สูดแล้วสุข! “กลิ่นหอมบำบัด” จัดการความเครียดได้

Alternative Textaccount_circle

ความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยอาจเกิดขึ้นในช่วงระยะสั้นๆ หรือเป็นเวลานาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ แต่ความเครียดจะไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจ ถ้าเรารู้จักวิธีบริหาร จัดการความเครียด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยการเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ต้องพบเจอในชีวิต

สูดแล้วสุข! “กลิ่นหอมบำบัด” จัดการความเครียดได้

ทั้งนี้ หมอนุ่น-แพทย์หญิงดุจฤดี  อภิวงศ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเครียด และเคล็ดลับการจัดการกับความเครียดที่ถูกวิธีว่า “ความเครียดนั้นเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดจากการที่คนเราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้รู้สึกกดดัน วิตกกังวล กระทั่งสภาวะจิตใจที่เปลี่ยนไปในด้านลบ และเมื่อสมองรับรู้ได้ว่าสภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจก็จะส่งผลเสียต่อการทำงานของฮอร์โมนทันที ทำให้ร่างกายมีสภาวะที่หัวใจเต้นแรง เหงื่อออก มือเท้าเย็น ปวดท้อง กระวนกระวาย หรือสมาธิไม่ดี อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นทันทีเมื่อคนเรามีความเครียด และหากใครที่ต้องเผชิญกับความเครียดอยู่เป็นเวลานานโดยที่ไม่รู้จักหาวิธีผ่อนคลายก็อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพตามมา เช่น อาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือเริ่มมีอาการซึมเศร้าเกิดขึ้น ดังนั้นเราควรหาวิธีที่จะได้ผ่อนคลายความเครียดเหล่านั้นออกมาบ้าง วิธีง่ายๆ เลยก็คือการพูดคุยให้กับคนที่เราไว้วางใจได้รับฟัง หรืออาจจะหากิจกรรมสนุกๆ ทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด เช่น ออกกำลังกายให้เหงื่อออก หรือการวาดภาพ เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิและผ่อนคลายความเครียดได้เช่นกัน โดยจะช่วยให้ความคิดของเรามาจดจ่ออยู่ที่การระบายสี นับเป็นกิจกรรมยามว่างที่ช่วยสร้างจินตนาการได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่บรรเทาความเครียดได้เร็วที่สุด เพราะเมื่อจมูกได้กลิ่นหอมอโรมาเธอราพีเพียงไม่กี่วินาทีก็จะส่งกลิ่นนั้นไปสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ ซึ่งสามารถสร้างความผ่อนคลายให้กับเราได้ในทันที”

สำหรับ กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เป็นศาสตร์แห่งการสร้างความผ่อนคลายแขนงหนึ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6,000 ปี ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน และอียิปต์ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งประโยชน์จากน้ำมันหอมระเหยนั้น นอกจากจะช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน สร้างบรรยากาศผ่อนคลายเมื่อต้องเข้าไปในสถานที่ใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อร่างกายได้รับกลิ่นหอม กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) จากนั้นส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์และมีอิทธิพลต่ออารมณ์ ได้แก่ เอ็นโดฟิน (Endorphin) สารที่ช่วยลดความเจ็บปวด คลายความเครียด และความวิตกกังวล, เอนเคฟาลิน (Enkephalin) สารที่ช่วยลดอาการซึมเศร้า และเซโรโทนิน (Serotonin) สารที่ช่วยทำให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลาย

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากเกิดความเครียดในครั้งหน้า ก็ไม่ต้องหาวิธีจัดการให้ยุ่งยากอีกต่อไป แค่ให้กลิ่นหอมบำบัดช่วยดีกว่า เพราะเป็นวิธีคลายความเครียดที่แสนง่ายดายและได้ผลรวดเร็วทันใจอีกด้วย


 

ขอบคุณข้อมูลจาก ธัญ (THANN)

Praew Recommend

keyboard_arrow_up