๆ นักข่าวมาร่วมฟังการแถลงข่าวเพราะว่าในวันพรุ่งนี้จะมีงานมงคลสมรสระหว่างผมและน้องบุ้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้งานน่าจะวุ่นวายพอสมควรและอาจจะไม่สะดวกสำหรับพี่ๆ สื่อมวลชน เลยเรียนเชิญมาพูดคุยกันในวันนี้ดีกว่า

พรุ่งนี้จะเข้าพิธีแล้วความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?
บุ้ง – “รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็ว เพราะตอนแรกคิดว่าเหลือเวลา 3 เดือนจะอีกนาน แต่ปรากฏว่าทำอะไรไม่ค่อยทันเลย ซึ่งทางพี่เวฟเขาจะเครียดกว่าเนื่องจากเขาเป็นคนดีลงานเอง ส่วนบุ้งจะไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดเท่าเขา”

เวฟ – “แต่งงานครั้งเดียวเนอะ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ก็มีทีมช่วยครับ เป็นทีมงานของใบหยก และก็ทีมจากรุ่นน้องมาช่วยดูแล ซึ่งผมแค่เสนอสิ่งที่อยากได้ให้เขาไป ทางนั้นเขาก็ทำเป็นภาพกลับมาให้ตัดสินใจอีกทีว่าชอบหรือเปล่า ถามว่าได้รีเควสอะไรเป็นพิเศษไหม เอ่อ…ไม่มีเลยครับปกติธรรมดาเหมือนงานแต่งงานทั่วไป อาจจะมีตัดอะไรออกบางส่วน และก็เติมอะไรเข้าไปใหม่บางส่วนเท่านั้นเอง”

คอนเซ็ปต์ของงานเป็นยังไงบ้าง?
เวฟ – “เน้นความสนุกสนานมากกว่าครับ พบปะเพื่อนฝูงปาร์ตี้สังสรรค์ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย เป็นงานแต่งที่จัดกันแบบธรรมดาเพื่อให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าตอนนี้เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว”

ธีมงานเป็นอย่างไร?
บุ้ง – “มีคนถามถึงธีมงานด้วยเหมือนกัน แต่ว่างานเราไม่มีธีมนะคะ คือเราค่อนข้างขี้เกรงใจ เพราะถ้าชวนเขามางานแล้วยังไปบังคับเขาให้แต่งตัวนู่นนี่อีกมันก็ไม่สนุก ดังนั้นเอาที่เขาสะดวกกันดีกว่าค่ะ”

งานที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงบ้าง?
เวฟ – “พรุ่งนี้จะมีพิธีขันหมากตอน 7 โมงเช้า และก็เป็นพิธีไทยยาวไปถึงเที่ยงเลย ทั้งพิธีหมั้น พิธีรับไหว้ และก็รดน้ำสังข์ ส่วนงานตอนเย็นจะเริ่มช่วง 6 โมง คือค่อนข้างเร็วนิดหน่อยเพราะเราจะจบเร็ว เนื่องจากว่าบ่าวสาวจะมีฤกษ์ส่งตัวหรืออะไรต่างๆ นานา ที่มันค่อนข้างกระชั้นชิดอีก”

สินสอดสำหรับงานวิวาห์ครั้งนี้พอจะระบุได้ไหม?
เวฟ – “พอสมควรเท่านั้นเองครับ แต่ก็ไม่ได้เยอะและก็ไม่ได้น้อย ซึ่งส่วนตัวผมเองผมมองว่าจริงๆ แล้วความสำคัญมันอยู่ที่เรารักกันหรือเปล่ามากกว่า และคุณพ่อคุณแม่อนุญาตให้เราแต่งงานกันไหม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของน้องบุ้งท่านกรุณามากเพราะท่านไม่ได้เรียกสินสอดอะไรเลย แต่ผมก็จัดให้เหมาะสมพิธีตามประเพณีไทย คืออย่าไปตีค่าคนเป็นราคา เราตีค่ากันที่ความรู้สึกดีกว่าครับ”

แพลนฮันนีมูนของเราทั้งคู่เป็นยังไงบ้าง?
บุ้ง – “ยังไม่มีเลยค่ะ”

