โน้ส-อุดม ยอมรับ ช่วงนี้ผมกำลังมีเมนส์!

ลูกน้องของอุดมเล่าว่า ตอนนี้เจ้านายกำลังมีเมนส์ เพราะเครียดกับการเตรียมงานเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 11

ใช่ๆ (หัวเราะ) ช่วงนี้ผมเหมือนผู้หญิงมีเมนส์ อาการที่บ่งบอกคือ เงียบกว่าปกติ หงุดหงิดง่าย ลูกน้องบอกว่า หน้าเป็นตูดทุกวัน แต่ไม่ได้หงุดหงิดเหมือนวัยรุ่น ประเภทขว้างของหรือเหวี่ยงวีน อาการของผมจะนิ่งลึกเข้าไปอีกขั้น เช่น นั่งคิดงานตั้งแต่เช้า 7 โมง ลงมากินข้าวเช้าแล้วกลับขึ้นไปนั่งที่เดิมโดยไม่ได้พูดกับใคร สักพักไปอาบน้ำเย็นๆ แล้วกลับมานั่งที่เดิมอีกโดยไม่ได้มีไอเดียผุดขึ้นมา ผมไม่ได้ชอบที่เป็นอย่างนั้นนะ แต่เป็นสิ่งที่ต้องเจอก่อนทำเดี่ยวไมโครโฟนทุกครั้ง เป็นความกดดันที่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ไม่รู้จะถามเรื่องนี้กับใคร เพราะการทำเดี่ยวไมโครโฟนไม่เหมือนเปิดร้านเค้กที่ไปสมัครเรียน หรือหาสูตรในอินเตอร์เน็ตได้ จึงเป็นสภาวะที่ผมต้องออกไปเผชิญกับแบบทดสอบ เจอความผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมันด้วยตัวเอง

ข่าวลือที่ว่า อุดมกลับมาทำเดี่ยวไมโครโฟนแต่ละครั้งเพราะเงินหมดนี่จริงไหม

จริง! (หัวเราะ) ผมมีรายได้หลักจากเดี่ยวไมโครโฟน เป็นสิ่งที่ทำเพื่อหาเลี้ยงชีพและหาเลี้ยงองค์กร ขณะที่งานศิลปะที่ทำมีแต่เรื่องเสียเงิน ส่วนร้านอาหารนี่หนักสุด กว่าจะได้แต่ละบาทนี่เลือดตาแทบกระเด็น เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนนิดหน่อย และเรายังต้องใช้คนเยอะ เพราะฉะนั้นเดี่ยวไมโครโฟนคือรายได้หลักที่ทำให้มีเงินไปจัดสรรส่วนต่างๆ

เรื่องหนึ่งที่คนรอฟังในเดียวไมโครโฟนคือ การเมือง โชว์ครั้งหลังๆ อุดมแตะเรื่องนี้บ่อย แสดงว่าเป็นคนแข็งแกร่ง

ความจริงไม่ได้อยากเป็นคนอย่างนั้น ไม่ได้อยากมีภาพลักษณ์ว่า ครั้งต่อไปไอ้อุดมจะกัดเรื่องการเมือง ผมก็กลัวเหมือนที่ชาวบ้านกลัวนั่นแหละครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ หรือได้รับการแบ็คอัพหนุนหลัง แล้วการพูดเรื่องนี้ก็ยากขึ้นทุกที เพราะการเมืองบ้านเราเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ วันรุ่งขึ้นอาจเรียกผมเข้าไปปรับทัศนคติ ซึ่งเอาจริงๆ ผมอยากเข้าไปฟังนะ ว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน

