อยากตัดชุดแต่งงาน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี แพรวเวดดิ้งพาไปรู้จักความแตกต่างของผ้า 3 ชนิดก่อนประกอบร่างเป็นชุดเจ้าสาว
เชื่อว่าเจ้าสาวหลายคนอาจเลือกเลือกการตัดชุดแต่งงานเป็นของตัวเอง อาจเพราะอยากให้เข้ากับความชอบ หุ่น หรืออยากเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ แต่ต้องยอมรับว่ากว่าชุดสีขาวที่วาดฝันไว้จะเสร็จสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งใช่ว่าทุกคนจะรู้จักชนิดของผ้าเป็นอย่างดี ถึงแม้หน้าที่นี้จะตกเป็นของดีไซเนอร์และช่างตัดเย็บ แต่ตัวเจ้าสาวเองอยากรู้ไว้ก็ไม่ผิดนะคะ
โดยชุดแต่งงานโดยทั่วไปแล้วมักเลือกใช้ผ้า 3 ชนิดเป็นพื้นฐาน คือ Organza, Chiffon และ Tulle โดยแต่ละแบบจะแตกต่างกันอย่างไร? มาติดตามบทความนี้ไปพร้อมๆ กัน
Organza
เดิมผ้าชนิดนี้ทำจากผ้าไหม อีกทั้งยังทำจากโพลีเอสเตอร์หรือไนลอนก็ได้ โดยคุณสมบัติทั่วไปเป็นผ้าที่ไม่โปร่งใส แต่มีความบางและเรียบเนียนแต่เป็นมันเงา แข็งกว่าผ้าชีฟองและไม่ยืด ออร์แกนซ่ามักถูกใช้เป็นซับในให้วัสดุอื่นๆ เพราะไม่ได้ทำให้โครงสร้างชุดเปลี่ยนแปลงไปมากนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัสดุสำหรับแขนเสื้อซีทรูหรือจับจีบบนได้อีกด้วย แต่ข้อเสียของผ้าชนิดนี้คือเกิดรอยยับได้ง่ายนั่นเอง จากที่กล่าวมาทั้งหมดนอกจากใช้เป็นซับในแล้วผ้าชนิดนี้ฮิตมากๆ ในการออกแบบเดรสสไตล์โรแมนติกที่มีความทิ้งตัวด้วยเหตุผลที่ว่าผ้ามีน้ำหนักปานกลางตัดแล้วได้ทั้งความพริ้วและคมชัด
Chiffon

หากต้องการผ้าเดรปที่ลื่นไหลและนุ่มเป็นพิเศษ ผ้าชีฟองคือคำตอบ เพราะมีน้ำหนักเบา โดยผ้าขนิดนี้ทำจากผ้าไหมหรือไนลอน มีคุณสมบัติค่อนข้างโปร่งจึงจำเป็นต้องมีซับใน และด้วยทอที่ละเอียดมาก ทำให้ได้สัมผัสเกือบลื่นและมีความยืดหยุ่น ซึ่งผ้าชีฟองยังยับยากมากๆ อีกด้วย แต่ต้องระวังเรื่องการพันกันเพราะวัสดุอาจหลุดลุ่ยได้ง่ายมาก โดยสไตล์มีเหมาะที่สุดคือชุดแต่งงานแบบฟู่ฟ่อง แนวเทพนิยายราวหลุดออกมาจากความฝัน
Tulle

เมื่อได้ยินผ้าชนิดนี้ หลายคนอาจนึกถึงผ้าม่านสีขาวที่ใช้ประดับในงานต่างๆ ทันที โดยเฉพาะงานแต่งงาน หรือ Tutu ของนักบัลเล่ต์ ซึ่งจริงๆ แล้วผ้าทูลล์มีเนื้อสัมผัสแตกต่างกันไปด้วยคุณสมบัติที่แข็งกว่าสามารถทำให้กระโปรงฟูได้ โดยในปัจจุบันยังถือเป็นผ้าที่สวยงามและโปร่งสบาย แต่ยังคงรูปทรงได้ค่อนข้างดี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วผ้าชนิดนี้ไม่แข็งเท่าผ้าออร์แกนซ่า แต่จะแข็งกว่าชิฟฟ่อนเล็กน้อย ถือเป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบา เหมาะกับเดรสที่ต้องการความโปร่งสบาย เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูที่มีอากาศอบอุ่น
ข้อมูล: josabimariees.com