เอ๋- มณีรัตน์ คำอ้วน “หนังสือทำให้รู้ว่า ความคิดไม่ได้มีแค่นี้ เราคิดได้กว้างกว่านี้”
“เอ๋เริ่มอ่านหนังสือจริงจังไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เองค่ะ เพราะอยากพัฒนาตัวเอง เลือกที่อ่านง่ายหน่อย และด้วยความที่เอ๋เข้าใจด้วยภาพ ถ้าเห็นตัวหนังสือเยอะๆ จะเริ่มงงและอ่านช้า แต่พอได้รู้จักกับหนังสือจิตวิทยาเรื่อง กล้าที่จะถูกเกลียด เล่มนี้ตอบโจทย์ เริ่มสนุก อีกอย่างคือ เราได้พัฒนาตัวเอง เช่น เอ๋คิดเยอะ แคร์คนอื่นมาก หนังสือแนวนี้ก็จะเตือนสติให้เรากลับมาสำรวจตัวเองว่า เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เราพัฒนาตัวเองด้านไหนได้บ้าง จึงเป็นหนังสือเล่มโปรดของเอ๋ตอนนี้เลย ชอบตรงที่เนื้อหาเป็นการนั่งคุย ถาม-ตอบ
และเหตุผลหนึ่งที่เลือกเล่มนี้เพราะชื่อเรื่องดึงดูดด้วย ปกติคนทั่วไปมักจะอยากให้คนอื่นชอบ แต่ชื่อหนังสือเล่มนี้กลับตรงกันข้าม คือไม่ต้องทำให้คนอื่นชอบเราก็ได้ เอ๋ว่ามันดูจริงดีนะ แล้วพอได้อ่านละเอียดก็ช่วยเปิดโลกหลายๆ เรื่อง ทำให้เปลี่ยนความคิดเปลี่ยนไปเลย มีบทหนึ่งที่ชอบมาก จำได้แม่น เขาบอกว่า
เราไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเราได้ เรามีหน้าที่ในส่วนของเรา ไม่ต้องคิดแทนคนอื่น ธุระของเราจบแค่ไหนก็คือแค่นั้น ที่เหลือคือธุระของคนอื่น และเพราะเราไม่สามารถควบคุมความคิดคนอื่นได้ จึงต้องรู้จักปล่อยวาง จัดการความคิดตัวเอง ไม่ไปคิดแทน หรือพยายามหาเหตุผลให้คนอื่น ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ควรถามไปเลยตรงๆ
“ทุกวันนี้เอ๋ใช้เวลาอ่านหนังสือก่อนนอน 15 นาที ถ้าเป็นวันหยุดยาวจะอยู่ที่ครึ่งชั่วโมงเป็นต้นไป ยิ่งเล่มไหนวางไม่ลงก็จะอ่านยาวไปเรื่อยๆ โดยมีมิชชั่นว่าใน 1 สัปดาห์ ควรอ่านหนังสือให้จบ 1 เล่ม
“เอ๋ว่า การอ่านเกิดประโยชน์หลายอย่าง บางวันที่อาจจะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ พอเปิดหนังสือ บางทีก็พบคำตอบอยู่ในนั้น ทำให้เราสนุกและเปิดกว้างมากขึ้น ที่สำคัญคือ ทำให้มีความรู้มากขึ้น เวลาคุยกับคนอื่นดูสวยขึ้น (หัวเราะ) มันเหมือนเอ๋ได้ท่องโลก เพราะเดิมทีเราโตมากับความคิดของเรา แต่หนังสือทำให้รู้ว่า
ความคิดไม่ได้มีแค่นี้ เราคิดได้กว้างกว่านี้ นอกจากนี้หนังสือยังมีเสน่ห์ตรงที่เราได้ใช้สมาธิ ต่างจากการอ่านในอินเตอร์เน็ตที่เป็นข้อความพาดหัวสั้นๆ แต่หนังสือเราต้องอ่านทั้งเล่ม ใช้เวลาทำความเข้าใจ เหมือนได้ฝึกตัวเองว่าต้องไม่รับแมสเสจแบบผ่านๆ แต่ต้องรับแมสเสจมาทั้งหมดเพื่อคิดต่อ อีกอย่างคือ การอ่าน ทำให้แต่ละคนสร้างโลกในจินตนาการที่ต่างกัน มันสนุกตรงนี้ด้วยค่ะ
อ่านหนังสือกันเยอะๆ นะคะ