จริงๆ มีวิธีไปถึงตรงนั้นได้นะครับ

อย่าเลย (หัวเราะ) สแตนด์อัพคอเมดี้ในเมืองไทยยากกว่าประเทศอื่น เรามีข้อห้ามหลายอย่างที่อาจไม่ใช่ข้อกฎหมาย แต่เป็นเส้นที่รู้อยู่ว่าไม่ควรข้าม เช่น ศาสนา มาเฟีย ตำรวจ ซึ่งถ้าเป็นในฝั่งยุโรปหรืออเมริกาสามารถล้อได้หมด ทีนี้เมื่ออยู่ในที่ที่มีข้อจำกัดก็มี 2 วิธีให้ทำ ข้อแรกคือ ท้อแท้ไปเลย ส่วนข้อสอง คิดว่าเป็นความท้าทาย ซึ่งผมเลือกมองแบบหลัง ทุกวันนี้ผมรู้สึกสนุกในการคิดถึงเรื่องห้ามพูดต่างๆ มาคิดว่า ลองดูซิว่าจะหลบเลี่ยงอย่างไร

ปัจจัยเหล่านี้ถ้ามองแง่หนึ่งคืออุปสรรค แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทาย ปัญหาเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ เป็นความท้าทายของคอเมเดี้ยนที่จะคิดงานโดยมีข้อจำกัดเยอะๆ ให้คนหัวเราะได้อย่างไร นี่เป็นความตื่นเต้นในส่วนของผม

ความจริงผมมีเรื่องอยากเล่าเยอะ แต่ขึ้นอยู่กับกาลเทศะ เพื่อนๆ จึงชอบเวลาเราอยู่ด้วยกันในกลุ่ม เพราะผมสามารถเล่าอะไรก็ได้ เขาเคยคิดจัด ‘อุดม เดี่ยว ดาร์กไซด์’ (หัวเราะ) เวลาผมเล่าเรื่องที่ข้ามเส้นไปบ้าง เพื่อนจะชอบ แต่คงไม่มีใครมารับผิดชอบด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว สแตนด์อัพคอเมดี้ต้องเป็นแบบนั้น คือพูดทัศนคติของสิ่งที่เราเห็นกับเรื่องต่างๆ รอบตัว แบบนั้นจะโคตรสนุกเลย น่าเสียดายที่ทำแบบนั้นไม่ได้
note1

เดี่ยวไมโครโฟนที่กำลังจะเดินทางถึงครั้งที่ 11 เราเรียกอุดมว่า ตำนานได้หรือยัง

เรียกว่าตำมานานดีกว่า 20 กว่าปีละ ถ้าเป็นพริกนี่ละเอียดกลายเป็นแป้งทาตัวได้เลย ผมว่าตัวเองเหมือนคนขายข้าวเหนียวมะม่วงชื่อ เจ๊แอ๊ว ที่ชลบุรี เธอขายมา 30-40 ปี ขอยกให้อร่อยที่สุดในประเทศไทย ข้าวเหนียวมะม่วงที่ราดน้ำกะทิสดแบบท่วมๆ แล้วโรยถั่วเหลือง มะม่วงมีให้เลือกทั้งน้ำดอกไม้ อกร่อง อร่อยมากจนผมต้องขับรถไปกิน เคยจับเวลาจากบ้านไปร้านเจ๊แอ๊ว วิ่งขึ้นทางด่วนบางกะปิ ผ่านบางนา ไปชลบุรีประมาณ 48 นาที บางทีแอบลูกน้องไปแล้วกลับมาทำงาน คืออยากกินตอนนั้นไง เจ๊แอ๊วทำมานานจนเป็นเนื้อเดียวกับสิ่งที่ทำแล้ว เหมือนจะคุยกับมะม่วงรู้เรื่อง สามารถบอกได้ว่า ลูกนี้ไม่ดี ไม่ขาย ข้าวเหนียวยังไม่ได้ อย่ากิน ซึ่งบางครั้งผมขับรถไปถึงแล้วเจอแบบนั้น เจ๊ไม่สนด้วยว่าเอ็งมาจากไหน แต่วันนี้ฉันไม่ขาย อย่ากินเลย

