หน้าตาหล่อเหลา มีเครา รูปร่างสูงใหญ่…หนุ่มคนนี้ไม่ใช่นายแบบที่ไหน แต่เขาเป็นนักธุรกิจและนักกีฬาดีกรีนักเรียนนอก ที่สำคัญคือ ตอนนี้กำลังเป็นว่าที่สามีของสาวหญิง รฐา หลังจากที่คบหาดูใจกันมาพักใหญ่ ล่าสุดหนุ่มตุลย์ก็ได้คุกเข่าขอน้องร้องสาวเป็นที่เรียบร้อย
แพรวพาไปดูบทสัมภาษณ์ซึ่งเป็นโอกาสดีมากที่ Exclusive Talk ได้มาพูดคุยกับหนุ่มหล่อคนนี้ เขากำลังเป็นเป้าสายตาของนักข่าวอยู่ตอนนี้ ที่ผ่านมาเขาก็เริ่มจะเปิดเผยชีวิตส่วนตัวและความรักผ่านสื่อบ้างตามสมควร แต่วันนี้เราจะมานั่งคุยกันแบบจริงจังสักทีว่า ผู้ชายที่ชื่อ ตุลย์ – ตุลยเทพ เอื้อวิทยา คือใครกันแน่ ถึงได้มาตกหลุมรักลูกสาวคุณแม่น้อย โพธิ์งาม
ตุลย์ทำงานอะไรอยู่บ้างปัจจุบันนี้
ตุลย์ : ผมทำธุรกิจส่วนตัวของที่บ้านครับ เป็นงานด้านรับเหมาก่อสร้าง จริงๆ ถือว่าเป็นงานประจำเลยละ ทำ 5 – 6 วันเป็นปกติเหมือนคนทั่วไป
นอกจากงานประจำ สิ่งที่เห็นในไอจีชัดมากๆ ก็คือชอบออกกำลังกาย
ตุลย์ : ครับ…คือผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กแล้ว จำได้ว่าเพราะเป็นโรคหอบ คุณหมอเลยบอกให้ว่ายน้ำ คุณแม่เลยบังคับให้เราเป็นนักว่ายน้ำโรงเรียนเลย แต่จริงๆ ตอนนั้นไม่ชอบนะ เกลียดสระว่ายน้ำมาก คือวัยนั้นเราก็ยังอยากวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ แต่แม่จะมารับหลังเลิกเรียนไปซ้อมที่สระ เป็นแบบนี้ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป.6 ชีวิตมีแค่โรงเรียนกับสระว่ายน้ำ เสาร์ – อาทิตย์ก็ต้องซ้อม จนมาเริ่มหยุดว่ายน้ำจริงๆ ก็ตอนเข้ามัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เพราะอยากเตะบอล ผมว่ามันสนุกกว่า
เล่นกีฬามาหลายอย่างมาก แต่ล่าสุดที่ดูจะคลั่งสุดๆ ตอนนี้คือไตรกีฬา
ตุลย์ : ผมเริ่มเล่นไตรกีฬาเมื่อสองปีที่แล้ว พอดีเห็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่สวนกุหลาบเขาไปแข่งและถ่ายรูปโพสต์ลงเฟซบุ๊กกัน และผมเองก็เป็นนักว่ายน้ำอยู่แล้วตั้งแต่สามขวบ ก็คิดว่าเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มจักรยานกับวิ่งเข้ามาก็ครบ เลยลองดู ก็ออกไปซื้อจักรยานเลย
เพราะกีฬาเลยทำให้มีรูปร่างสูงใหญ่แบบนี้ด้วยหรือเปล่า
ตุลย์ : ผมว่าน่าจะมาสูงตอน ม.4 ครับ อายุ 16 ปี เพราะตอนอายุ 12 – 13 ตัวเท่าเพื่อนอยู่เลย เพื่อนบอกจำได้ว่าอยู่ๆ ผมก็สูงขึ้นมาเลย