เวฟ – “ทุกวันนี้ก็เหมือนฮันนีมูนอยู่แล้ว คือเราไม่ได้คิดว่าพอแต่งเสร็จเราจะต้องไปฮันนีมูนที่ไหนหรือยังไง เพราะพอแต่งงานเสร็จปุ๊ปเช้าวันต่อไปเราก็ยังคงทำงานกันเหมือนปกติ”

ตั้งใจจะมีทายาทเลยหรือเปล่าหลังจากนี้?
เวฟ – “ก็ตั้งใจว่าถ้าหากมีลูกได้หรือมีโอกาสเหมาะสมก็อยากจะมีเลยครับ”

บุ้ง – “อยากมีค่ะ บุ้งชอบเล่นกับเด็กอยู่แล้ว ทุกวันนี้เวลาอยู่บ้านก็เล่นแต่กับหลาน ถ้าหากมีลูกมาอีกคนก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันได้ (ยิ้ม) ส่วนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้หมดค่ะ บุ้งอยู่กับเด็กได้หมดเลย”

เวฟ – “เรื่องการเลี้ยงเด็กไม่ต้องห่วงเขาเลยครับ เขาเป็นคนรักเด็กมาก เขาเป็นคนที่ดูแลลูกๆ หลานๆ ตลอด หรือแม้ไม่ใช่ลูกคนที่รู้จักหากเขาเห็นเขาก็จะต้องเข้าไปจับเข้าไปเล่นด้วยให้ได้ คือถ้าหากเขามีลูกเองเขาต้องสปอยล์มากแน่นอน”

ความประทับใจที่เราสองคนมีในตัวของอีกฝ่ายคืออะไร?
บุ้ง – “พี่เขาดีขึ้นทุกวัน ช่วงแรกๆ อาจมีทะเลาะบ้างในช่วงปรับตัว แต่พอนานวันเข้าเขาก็เข้าใจในตัวเรามากขึ้น และเราก็ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย พี่เขาเป็นคนที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ

เวฟ – “คือเราอยู่กันมารู้จักกันมา 5 ปี น้อยวันมากครับที่เราจะไม่ได้เจอกัน นับได้เลย ยกเว้นแต่เขาไปต่างประเทศหรือผมทำงานจนดึก ซึ่งการที่เราได้อยู่ด้วยกันตลอดแบบนี้ มันทำให้ผมรู้ว่าเวลาเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือเขากำลังรู้สึกยังไง เหมือนเราเข้าใจกันมากขึ้น มากกว่าปีแรกๆ”

มีคำมั่นสัญญาให้กันบ้างไหมกำลังจะแต่งงานกันแล้ว?
บุ้ง – “เราไม่ได้สัญญาอะไรกันเลยค่ะ บางคู่สัญญากันตั้งแต่ปีแรก แต่การกระทำมันไม่ใช่มันก็ไม่มีค่า ดังนั้นบุ้งกับพี่เวฟเราจึงไม่มีสัญญากันเลย เราไม่เคยมีเซอร์ไพรส์ ไม่เคยสวีท ไม่เคยหวานกันเลย”

มุมอ่อนหวานของผู้หญิงของคนนี้คืออะไร?
เวฟ – “เขาจะเป็นคนที่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนเขาจะต่างจากที่เป็นตรงนี้ เขาจะดูเป็นเด็กมากกว่านี้ เหมือนเราเป็นเด็กสองคนอยู่ด้วยกัน เขาจะไม่ใช่คนที่ซีเรียสตลอดเวลา เขาซีเรียสแค่เฉพาะเวลาทำงาน ก็จะประมาณนั้นครับ”

วางแพลนอนาคตชีวิตคู่ไว้ยังไงบ้าง?
เวฟ – “ผมต้องขอชี้แจงก่อนสำหรับหลายๆ คนที่มองผมภายจากข่าวหลายๆ ข่าวในด้านลบ คือเรื่องข่าวระหว่างเราสองคนไม่มีผลกระทบหรอกครับ แต่ผมจะห่วงความรู้สึกของคนใกล้ชิดผม ของครอบครัวผมมากกว่า เพราะพอมันเป็นข่าวที่เป็นผลลบ ผลลบนั้นมันก็จะส่งต่อไปยังความรู้สึกของคนรอบข้างผมด้วย”

