อายุเลข 4 แล้วไง! “วุธ-แมน-เอิร์ธ” จากเวที “หนุ่มแพรว” สู่เส้นทางชีวิตที่รุ่งโรจน์!

ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ (เอิร์ธ)

1 ใน 5 หนุ่มแพรวปี 1996

เอิร์ธเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เดินตามรอยของรุ่นพี่หลายๆ คนที่เคยผ่านเวทีหนุ่มสาวแพรว

“ตอนที่ผมสมัครเข้าประกวด เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยกันเป็นคนจัดการให้เสร็จสรรพ เขาเองก็สมัครด้วย และติด 1 ใน 5 เหมือนกัน ผมเป็นหนุ่มแพรวรุ่นพิเศษ คือในปีที่ผมสมัคร หลังจากคัดเข้ารอบแล้ว เกิดเหตุการณ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต (ปี พ.ศ.2538) จึงต้องเลื่อนจัดในปีต่อมา และทางแพรวก็บอกว่าจะสละสิทธิ์หรือไม่ก็ได้ ก็มีบางคนสละสิทธิ์ ส่วนผมอยู่ต่อ ปีต่อมาก็มีการรับสมัครอีกรอบ แล้วคัดเลือกคนใหม่มารวมกัน

“ตอนประกวดก็สนุกดีครับ มีพี่ม้า – อรนภา กฤษฎี เป็นคนสอนเดินแบบ สอนการถอดสูทระหว่างเดิน ฯลฯ แล้วผมยังได้ประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงผมจากเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งให้รู้จักการแต่งหน้า ทำผม การแต่งตัวให้เหมาะกับตัวเอง แล้วปีผมประกวดมีการเก็บตัวก่อนขึ้นเวทีด้วย คือไปนอนค้างกันที่โรงแรมดุสิตธานีคืนหนึ่ง จำได้ว่าทั้งคืนนั้นพวกเราแทบไม่ได้นอน เพราะรู้สึกสนุกเหมือนไปนอนเล่นกับเพื่อน เช้าวันประกวดก็มาซ้อมเดินกัน บรรยากาศการประกวดไม่เหมือนกับแข่งขัน เพราะเราสนิทกัน ใครได้ก็ยินดีด้วย”

ภาพ : @earth_earthsun

หนุ่มแพรวบนเส้นทางพิธีกร

เอิร์ธเป็นหนุ่มแพรวที่ได้เลือกเดินบนเส้นทางสายพิธีกร และเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี “หลังจากการประกวดแล้วมีคนรู้จักผมในวงกว้างมากขึ้น ทั้งที่ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ปี 3 และเริ่มทำงานเป็นวีเจทางแชนแนลวีแล้ว แต่คนยังไม่รู้จักมากนัก เวทีประกวดหนุ่มสาวแพรวจึงถือว่าเป็นเวทีใหญ่ที่ทุกคนรู้จัก เหมือนเป็นการต่อยอดให้ผมได้ทำงานในวงการนี้ ซึ่งผมมาทางสายวีเจและพิธีกรมากกว่าสายแฟชั่น ถ่ายแบบ เดินแบบ คงเป็นเพราะจังหวะด้วย คือมีพี่สไตลิสต์คนหนึ่งแนะนำว่าผมเป็นพิธีกรดีกว่า ได้เงินมากกว่า (หัวเราะ) แต่ผมก็มีโอกาสได้เล่นละครนะ เป็นของพี่ไก่ – วรายุฑ เรื่องผู้หญิงชั้นหนึ่ง ซึ่งพี่เขาน่ารักมาก ปรับบทให้เหมาะกับผม ทุกวันนี้ผมก็ยังรับงานพิธีกรและทำรายการอาหารคาเฟ่ ออน เอิร์ธ ทำหน้าที่กึ่งโปรดิวเซอร์ด้วย และรายการเอ็มคัท

ภาพ : @earth_earthsun

ละอบายมุขคือเคล็ดลับความอ่อนกว่าวัย

แม้อายุของเอิร์ธจะมีตัวเลข 4 นำหน้า แต่หน้าตาผิวพรรณของเขาก็ยังดูสดใส อ่อนกว่าวัย ซึ่งเขาเล่าว่า “จากปีที่ประกวดถึงตอนนี้  ผ่านมา 21 ปีแล้ว หลายคนบอกว่าผมยังไม่ดูเปลี่ยน ไม่เหมือนคนที่ขึ้นเลขหลักสี่แล้วเลย คงต้องบอกว่าผมหมั่นดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ คือผมไม่ติดปาร์ตี้ดึกดื่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่เลย จึงไม่มีเรื่องพวกนี้มาบั่นทอน ส่วนอาหารนี่บอกตรงๆ ว่าผมชอบกินขนมมากกว่าข้าว แต่เวลากินก็จะพิถีพิถันหน่อยว่าจะกินประมาณไหน อาหารเสริมก็กินบ้าง อะไรที่กินแล้วช่วยทำให้เราดูดี ดูเด็กลง ก็จัดหามาให้รางวัลร่างกาย แล้วก็หมั่นออกกำลังกาย เมื่อก่อนเข้าฟิตเนสเป็นประจำ แต่ตอนนี้คิดว่าไม่จำเป็นละ เพราะผมไม่มีเวลา ก็พยายามหาเวลาออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือเดินที่บ้านแทน

“ส่วนทางจิตใจและอารมณ์ ผมว่ามีส่วนสำคัญที่จะทำให้เรายังดูอ่อนกว่าวัย คงเป็นเพราะผมอารมณ์ดี เข้ากับคนง่าย มองโลกในแง่ดี เวลามีปัญหาในเรื่องงานหรือธุรกิจของตัวเองที่สร้างความเครียด ผมก็คิดเสียว่าช่างมัน เป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้น อย่าซีเรียสเกินไป แล้วค่อยๆ หาวิธีแก้ไขไปเป็นเปลาะๆ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น

“แล้วปกติผมไม่ค่อยโกรธใคร ถ้าคนไหนโดนผมโกรธถือว่าคนนั้นสุดๆ ละครับ”

#ScotchForeverYoung #หนุ่มสาวแพรวReunion #สก๊อตรังนกแท้ #นิตยสารแพรว #PraewMag

Praew Recommend

keyboard_arrow_up