หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า พระภิกษุหรือนักบวชที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถทำอาชีพเสริมได้ แต่บางนิกายเท่านั้น เนื่องจากศาสนาพุทธในญี่ปุ่นนั้นมีหลายนิกาย มีทั้งรักษาพระธรรมวินัยเคร่งครัด และที่อนุญาตให้แต่งงานได้ ซึ่งแตกต่างจากของประเทศไทย ที่ต้องตัดเรื่องทางโลกและหมั่นปฏิบัติธรรมเท่านั้น โดยจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868) ระบอบโชกุนโดนล้มล้าง มีการฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิขึ้นมาใหม่โดยใช้ศาสนาชินโตเป็นเครื่องมือ ศาสนาพุทธจึงถูกกวาดล้าง ประเทศญี่ปุ่นเปิดเป็นระบบเสรีมากขึ้น วัดวาอารามต่างๆ ที่ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับนโยบายรัฐค่อยๆ หายไป และบางวัดก็เริ่มปรับตัวเพื่อรักษาวัดให้อยู่รอด บทบาทหน้าที่ของพระจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทำให้บางนิกายสามารถแต่งงานมีครอบครัว ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่ง นิกายโจโด พระสามารถแต่งงานมีภรรยาได้ โดยเริ่มมาจากนักบวชคนสำคัญของนิกายโจโด “โซนิน ชินรัน” เป็นผู้มีคติว่า “ฮิโชฮิโชกุ” ไม่มีพระไม่มีฆราวาส ทำให้พระในนิกายนี้มีภรรยาได้ ฉันเนื้อได้ มีความเป็นอยู่คล้ายฆราวาสนั่นเอง แม้นิกายนี้พระจะสามารถมีภรรยาและลูกได้ปกติ แต่เมื่อถึงเวลาปฏิบัติศาสนา ก็ต้องนุ่งห่มแบบนักบวช สวดมนต์ทำวัตร พอเสร็จกิจก็สามารถออกไปทำงานข้างนอกได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน หรืออาชีพเสริมต่างๆ สำหรับพระเซเลบชื่อดังอย่าง โคโดะ นิชิมูระ (Kodo Nishimura) เป็นพระชาวญี่ปุ่น ที่ได้เปิดเผยว่าตนเป็นเกย์ และเป็นเมคอัพอาร์ติสต์มืออาชีพ เรียกได้ว่าดังระดับโลกเลยทีเดียว เพราะพระโคโดะ นิชิมูระ นั้นมีฝีมือการแต่งหน้าที่ไม่ธรรมดา เพราะความสามารถทำให้ได้แต่งหน้าให้กับนางงามผู้เข้าประกวด Miss … Continue reading โคโดะ นิชิมูระ พระเกย์ชาวญี่ปุ่น ผู้เผยแพร่ความสุขจากศาสนาและการแต่งหน้า