ท่ามกลางวิกฤติยังมีโอกาส ท่ามกลางความมืดมิดยังมีแสงสว่าง เมื่อประตูทุกบานปิดลง ก็ยังมีช่องหน้าต่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอแค่ไม่ยอมแพ้ เพราะมนุษย์เรามีศักยภาพและความสามารถ ที่น่าทึ่งซ่อนอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ อันเดรอา โบเชลล (ANDREA BOCELLI) นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลีระดับตำนาน ที่แม้จะเป็นผู้พิการทางสายตา แต่อุปสรรคนี้ก็ไม่สามารถทำให้เขาย่อท้อต่อชีวิตได้
อันเดรอา โบเชลล นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลีระดับตำนาน
อันเดรอามีดวงตาเป็นต้อหินมาแต่กำเนิด หมอทำได้แค่รักษาการ มองเห็นของเขาไว้ได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ กระทั่งในวัย 12 ปี ขณะที่เขาเล่น ฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุโดนลูกฟุตบอลอัดเข้าเต็มดวงตา ส่งผลให้เลือดออกในสมองจนทำให้ตาของเขาบอดสนิทตั้งแต่นั้น
สิ่งเดียวที่เยียวยาจิตใจอันเดรอาในช่วงเวลานั้นคือดนตรี ที่เขาฉายแววดีเด่นมาตั้งแต่เด็ก โดยอันเดรอาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ต่อด้วยฟลูต แซกโซโฟน และเครื่องดนตรีอีกหลายชนิด แม้จะตาบอดแล้ว เขาก็เพียร พยายามหัดอ่านโน้ตดนตรีจากอักษรเบรลล์ ทั้งยังตระเวนประกวดร้องเพลง ตามเวทีต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 14 ปีจนได้รับรางวัลมาหลายครั้ง แต่เขากลับเลือกเรียน ด้านกฎหมายที่ University of Pisa ตามความต้องการของพ่อแม่ ก่อนจะจบ ออกมาทำงานด้านกฎหมายอยู่พักใหญ่ โดยยังคงไปร้องเพลงและเล่นเปียโน ตามบาร์ยามค่ำเพื่อหารายได้พิเศษด้วย จนได้รู้จักกับคนในแวดวงดนตรี
กระทั่งวันหนึ่งในปี 1992 เขาได้ร้องอัดเดโมเทปเพลง Miserere ที่ Zucchero Fornaciari ซุป’ ตาร์ของวงการเพลงอิตาลีในขณะนั้นตั้งใจทำให้ Luciano Pavarotti นักร้องเพลงโอเปร่าเสียงเทเนอร์ (เสียงสูง) เป็นคนร้อง แต่พอปาวารอตตีได้ยินเสียงของอันเดรอาแล้วประทับใจอย่างแรง จึงขอให้มาร้องเพลงนี้ด้วยกัน จนกลายเป็นเพลงแจ้งเกิดของอันเดรอาและกลายเป็น เพลงฮิตไปทั่วยุโรป ต่อมาเขาได้คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทดาวรุ่งดวงใหม่ จากเทศกาล Sanremo ในปี1994 รวมถึงได้ออกอัลบั้มแรกในอิตาลีด้วย ในปี 1999 อันเดรอาก็ได้รับการยอมรับในฐานะนักร้องโอเปร่า (เสียงเทเนอร์) อันดับหนึ่งของโลก คว้ารางวัลด้านดนตรีจากหลากหลายสถาบัน ทำยอดขายทั่วโลกได้เกิน 90 ล้านอัลบั้ม
ที่น่าประทับใจคือ อันเดรอาไม่เคยมองว่าตัวเองพิการ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำตัวให้เหมือนคนปกติ เพราะเขาไม่อยากให้ใครทำเหมือนกับเขาเป็นคนพิการ ด้วยความมุ่งมั่น เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และ ไม่ยอมแพ้ เขาจึงสามารถเอาดีด้านการร้องเพลงและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ทั้งยัง สามารถเดิน ขี่ม้า และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วราวกับมองเห็น และแม้เขาจะสูญเสียการมองเห็นไป แต่ประสาทสัมผัสในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะ เป็นการสัมผัส การรับกลิ่น และการฟังของเขากลับเหนือชั้นกว่าคนทั่วไป
จนถึงวันนี้เขาก็ยังเป็นนักร้อง นักเขียนและนักประพันธ์ที่ได้รับความ เคารพและชื่นชมจากคนทั่วโลก และยังร่วมงานกับศิลปินป๊อปรุ่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่าง Ed Sheeran และ Matteo ลูกชายรูปหล่อของเขาที่กลายเป็น ซุป’ ตาร์ไม่แพ้พ่อ รวมทั้งมีครอบครัวเปี่ยมสุขกับภรรยาคนปัจจุบันและลูกๆ ทั้งสามในวิลล่าสุดหรูที่ทัสกานี นอกจากนี้เขายังก่อตั้ง Andrea Bocelli Foundation เพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ยากไร้และผู้ป่วยต่างๆ ล่าสุดได้ระดมทุนเพื่อมอบเงินให้โรงพยาบาลเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ด้วย
ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไรหรือสูญเสียอะไรไป หากคุณพร้อมที่จะสู้ วันหนึ่งก็ต้องเปล่งประกายอย่างแน่นอน “Like stars across the sky, we were born to shine.”
สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ครูหัวใจยิ่งใหญ “ปีเตอร์ ทาบิชิ” อุทิศทั้งแรงกายแรงใจ ช่วยเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน
ถึงชีวิตจะเศร้าแต่เขาไม่เคยยอมแพ้ LOUIS YEN ศิลปินโปลิโอผู้ยิ่งใหญ่
สู้ชีวิตจนกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน คริส การ์ดเนอร์ ชายผู้เคยเป็นอดีตคนไร้บ้าน