“ตอนนี้ทัวร์คอนเสิร์ตเป็นมากกว่าอาชีพไปแล้วเกินความเป็นงานเป็นเงินไปนานแล้ว เพราะเวลาผมไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วเห็นคนสนุก ผมก็สนุกด้วย วันไหนหยุดไปก็คิดถึง ความสนุกนี้คือแรงบันดาลใจและเอนเนอจี้ต่างๆ เขาเฮฮาเราก็เก็บตรงนั้นมา
กลายเป็นชีวิตเราที่จำเป็นต้องเล่น ในเมื่อเขายังอยากดูกันอยู่ แต่ก็มีลดหลั่นลงไปบ้างตามสภาวะ และอายุ (หัวเราะ)
“ตอนนี้พยายามหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น จริงๆ ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ ความใฝ่ฝันในชีวิตไม่ใช่นักร้อง แต่อยากเป็นนักกีฬาอาชีพเลยละ เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ อายุ 13 ปีก็อยู่ทีมไอซ์ฮ็อกกี้จากนั้นก็เล่นมาเรื่อยๆ จนเพิ่งมาจริงจังมากเมื่อตอนที่ออกจากแกรมมี่ เพราะเหนื่อย อยากไปทำอะไรที่สบายๆ บวกกับเริ่มมีอายุ จะให้มานั่งทำงานหนักแบบเดิมไม่ได้แล้ว
“ตอนนั้นคิดเลยว่ายังมีความฝันอย่างหนึ่งที่เราทำไม่สำเร็จคือการเป็นนักกีฬา ที่ผ่านมาไปฝึกพารามอร์เตอร์อยู่ 4 ปี จนได้แชมป์ประเทศไทย แล้วไปติดทีมชาติ เป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งที่ประเทศจีน ได้เหรียญทองกลับมา เริ่มรู้สึกสนุกเลยทำให้เล่นไปเรื่อยๆ ทั้งหัดยิงธนู ตีกอล์ฟ จนตอนนี้มาปั่นจักรยาน เป็นกีฬาแรกที่ใช้กำลังร่างกายจริงๆ เลยได้ความแข็งแรงกลับเยอะมาก
“เรื่องกีฬาผมเน้นเอาสนุก แต่ก็มีเป้าหมายนะคือ อยากปั่นขึ้นดอยสุเทพให้ได้ ก็ขับรถไปคนเดียวแล้วปั่นจากถนนนิมมานฯขึ้นไปเลย ระยะทาง 15 กิโลเมตร แต่ไปแค่ 500 เมตรแรกก็ไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม(หัวเราะ) คือผิดคาดมาก ปั่นที่กรุงเทพฯ 70 กิโลเมตร ทางเรียบนี่โอเคมาก แต่พอขึ้นดอยนี่คือหนังชีวิตเลย ในใจคิดว่าอุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกล ถ้าปั่นกลับลงตอนนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพราะมีเพื่อนรอดูอยู่ (หัวเราะ)
“สุดท้ายก็ปั่นถึงนะครับ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า ทริปนั้นคือกลายเป็นมิชชั่น ไม่ใช่การแข่งขันอีกต่อไปแล้ว เพราะเราตั้งเป้าว่าต้องเอาชนะให้ได้ โกลสูงสุดคือพิชิตยอดดอยอินทนนท์ คิดว่าต้องไปแน่ ซึ่งหนักกว่านี้ 3-4 เท่า
“ผมชอบกิจกรรม ชอบกีฬา จึงต้องหาอะไรทำไม่อย่างนั้นชีวิตก็จะมีแต่ทำงาน กลับบ้าน หรือจะให้ไปกินเหล้าก็ไม่ไหวแล้ว เลยต้องเป็นเรื่องของกิจกรรมแทน
“แต่กลายเป็นว่าวันที่ไม่ทำงาน เหนื่อยกว่าวันทำงานเยอะเลย”(หัวเราะ)
เรื่อง : apinya
ภาพ : joeybangkokboy