จากเด็กน้อยในสถานสงเคราะห์ บ้านเด็กกำพร้า เมืองไซง่อน ประเทศเวียดนาม และอาจเป็นเพราะพรหมลิขิต แพ็กซ์ เทียน จึงได้รับการอุปการะจากคู่รักบรรลือโลก ซุป’ตาร์ฮอลลีวู้ด แองเจลิน่า โจลี และ แบรด พิตต์ ทั้งที่ก่อนหน้าที่โจลีไม่คิดที่จะรับเด็กจากเวียดนาม
เติบโตขึ้นกลายเป็นเด็กหนุ่มมาดเข้มต่างจากบรรดาพี่น้องโดยสิ้นเชิงสำหรับ แพ็กซ์ เทียน โจลี-พิตต์ ลูกชายบุญธรรมของ แองเจลิน่า โจลี และ แบรด พิตต์ ที่ทั้งคู่รับอุปการะมาจากประเทศเวียดนาม
ต้องบอกเลยว่านับตั้งแต่โจลี-พิตต์ หย่าร้าง และ พี่ชายคนโตอย่าง แม็ดด็อกซ์ ย้ายไปเรียนที่ประเทศเกาหลีใต้ แพ็กซ์ ก็กลายเป็นพี่ชายที่รับหน้าที่ดูแลน้องๆ ร่วมกับ ซาฮาร่า มาร์ลีย์ พี่สาวคนรอง เรื่องราวในตัวเขาน่าสนใจไม่น้อยและนี่คือ 8 เรื่องของ แพ็กซ์ เทียนโจลี-พิตต์ ลูกชายที่ไม่ชอบออกสื่อของ แองเจลิน่า โจลี และ แบรด พิตต์
1.เด็กชายชาวเวียดนาม ที่ได้รับอุปการะจากคนดังระดับโลก
ครั้งหนึ่งโจลีได้ให้สัมภาษณ์กับ Vogue India ถึงการรับลูกบุญธรรมของเธอทั้ง 3 คนมาดูแล แม็ดด็อกซ์, ซาฮาร่า มาร์ลีย์ และ แพ็กซ์ เทียน โดยเฉพาะแพ็กซ์ที่ดูจะน่าสนใจกว่าใครทุกคน เพราะอันที่จริงแล้วโจลีไม่ได้ตั้งใจจะรับอุปการะลูกบุญธรรมจากประเทศเวียดนาม ทั้งนี้โจลีได้เล่าถึงเหตุผลที่ลึกซึ้งว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจรับอุปการะ แพ็กซ์ เทียนว่า
“เดิมทีฉันคิดว่าจะไม่รับเด็กมาจากเวียดนาม เพราะแม็ดด็อกซ์เป็นชาวกัมพูชาและทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน จากนั้นฉันก็ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และพบว่าตัวเองกำลังจ้องมองภาพของนักสู้ชาวเวียดนามที่ถูกชาวอเมริกันจับเป็นเชลย
สิ่งที่ฉันคิดคือ เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน แพ็กซ์คือพลังและจุดศูนย์กลางของชีวิตพวกเราทุกคน ฉันมีความสุขมากที่ได้รับอนุญาตให้เป็นแม่ของเขา ฉันรู้สึกขอบคุณในทุกๆ วัน”
2.เด็กน้อยวัย 3 ขวบ ในบ้านเด็กกำพร้า เมืองไซง่อน นครโฮจิมินห์
แพ็กซ์อาจไม่ได้รับอุปการะตั้งแต่ยังเป็นทารกน้อยเหมือนกับ แม็ดด็อกซ์ และ ซาฮาร่า เพราะเขานั้นได้มาอยู่ในฐานะลูกของโจลี และ แบรด พิตต์ ในปี 2007 ซึ่งขณะนั้นเด็กน้อยอายุได้ 3 ขวบ แพ็กซ์ เทียน ไม่ใช่ชื่อแรกของเขา แต่ชื่อเดิมนั้นคือ Pham Quang Sang เขาเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2546 แม่ที่แท้จริงชื่อ Pham Thu Dung จากนั้นจึงได้เปลี่ยนมาใช้ แพ็กซ์ เทียน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างภาษาละติน และ เวียดนาม และเมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “ท้องฟ้าอันแสนสงบ”
3.ระลึกถึงรากเหง้า เรียนรู้วัฒนธรรมที่ต่างกัน
แม้แองเจลิน่า โจลี จะรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกและได้สัญชาติอเมริกันอย่างเต็มตัว แต่ขณะเดียวกันโจลีก็ยังได้ปลูกฝังให้เด็กๆ ไม่ลืมบ้านเกิดที่พวกเขาจากมา และการพาเด็กๆ ไปยังหลายประเทศทั่วโลกก็เพื่อที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมในด้านต่างๆ อย่างในปี 2554 โจลีได้พาแพ็กซ์กลับไปยังบ้านเกิด เพื่อให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับรากเหง้าของตัวเอง ขณะเดียวกันโจลียังได้กล่าวอีกด้วยว่า
“ลูกๆ ของฉันทุกคนต่างเรียนรู้เกี่ยวกับบ้านเกิด และวัฒนธรรมของกันและกัน พวกเขาแขวนธงไว้บนหัวเตียง เพื่อให้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจในความแตกต่างกัน”
4.เป็นตัวของตัวเองเสมอ