48 นาทีจากบางกะปิไปชลบุรี…

ขับกลับบ้านอีก 48 นาทีด้วย ถามว่าเสียอารมณ์ไหม นิดหน่อย แต่มันได้ตรงที่เจ๊แอ๊วทำให้รู้สึกชื่นชม มีเรื่องเดียวกันอย่างนี้ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ เช่น ร้านซูชิดังๆ ของญี่ปุ่น ที่ถ้าของยังไม่ดีที่สุดก็ไม่อยากให้ลูกค้ากิน ผมมองตัวเองแบบนั้น ทำเดี่ยวไมโครโฟนมากว่า 20 ปี ขันติ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ใช้หมดอยู่ในนี้ ผมรักอาชีพนี้มาก ถ้าทำก็อยากทำให้ดีขึ้น ถ้ามีอะไรที่ยังพัฒนาได้อีก ผมก็จะทำสิ่งนั้น เหมือนตอนนี้ที่เตรียมงานจนปวดหัว ผมก็ต้องรับสภาพหมกมุ่นอยู่กับมันทั้งวัน แล้วหน้าก็เป็นตูดเหมือนคนมีเมนส์อยู่เนี่ย

เวลาเหมือนมีเมนส์ แล้วอุดมใช้อะไรเป็นตัวช่วย

เวลาเครียดๆ ผมชอบดูรายการ The Voice ของเมืองนอก ดูแล้วเกิดกำลังใจในการสร้างสรรค์งาน ถือเป็นเคล็ดลับในการทำเดี่ยวไมโครโฟนเลยนะ ถ้ารู้สึกห่อเหี่ยว ผมจะดูรายการแนวนั้น ชอบเวลากรรมการคอมเม้นท์ตรงๆ เสียบเข้าไปในใจว่า ดีหรือไม่ดีอย่างไร เวลาร้องเพลง ร้องแค่เสียง แค่แอ็คติ้ง จิตวิญญาณข้างในร้องด้วยหรือเปล่า เชื่อเพลงนั้นไหม ฟังคอมเม้นท์แบบนั้นแล้วผมมีแรงอยากทำงานให้ดีขึ้น

อย่างตอนนี้ผมนั่งออกแบบฉากมาเดือนหนึ่งแล้ว ลูกน้องบอกว่า เฮียครับ เอาเวลาไปทำบทดีไหม (หัวเราะ) เท่าที่ผมศึกษาเรื่องสแตนด์อัพคอเมดี้จากทั่วโลก ไม่มีใครมานั่งทำฉากเหมือนผมหรอก ให้เป็นคอเมดี้เฟสติวัลใหญ่แค่ไหน แทบไม่มีใครสนใจเรื่องฉาก

แต่ที่ผมยอมเสียเวลาเพราะอยากทำจริงๆ ถ้าให้เปรียบเทียบกับการเล่นฟุตบอล ผมก็อยากเล่นฟุตบอลในสนามที่หญ้าสีเขียวสวยๆ ได้รับการตัดเป็นทางสวยงาม ถ้ายืนเล่นต้องอย่างนี้ ถ้าบนเวทีเดี่ยวมีฉากเป็นแค่ผ้าม่าน ผมยืนแล้วอาจไม่สบายตัว ทำทั้งที ต้องทำให้ดีนั่นแหละ
note2

เปิดจองบัตรเดี่ยว 11 : จะมีการจัดแสดงทั้งหมด 15 รอบ 15 วันภายในกรุงเทพฯ เท่านั้น โดยราคาบัตรอยู่ที่ 1,500 – 4,500 บาท เวลา 19:00 น. เหมือนกันทุกรอบ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่ วันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป

วันเวลาการแสดงเดี่ยว 11 : ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 กันยายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2558 (เว้นวันจันทร์ที่ 14 และ 21 กันยายน 2558)

เรื่อง ปารัณ เจียมจิตต์ตรง
ภาพ : เนาวพจน์ โพธิเกษม
สไตลิสต์ : RHOY

Praew Recommend

keyboard_arrow_up