บุ้ง – “จริงๆ เราโชคดีนะพี่ เพราะทางครอบครัวบุ้งเขาไม่ได้สนใจข่าวอะไรพวกนี้เลย แต่เขาดูที่การกระทำของเราสองคนมากกว่า โอเคช่วงปีแรกๆ มันอาจจะมีคำถามเข้ามาว่า “จะดีเหรอ” แต่เมื่อเราได้รู้จักกันจริงๆ รู้จักกันนานเข้า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย”

เคยมีข่าวที่ทำให้เราเครียดบ้างไหม?
เวฟ – “จริงๆ เราจะไม่เอาความเครียดใส่กันมากกว่าครับ แต่เราจะให้กำลังใจกันและกันแทน ซึ่งสำหรับข่าวพวกนี้ที่มีเข้ามา พอเขาบอกเราว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ เราเองก็จะไม่ใส่ใจเหมือนกัน”

บุ้ง – “ตัวบุ้งเองคือเราไม่ได้คิดอะไรเลย”

เวฟ – “หลายคนอาจจะมองว่าถ้าผมแต่งงานไปแล้ว ผมจะต้องมาทำงานที่นี่ มาใช้ชีวิตในครอบครัวที่หลายคนก็พอจะทราบกันดีว่าเป็นครอบครัวแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งผมต้องบอกก่อนว่า ถึงผมแต่งงานไปผมก็ยังต้องรับงานละคร เพราะผมต้องดูแลภรรยา ผมยังรับงานนะครับ แถมรับซ้อนกันหลายๆ เรื่องได้ด้วย”

ตั้งใจจะจดทะเบียรสมรสเลยหรือเปล่า?
บุ้ง – “เราเคยคุยกันเองสองคนค่ะว่าจริงๆ แล้วเรื่องการจดทะเบียนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ มันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่เราต้องเซ็นต์ชื่อ ดังนั้นแล้วแต่ทางผู้ใหญ่เลยค่ะ”

เรือนหอของเราทั้งคู่เตรียมไว้แล้วหรือยัง?
เวฟ – “เตรียมไว้แล้วครับ คือซื้อบ้านไว้ที่นวมินทร์ แต่อย่างที่บอกทางคุณพ่อยังไม่ปล่อย”

บุ้ง – “คือไม่ใช่ว่าคุณพ่ออนุญาตให้แต่งงานแล้วเราจะไปอยู่นอกบ้านได้เลย แต่การอนุญาตก็คือการให้โอกาสพี่เวฟในการพิสูจน์ตัวเองอีกระดับ ซึ่งท่านก็ยังคงคิดถึงลูกๆ อยู่ ดังนั้นมันก็จะมีบ้านที่ถูกสร้างเอาไว้ในพื้นที่เดิม”

เวฟ – “คุณพ่อท่านเคยบอกกับผมไว้ว่า ถึงแต่งงานไปแล้วก็อยากให้เข้ามาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ในรั้วเดียวกัน อยากจะมีความอบอุ่นเหมือนปกติเหมือนช่วงที่ลูกสาวยังไม่แต่งงาน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่น้องบุ้งท่านเป็นคนที่รักลูกมาก ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ในครอบครัวแต่งงานไปก็จะต้องอยู่ร่วมกัน ดังนั้นคุณพ่อท่านก็จะสร้างบ้านให้ในรั้วเดียวกันอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเราก็จะไปๆ มาๆ ระหว่างสองหลังนี้”

ถามถึงแหวนแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?
เวฟ – “เป็นแหวนแต่งงานตั้งแต่รุ่นคุณย่าครับ ที่ท่านได้มอบให้คุณพ่อผมเพื่อให้คุณแม่ในวันแต่งงาน และพอถึงวันนี้คุณแม่ท่านก็ให้ผมนำมามอบให้กับน้องบุ้ง ซึ่งมันตีมูลค่าไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าใหญ่ทางใจครับ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up