ลูกๆ ทั้ง 6 คนของแองเจลิน่า โจลี และ แบรด พิตต์ นั้นมีคาแร็คเตอร์ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับแพ็กซ์นั้นเห็นเป็นคนเงียบขรึมแบบนี้ แต่เขาชอบเล่นดนตรี และอยากเป็นดีเจ รวมถึงตั้งแต่วัยเด็กแพ็กซ์ยังชอบทำอาหาร ซึ่งโจลีก็ส่งเสริม และสนับสนุนลูกๆ ทุกคนอย่างเต็มที่ โดยเธอปล่อยให้เด็กๆ เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ และให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เพราะเด็กๆ ทุกคนมีความฝันที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงไม่กำหนดชีวิตของลูกๆ แต่ให้เด็กๆ เรียนรู้ในเส้นทางของตัวเอง
5.รักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ครั้งหนึ่งขณะที่เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของ แม็ดด็อกซ์ และ แพ็กซ์ โจลีเคยให้เด็กๆ ได้ลองกินแมงป่อง และจักจั่น เธอเผยว่า ในเวียดนาม และ กัมพูชานั้นมีอาหารแปลกๆ อีกเยอะ เธอหวังว่าลูกๆ จะได้ลิ้มลองอาหารเหล่านี้ เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งในบทเรียนของความกล้าหาญ และ การอยู่รอดได้ในสังคมสำหรับเด็กๆ
6.ไม่ลืมภาษาบ้านเกิด
นอกจากภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักของเด็กๆ แล้ว แน่นอนว่าภาษาบ้านเกิดของพวกเขา โจลีก็ยังสนับสนุนให้เรียนรู้อีกด้วย โดยเฉพาะแพ็กซ์ เทียน ที่มีความสนใจในภาษาเวียดนาม โจลีกล่าวว่า เธอให้เด็กๆ เลือกเรียนภาษาที่ต้องการ เธอกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า แพ็กซ์กำลังเรียนภาษาเวียดนาม เด็กหนุ่มต้องการให้วิญญาณความเป็นนักรบแดง (ฉายาประเทศเวียดนาม) ยังอยู่ในตัวเขาเสมอ และโจลีไม่เคยห้ามลูกชายคนนี้เลย
7.เรียนรู้ที่จะให้
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าก่อนที่ แองเจลิน่า โจลี และ แบรด พิตต์ จะรับอุปการะแพ็กซ์ เทียน นั้น เขาเคยอยู่ในสถานสงเคราะห์ บ้านเด็กกำพร้า Tam Binh Child Nurturing Center (HCMC) แม้ว่าเขาจะถูกผู้เป็นแม่แท้ๆ ทิ้งไป แต่เพราะความโชคดีที่มากกว่าเด็กๆ คนอื่น เขาจึงได้เติบโตอย่างยอดเยี่ยมในฐานะลูกชายของนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังระดับโลก
และเพราะก้าวแรกของแพ็กซ์ที่อาจจะนำหน้าคนอื่น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมโจลีจึงต้องให้ลูกชายของเธอนั้นรู้จักแบ่งปัน และช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสมากกว่า แองเจลิน่า โจลี มักพาแพ็กซ์ไปด้วยในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งนั่นทำให้เขาเห็นสถานการณ์ที่น่าสงสารมากมาย แพ็กซ์รักการเดินทาง และชอบพบปะเพื่อนใหม่ ซึ่งโจลีเองก็ใช้โอกาสนี้เพื่อให้เขาช่วยเหลือผู้คน ทำให้แพ็กซ์ได้เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ และเรียนรู้ที่จะให้
8.ผลงานในวงการบันเทิง
แม้ แพ็กซ์ จะไม่ชอบออกสื่อ และไม่ปลื้มกับปาปารัสซี่มากนัก เพราะเขาเป็นคนขี้อาย แม้จะปรับตัวได้บ้างแล้วก็ตาม แต่การมีแม่และพ่อเป็นถึงนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง แน่นอนว่าผลงานในวงการบันเทิงก็ต้องมีบ้างล่ะ โดยแพ็กซ์นั้นเคยรับบทเป็นตัวประกอบเล็กๆ ในเรื่อง “Maleficent” ที่โจลีแสดงในปี 2014 และเขายังเคยพากย์เสียงในภาพยนตร์เรื่อง “Kung Fu Panda 3” ร่วมกับพี่และน้องของเขาอีก 5 คนด้วย
เรียบเรียงจาก : vn.theasianparent,
4 เรื่องของ แมดด็อกซ์ ลูกบุญธรรมที่มีชื่อเสียงที่สุด ในประวัติศาสตร์ฮอลลีวู้ด
5 เรื่องที่คุณไม่เคยรู้ของ ซาฮาร่า มาร์ลีย์ ลูกสาวเชื้อสายเอธิโอเปีย โจลี่-พิตต์
6 เรื่องของ “ไชโลห์” ลูกสาว โจลี่-พิตต์ สาวน้อยผู้เปลี่ยนตัวเองเป็น LGBTQ
ฝาแฝด 400 ล้าน! 5 เรื่องของ น็อกซ์-วิเวียน น้องเล็กแห่งตระกูล โจลี่-พิตต์