ไตรกีฬาเรียกว่าเป็นสิ่งที่ชอบที่สุดเลยรึเปล่า
ตุลย์ : ผมว่าการเล่นไตรกีฬามันได้อะไรเยอะเหมือนกันนะ นอกจากความแข็งแกร่ง มันเป็นการบริหารเวลา เพราะเป็นการเล่นกีฬาถึงสามอย่าง ต้องรู้จักบริหารเวลาให้ได้ ต้องอึดส่วนหนึ่งอะใช่ แต่อยู่ที่การซ้อมมากกว่าครับ เพราะถ้าเราเตรียมตัวมาดี ร่างกายเราก็จะรับไหวอยู่แล้ว
ใช้เวลากับการฝึกซ้อมนานไหมกว่าจะลงแข่งขันจริง
ตุลย์ : ผมเริ่มเล่นประมาณสามเดือน แต่จริงๆ ไตรกีฬามีหลายระยะ เริ่มแรกถ้าซ้อมมาก็ลงระยะสั้นก่อนได้ จะได้รู้ว่าตัวเองไหวไหม
ที่บอกว่าเล่นมา 2 ปีแล้ว ตอนนี้ลงแข่งไปเยอะไหม
ตุลย์ : โห…ไม่ได้นับเลยครับ แต่ปีแรกที่เล่นก็ยังไม่ได้เยอะ ปีที่แล้วกีฬาชนิดนี้เริ่มบูมมาก ก็มีไปแข่งหลายรายการ ก็เยอะขึ้น ยิ่งปีนี้มีเดือนละครั้งเลย
เคยมีคนบอกว่าเราบ้าพลังไหม
ตุลย์ : (หัวเราะ) ผมว่าถ้าคนที่เข้ามาเล่นแล้วจะเข้าใจ แต่ถ้าคนที่ไม่เคยเล่นก็จะงงว่า เฮ้ย! ทำได้ไง บ้าป่าว…คือจะบอกว่าการซ้อมเพื่อมาแข่งไตรกีฬามันไม่ได้ยากขนาดนั้นเลยครับ ซ้อมเฉลี่ยวันละชั่วโมง แบ่งวันนึงว่ายน้ำ วันนึงจักรยาน วันนึงวิ่ง วนสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง
เรียกว่าจริงจังถึงขั้นจัดระเบียบชีวิตตัวเองใหม่เลยหรือเปล่า พอมาเล่นกีฬาชนิดนี้
ตุลย์ : ผมว่าการจัดระเบียบวินัยมันเกิดกับทุกคนแหละ เรามีเวลาเท่ากัน ต้องทำงาน ต้องนอนเหมือนกัน เพียงแต่ว่าบางคนหลังเลิกงานอาจจะเลือกทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่สำหรับคนที่เล่นกีฬาจริงๆ เขาก็จะไปวิ่ง ไปขี่จักรยาน แทนที่จะไปทำอย่างอื่น
ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ดูจะหนักกีฬาซะเยอะ แบบนี้พาน้องหญิงไปเล่นด้วยไหม
ตุลย์ : (ยิ้ม)…เขาก็ออกกำลังกายอยู่แล้วครับ เข้าไปในยิมก็เล่นคาร์ดิโอ เขาจะเป็นแนวฟิตหุ่นให้เฟิร์ม แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มมาวิ่งละ นี่ก็สมัครไปวิ่งมาราธอนด้วยกัน
ไม่ได้บังคับน้องหญิงใช่ไหม
ตุลย์ : (หัวเราะ) ไม่ครับ…ไม่ เขาอยากไปเอง
การออกกำลังกายถือว่าเป็นงานอดิเรกไหม หรือจริงๆ แล้วก็มีอย่างอื่นที่ชอบทำเหมือนกัน
ตุลย์ : ผมจะแบ่งเป็นแบบนี้ครับ ตอนเช้าจะออกกำลังกายก่อนไปทำงาน แต่ตอนเย็นผมก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นนะ เพราะผมเป็นคนชอบดื่มกาแฟและหาของอร่อยๆ กิน พอเป็นนักกีฬา เราใช้พลังงานเยอะ ดังนั้นเราก็ต้องกินเยอะด้วยครับ แต่ก็ต้องเลือกกินครับ ไม่ใช่ว่ากินทุกอย่าง จะมีความสุขกับการหาร้านอาหารใหม่ๆ และก็ร้านกาแฟ เพราะผมชอบดื่มกาแฟมาก
