หนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับเจ้าสาว คือ เวล เครื่องประดับผมในวันแต่งงานของคุณผู้หญิงทั้งหลายที่จะทำให้โททัลลุคถูกเติมเต็มและออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด อีกทั้งยังเป็นไอเท็มที่มีนานตั้งแต่สมัยก่อนและฮิตมาจนถึงปัจจุบัน แต่จะมีว่าที่เจ้าสาวคนไหนรู้ไหมคะ ว่า ’เวลเจ้าสาว’ มีทั้งหมดกี่แบบแล้วแตกต่างกันอย่างไร แล้วแบบไหนจะเหมาะกับเรา แพรวเวดดิ้งบทความนี้จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ
1.Birdcage Wedding Veil

เริ่มต้นกับสไตล์แรกที่จะพาเราย้อนกลับไปยุค 1940 และ 1950 กับเวลทรงกรงนก เป็นผ้าตาข่ายหรือผ้าโปร่งผืนสั้นที่คลุมระหว่างกลางศีรษะและหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าครึ่งล่าง บางครั้งผ้าคลุมแบบนี้มักจะมากับที่คาดผมหรือหมวกเพื่อช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับทรงผมมากขึ้น หากใส่กับชุดแต่งงานผ้าซาตินก็จะยิ่งให้กลิ่นอายความวินเทจสุด ๆ
2.Flyaway Wedding Veil

ต่อมาเป็นเวลแบบเรียบ ๆ ที่มีความยาวคลุมไหล่เล็กน้อย ส่วนของดีไซน์มักทำมาจากผ้าโปร่ง แล้วทำให้มีทรงแข็งมีทั้งแบบชั้นเดียวหรือเลเยอร์ก็ได้ เวลแบบนี้เหมาะกับงานแต่งงานที่ไม่ค่อยเป็นทางการ และชุดเจ้าสาวที่มีดีเทลช่วงหน้าอก และหลังเพื่อไม่ให้ลุคโดยรวมดูรกจนเกินไป
3. Blusher Wedding Veil

เวลสไตล์นี้มีไว้สำหรับคลุมหน้า หากใครนึกไม่ออก ให้จินตนาการถึงเวลาที่เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวออกในงานแต่งงานแบบคาทอลิก ซึ่งเวลแบบนี้ใช้นำไปติดกับเวลแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบสั้นหรือแบบยาว การเลือกชุดแต่งงานให้เลือกจากอีกอันเป็นหลัก เพราะสุดท้ายแล้ว Blusher Wedding Veil ก็จะถูกถอดออกหรือพลิกไปข้างหลังอยู่ดี
4. Elbow Wedding Veil

เวลสไตล์นี้สามารถอธิบายได้ตามชื่อเลย เพราะเป็นเวลที่คลุมมาตั้งแต่กลางศีรษะยาวมาจนถึงข้อศอก ด้วยความยาวที่กำลังพอดีทำให้ไม่ดูเอะอะจนเกินไป เหมาะสำหรับชุดเจ้าสาวที่ต้องการโชว์ดีเทลกระโปรง และอยากได้ความกะทัดรัด
5.Fingertip Wedding Veil

เวลชนิดนี้มีความยาวถึงปลายนิ้ว เป็นที่นิยมสำหรับชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์และเอไลน์เพราะจะช่วยเสริมให้ชุดดูอลังการมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มกิมมิกก็สามารถนำเวลมาสวมคู่กับมงกุฎดอกไม้ได้เช่นกัน
6. Ballet Wedding Veil

เวลสไตล์ Ballet เรียกอีกอย่างว่า เวลทรงวอลทซ์ซึ่งมีความยาวประมาณเข่า เป็นอีกหนึ่งแบบสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความอลังการแต่ก็อยากเดินสะดวกไม่ต้องกลัวสะดุดในซีนสำคัญ หากลองเอาไปใส่คู่กับชุดแต่งงานที่ความยาวระดับเดียวกันก็จะได้ลุคที่น่ารักไปอีกแบบ
7. Chapel Wedding Veil

สำหรับเวลชนิดต่อมาจะมีความทางการขึ้นมาหน่อยเพราะมักใช้สำหรับตอนที่เจ้าสาวเดินเข้าโบสถ์ โดยส่วนใหญ่แล้วความยาวของเวลและชุดแต่งงานจะมีขนาดเท่ากัน ถ้าใครอยากได้ความโดดเด่นก็สามารถเลือกเวลสไตล์นี้ที่ประดับตกแต่งด้วยลูดปัดได้
8. Cathedral Wedding Veil

เจ้าสาวคนไหนที่ชอบความเล่นใหญ่จะพลาดไม่ได้กับเวลสไตล์นี้ที่มีความยาวถึง 2 เมตร ช่วยเพิ่มความสง่างามขณะเดินราวกับเป็นเจ้าหญิง เหมาะทั้งกับชุดแต่งงานทรง Sheath, Empire และ Mermaid เพราะจะไม่ทำให้ชุดดูรกจนเกินไปค่ะ
9.Royal Wedding Veil

อ่านชื่ออย่างเดียวก็รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ และแน่นอนว่าเวลสไตล์นี้อลังการและยาวที่สุดถ้าเทียบกับทุกชนิด โดยส่วนใหญ่มักจะถูกสงวนไว้ใช้กับราชวงศ์เท่านั้น เรียกได้ว่าสมกับเป็น Royal Wedding Veil จริง ๆ
10. Juliet Wedding Veil

สำหรับผ้าคลุมสไตล์นี้บอกเลยว่าเหมาะสุด ๆ กับชุดแต่งงานสไตล์วินเทจ เพราะเป็นเวลยอดฮิตของปี 1910 และ 1920 โดยเวลชนิดนี้จะโค้งรับกับศีรษะและติดไว้เหนือหูทั้งสองข้าง พร้อมทั้งประดับด้วยลายปักหรือมุกเพื่อเพิ่มความหรูหรา
11. Mantilla Wedding Veil

เวลสไตล์ต่อมาเป็นผ้าโปรงทรงกลมขนาดใหญ่ใช้ติดห่างจากไรผมไม่กี่นิ้ว ส่วนจุดเด่นอยู่ที่ชายลูกไม้รอบ ๆ เวลที่จะช่วยเพิ่มความหวานให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เหมาะกับชุดเจ้าสาวดีไซน์หวาน ๆ แขนตุ๊กตา และแบบวินเทจ
12. Drop Wedding Veil

สำหรับเวลแบบสุดท้ายมาในทรงหยดน้ำ ที่การสวมใส่จะแปลกกว่าเวลชนิดอื่นที่พูดถึงไป เพราะการสวมใส่ที่ไม่ได้ติดบริเวณผมแต่เป็นการคลุมไปทั้งตัวแทน โดยดีไซน์อาจจะไม่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวเท่าไหร่จึงทำให้ถูกออกแบบมาให้ไม่มีเลเยอร์หลาย ๆ ชั้น เพื่อสะดวกต่อการมองเห็นมากขึ้น แนะนำให้ใส่คู่กับชุดแต่งงานดีเทลเรียบ ๆ เพื่อเสริมความโมเดิร์นของลุค
ภาพ : theknot.com
ข้อมูล : theknot.com