นอกเรื่องไปของกิน ขอวกเข้าเรื่องความรักต่อ ตอนนี้หัวใจตุลย์เป็นสีชมพูเฉดไหน
ตุลย์ : โห มีแบ่งเฉดสีด้วย (ยิ้ม)
คือเรารู้อยู่แล้วว่าตอนนี้หัวใจน่าจะสีชมพู
ตุลย์ : (หัวเราะ) อืม…เรียกว่าถ้าเทียบกับตัวเอง เหมือนตอนวัยรุ่น ความรักก็จะชมพูสดปู๊ดป๊าดตามธรรมชาติของเด็ก แต่ตอนนี้ผมก็มีอายุแล้ว เรียกว่าพาสเทลก็ได้ครับ ไปได้เรื่อยๆ มีความรู้สึกดีๆ นะ เป็นห่วงนะ
คือผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีที่มัดใจเราได้
ตุลย์ : ในมุมมองของคนอื่น น้องหญิงเป็นคนที่กตัญญู เป็นคนเก่ง ในส่วนที่ผมเห็นเนี่ย เขาเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียด แคร์ความรู้สึกคนอื่น ฉลาด และรู้จักวางตัว เป็นผู้ใหญ่มาก และมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันด้วย พอได้คุยกันแล้วก็รู้สึกว่าโอเค
ได้เจอคุณแม่น้อยบ้างหรือยัง เป็นไงบ้าง
ตุลย์ : เจอแล้วครับ และผมก็คิดว่าท่านใจดีนะครับ (ยิ้ม)
คุณแม่ทำส้มตำให้กินไหม
ตุลย์ : ผมไปทานที่ร้านครับ แต่คุณแม่ไม่ได้ทำ เป็นพี่เลี้ยงน้องหญิงทำ
ที่ผ่านมาข่าวเรื่องการคบหากันถูกพูดถึงเยอะมากทั้งด้านบวกและลบ ได้คุยถึงเรื่องนี้กันยังไงบ้าง
ตุลย์ : เรื่องนี้ผมคุยกันตลอดครับ ช่วงนั้นค่อนข้างหนักเหมือนกัน คือทั้งน้องหญิงและผมเชื่อว่าความจริงมันก็คือความจริง สิ่งที่เราทำมา ถ้าเราไม่ได้โกหก สุดท้ายความจริงมันก็โผล่มาอยู่ดี และเราก็ไม่ได้แคร์กับข่าวอะไรด้วย
ดูแล้วตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมาก คาดหวังกับความรักครั้งนี้ไว้อย่างไรบ้าง
ตุลย์ : ผมเองไม่ได้คาดหวังอะไร และยังไม่ได้วางอนาคตอะไรครับ ผมกับน้องหญิงคุยกันว่าเราอยากทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง คิดว่าถ้าปัจจุบันมันดีอยู่แล้ว อนาคตเดี๋ยวมันก็จะดีเอง
เป็นอันว่ากระจ่างจริงๆ สำหรับใครที่อยากรู้จักผู้ชายที่ชื่อ ตุลย์ – ตุลยเทพ เอื้อวิทยา หล่อ ความคิดดี แถมยังตอบเรื่องความรักได้แมนสุดๆ แบบนี้แม่น้อยน่าจะสบายใจได้แล้ว…
เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : Myo Duangporn
สถานที่ : งาน Thailand Cycling Tour Challenge (ร้าน Quest พญาไท)